ถ้าไม่เรียนหลัก ก็ต้องรู้จักจำเป็นคำๆ
ถ้าไม่เรียนหลัก ก็ต้องรู้จักจำเป็นคำๆ
————————————
ในบรรดาคำบาลีที่คนไทยนิยมเอามาพูดหรือเอามาอ้างติดปาก เช่น “อตฺตา หิ อตฺตโน นาโถ” เป็นต้น คำในชุดที่มีคำว่า “ปรม” ประสมอยู่ด้วยก็มีคนเอาไปพูดกันอยู่บ้างพอสมควร
คำในชุดนี้ก็คือ –
……………………………
อาโรคฺยปรมา ลาภา
สนฺตุฏฺฐีปรมํ ธนํ
วิสฺสาสปรมา ญาตี
นิพฺพานปรมํ สุขํ
(อาโรค๎ยะปะระมา ลาภา
สันตุฏฐีปะระมัง ธะนัง
วิสสาสะปะระมา ญาตี
นิพพานะปะระมัง สุขัง)
……………………………
“ปรม” อ่านว่า ปะ-ระ-มะ แปลว่า “อย่างยิ่ง” ในที่นี้หมายถึง “มี-เป็นอย่างยิ่ง” มีอะไรเป็นอย่างยิ่ง ก็ดูที่คำที่อยู่ข้างหน้า “-ปรม”
๑ “อาโรคฺยปรมา ลาภา” แปลตามสำนวนบาลีว่า “ลาภมีความไม่มีโรคเป็นอย่างยิ่ง”
เอาสิ่งที่ถือว่าเป็น “ลาภ” มาประกวดกัน
“ความไม่มีโรค” ชนะเลิศ
เพราะอะไร?
เพราะความไม่มีโรคเป็นบรมลาภหรือเป็นยอดแห่งลาภ นี่คือ ความไม่มีโรคเป็นลาภอย่างยิ่ง
พูดสำนวนบาลีว่า “ลาภมีความไม่มีโรคเป็นอย่างยิ่ง”
๒ “สนฺตุฏฺฐีปรมํ ธนํ” แปลตามสำนวนบาลีว่า “ทรัพย์มีความสันโดษเป็นอย่างยิ่ง”
เอาสิ่งที่ถือว่าเป็น “ทรัพย์” มาประกวดกัน
“ความสันโดษ” ชนะเลิศ
เพราะอะไร?
เพราะความสันโดษเป็นบรมทรัพย์หรือเป็นยอดแห่งทรัพย์ นี่คือ ความสันโดษเป็นทรัพย์อย่างยิ่ง
พูดสำนวนบาลีว่า “ทรัพย์มีความสันโดษเป็นอย่างยิ่ง”
๓ “วิสฺสาสปรมา ญาตี” แปลตามสำนวนบาลีว่า “ญาติมีความคุ้นเคยเป็นอย่างยิ่ง”
เอาสิ่งที่ถือว่าเป็น “ญาติ” มาประกวดกัน
“ความคุ้นเคย” ชนะเลิศ
เพราะอะไร?
เพราะความคุ้นเคยเป็นบรมญาติหรือเป็นยอดแห่งญาติ นี่คือ ความคุ้นเคยเป็นญาติอย่างยิ่ง
พูดสำนวนบาลีว่า “ญาติมีความคุ้นเคยเป็นอย่างยิ่ง”
๔ “นิพฺพานปรมํ สุขํ” แปลตามสำนวนบาลีว่า “สุขมีพระนิพพานเป็นอย่างยิ่ง”
เอาสิ่งที่ถือว่าเป็น “สุข” มาประกวดกัน
“พระนิพพาน” ชนะเลิศ
เพราะอะไร?
เพราะพระนิพพานเป็นบรมสุขหรือเป็นยอดแห่งสุข นี่คือ พระนิพพานเป็นสุขอย่างยิ่ง
พูดสำนวนบาลีว่า “สุขมีพระนิพพานเป็นอย่างยิ่ง”
………………
โปรดสังเกต คำที่อยู่หน้า “ปรม” เขียนติดเป็นคำเดียวกับ “ปรม” ทุกคำ –
อาโรคฺยปรมา
สนฺตุฏฺฐีปรมํ
วิสฺสาสปรมา
นิพฺพานปรมํ
………………
คำที่เรามักพบว่าเขียนที่ไหนผิดที่นั่นทุกครั้งไปคือ “อาโรคฺยปรมา ลาภา”
คำนี้คนจะเขียนเป็น “อโรคยา ปรมา ลาภา” ทุกที่ ทุกครั้ง
คือไปแยก “อโรคยา” เป็นคำหนึ่ง “ปรมา” เป็นอีกคำหนึ่ง นี่คือเขียนผิดเพราะไม่เข้าใจหลักภาษา
แม้แต่เอาไปพูดก็จะพูดเป็น “อะโรคะยา ปะระมา ลาภา” แบบนี้ทุกครั้งไป นี่ก็เพราะไม่เข้าใจหลักภาษาเช่นกัน
เฉพาะ “อโรคยา ปรมา” นี้ผิดถึง ๒ ชั้น คือ –
ชั้นหนึ่ง: คำเดิม “อาโรคฺย” เอามาเขียนหรือพูดเป็น “อโรคยา”
จาก “อา-” เป็น “อ-”
จาก “-ย” เป็น “-ยา”
ชั้นสอง: คำเดิมเขียนติดกันเป็นคำเดียวกัน คือ “อาโรคฺยปรมา” เอามาเขียนแยกเป็น ๒ คำ คือเป็น “อโรคยา ปรมา”
ปัญหาเหล่านี้เกิดจากความไม่เข้าใจหลักภาษาบาลี
ไม่เข้าใจยังพอว่า
แต่แทบทั้งหมดไม่สงสัย
ไม่เฉลียวใจ
ไม่คิดจะเรียนรู้
และไม่คิดจะเข้าใจให้ถูกต้องใดๆ ทั้งนั้น
ทุกคนเชื่อมั่นว่าที่เขียนอย่างนั้นที่พูดอย่างนั้นถูกต้องแล้ว
………………
ผมถูกตำหนิว่า –
……………………………
“คุณไปว่าเขาก็ไม่ถูก เพราะเขาไม่รู้
คุณรู้คุณก็ต้องบอกเขา
เป็นความผิดของคุณเองที่ไม่บอกเขา”
……………………………
นักเรียนบาลีในเมืองไทยมีเป็นพันเป็นร้อย
แต่ทองย้อยโดนคนเดียว ฮ่า ฮ่า ฮ่า
ผมพยายามจะแก้ความผิดของตัวเองให้หลุด ด้วยการแก้ความเข้าใจผิดของคนที่เอาคำเหล่านี้ไปพูดไปอ้าง พยายามมาเรื่อย แต่จะได้ผลแค่ไหน บรรดาท่านผู้เขียนผิดพูดผิดจะต้องร่วมมือด้วย
ความพยายามนี้จะไม่มีประโยชน์อะไรเลยถ้าท่านผู้ที่เขียนผิดพูดผิดไม่ปรับแก้ความคิดของตัวเอง หรือไม่มีฉันทะอุตสาหะที่จะเรียนรู้รับรู้อะไรทั้งสิ้น
ผมคงโดนอีก-คุณต้องบอกให้เขารับรู้ด้วย ไม่ใช่บอกลอยๆ
ครับ จะพยายามต่อไป
พลเรือตรี ทองย้อย แสงสินชัย
๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๕
๑๗:๒๗
………………………………………….
ถ้าไม่เรียนหลัก ก็ต้องรู้จักจำเป็นคำๆ
………………………………………….