น่าจะมีสถาบันสอนวิธีอยู่ร่วมกัน
น่าจะมีสถาบันสอนวิธีอยู่ร่วมกัน
—————————–
เราอยู่ร่วมกันเป็นสังคม
แต่น่าประหลาดที่สมัยนี้ไม่มีใครหรือหน่วยงานไหนอบรมสั่งสอน “คุณธรรมเพื่อการอยู่ร่วมกัน” ให้แก่สมาชิกของสังคม
………………………………
โรงเรียน – สอนแต่วิชาการ
บ้าน – ตีนถีบปากกัด
วัด – ชักชวนแต่เรื่องพิธีกรรม
………………………………
ความจริง-คืออยู่ร่วมกัน
ความประพฤติ-คือต่างคนต่างอยู่
ก็คงต้องใช้ความอดทนมากขึ้น
และเจริญสติให้มากขึ้นด้วย
ในการหาวิธีอยู่ในแบบ-ต่างคนต่างอยู่ร่วมกัน
คือเอาลักษณะนิสัย-ต่างคนต่างอยู่ (ทำอะไรเหมือนมีตัวคนเดียวอยู่ในโลก)
กับลักษณะนิสัย-อยู่ร่วมกัน (ทำอะไรคิดถึงคนอื่นๆ ด้วยเสมอ)
มาประสมกันให้กลมกลืนเป็น “ต่างคนต่างอยู่ร่วมกัน”
…………………..
ถ้ามีสถาบัน หน่วยงาน หรืออะไรสักอย่างทำหน้าที่ฝึก สอน อบรม กล่อมเกลา ปลูกฝัง สมาชิกของสังคมให้มีคุณสมบัติที่พึงประสงค์ในการอยู่ร่วมกัน ก็จะดีนักหนา
ว่ากันตามโครงสร้างของสังคมไทย —
วัด-ควรทำหน้าที่นี้
วัด-เหมาะอย่างยิ่งที่จะรับผิดชอบเรื่องนี้
และในอดีตกาลไม่นานไกล วัดก็เคยทำหน้าที่นี้มาแล้ว
แต่ก็อย่างที่บอกไว้ข้างต้น –
ทุกวันนี้วัดชักชวนแต่เรื่องพิธีกรรม
เรื่องขอพร
เรื่องแก้บน
ขอให้ดลบันดาล
กิจกรรมอบรมสั่งสอนศีลธรรม-โดยเฉพาะหลักคำสอนในพระพุทธศาสนาโดยตรงนั่นเอง-วัดก็แทบจะไม่ได้ทำกันแล้ว
………………………………
สำหรับวัดที่ยังดำเนินกิจกรรมธรรมะอยู่
ขอกราบคารวะและถวายกำลังใจมา ณ ที่นี้
………………………………
ใครมีทุนดี มีความสามารถ ผมขอเสนอไอเดีย ให้เปิดโรงเรียนหรือตั้งสถาบันฝึกอบรมวิชาการอยู่ร่วมกันในสังคม
คนที่จบจากโรงเรียนหรือสถาบันนี้แล้ว –
ตัวเองก็อยู่ในสังคมอย่างมีความสุข
ทั้งยังทำให้คนที่อยู่ร่วมกันในสังคมมีความสุขด้วย
ลองคิดตั้งขึ้นมาสิครับ
ก็เห็นคุยนักว่าคนรุ่นเรานี้ฉลาดกว่าคนรุ่นก่อน
มิเช่นนั้นก็ต้องยอมรับตรงๆ ว่าคนรุ่นเราไม่ได้ฉลาดกว่าบรรพบุรุษของเราเลย
ที่พิสูจน์ได้ชัดๆ ก็คือ คนรุ่นเราได้แต่บ่นว่าสังคมทุกวันนี้อยู่ยากขึ้นทุกวัน
แต่ไม่มีสติปัญญาที่จะแก้ไข มีแต่แรงบ่น
ในขณะที่บรรพบุรุษของเราท่านใช้หลักธรรมในพระพุทธศาสนาเข้ามาช่วยอบรมกล่อมเกลาให้คนอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุขมาช้านาน
แต่คนรุ่นเรานี่เองกลับทิ้งหลักธรรมนั้น
และกำลังจะทิ้งพระพุทธศาสนาทั้งศาสนาเอาด้วยซ้ำ
พลเรือตรี ทองย้อย แสงสินชัย
๑๑ มกราคม ๒๕๖๕
๑๕:๕๑
……………………………………..
น่าจะมีสถาบันสอนวิธีอยู่ร่วมกัน