ใครสร้าง ใครอยู่ ใครดูแล
ใครสร้าง ใครอยู่ ใครดูแล
————————
ในภาษาพระ “เสนาสนะ” หมายถึง ที่อยู่ที่อาศัยของพระ เมื่อมีการตั้งวัดเป็นหลักเป็นฐานในสังคมพระพุทธศาสนาแล้ว “เสนาสนะ” หมายรวมถึง สิ่งก่อสร้างทั้งปวงในอาราม
ในต้นพุทธกาล ภิกษุในพระพุทธศาสนาอาศัยโคนไม้เป็นที่พัก อันเป็นเครื่องแสดงให้รู้ว่าเป็นผู้สละละวางทรัพย์สินทั้งปวง แม้กระทั่งที่อยู่ก็อาศัยธรรมชาติล้วนๆ
หลักข้อหนึ่งใน ๔ หลักแห่งการดำรงชีวิตของภิกษุที่พระอุปัชฌาย์ปฐมนิเทศให้ฟังตั้งแต่วันแรกที่บวชก็คือ
“รุกฺขมูลเสนาสนํ นิสฺสาย ปพฺพชฺชา”
ถอดความว่า “ชีวิตนักบวชในพระพุทธศาสนาอาศัยโคนไม้เป็นที่อยู่”
แม้ภายหลังจะมีผู้มีศรัทธาสร้างที่พักถวายและมีพุทธานุญาตให้ภิกษุใช้สอยได้ การอยู่โคนไม้ก็ยังเป็นข้อปฏิบัติที่ถือกันว่าเป็นการขัดเกลาอัธยาศัยอย่างหนึ่ง ดังปรากฏเป็นธุดงค์ข้อหนึ่งในธุดงค์ ๑๓ ข้อ ที่เรียกว่า “รุกขมูลิกังคะ” แปลว่า “องค์แห่งภิกษุผู้ถือการอยู่โคนไม้เป็นวัตร” (tree-root-dweller’s practice)
…………..
บรรพชิตในพระพุทธศาสนาเมื่อจะใช้สอยเสนาสนะ ท่านสอนให้พิจารณาก่อนดังนี้ –
…………..
ปะฏิสังขา โยนิโส เสนาสะนัง ปะฏิเสวามิ = เราย่อมพิจารณาโดยแยบคายแล้วใช้สอยเสนาสนะ
ยาวะเทวะ สีตัสสะ ปะฏิฆาตายะ = เพียงเพื่อบำบัดความหนาว
อุณ๎หัสสะ ปะฏิฆาตายะ = เพื่อบำบัดความร้อน
ฑังสะมะกะสะวาตาตะปะสิริงสะปะสัมผัสสานัง ปะฏิฆาตายะ = เพื่อบำบัดสัมผัสอันเกิดจากเหลือบ ยุง ลม แดด และสัตว์เสือกคลานทั้งหลาย
ยาวะเทวะ อุตุปะริสสะยะวิโนทะนัง ปะฏิสัลลานารามัตถัง. = เพียงเพื่อบรรเทาอันตรายอันจะพึงมีจากดินฟ้าอากาศ และเพื่อความเป็นผู้ยินดีอยู่ได้ในที่หลีกเร้นสำหรับภาวนา
…………..
การพิจารณาก่อนใช้สอยเสนาสนะเช่นนี้เป็นเครื่องแสดงถึงการดำรงชีพตามวิถีชีวิตของสงฆ์
…………..
ตามพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พุทธศักราช ๒๕๐๕ คณะสงฆ์ไทยแบ่งงานออกเป็น ๔ สาย เรียกว่า “องค์การ” คือ –
องค์การปกครอง
องค์การศึกษา
องค์การเผยแผ่
องค์การสาธารณูปการ
ตามพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พุทธศักราช ๒๕๓๕ ที่ใช้อยู่ในปัจจุบันแม้จะไม่มีองค์การเหล่านี้แล้ว แต่คณะสงฆ์ก็ยังทำงานตามแนวของ “องค์การ” ที่เคยมีมา ทั้งยังได้เพิ่มงานขึ้นอีกรวมเป็น ๖ ด้าน คือ –
การปกครอง
การศาสนศึกษา
การศึกษาสงเคราะห์
การเผยแผ่พระพุทธศาสนา
การสาธารณูปการ
การสาธารณสงเคราะห์
คำว่า “สาธารณูปการ” ของคณะสงฆ์ไทย เป็นที่รู้เข้าใจกันว่าคือ งานเกี่ยวกับการก่อสร้างและบูรณปฏิสังขรณ์เสนาสนะนั่นเอง
งานที่เกี่ยวกับ “เสนาสนะ” นี้ เคยมีความสำคัญมากถึงกับใช้เป็นตัวชี้วัดว่าพระสังฆาธิการรูปไหนควรจะได้รับสมณศักดิ์หรือตำแหน่งหน้าที่ในคณะสงฆ์ให้ดูที่-ได้สร้างเสนาสนะ เช่นสร้างโบสถ์ สร้างศาลามาแล้วกี่หลัง
แม้เวลานี้ ทั้งๆ ที่จำนวนพระภิกษุสามเณรตามวัดต่างๆ ลดลงไปทุกทีอย่างน่าวิตก แต่ค่านิยมสร้างเสนาสนะก็ยังไม่ได้หมดไปจากสังคมไทย
พระสังฆาธิการระดับจังหวัดรูปหนึ่งเคยกล่าวไว้ว่า –
……………………………….
สร้างวัดไม่กี่ปีก็เสร็จ
แต่การดูแลรักษาวัดต้องทำโดยไม่มีวันเสร็จ
……………………………….
ทุกครั้งที่คิดจะสร้างเสนาสนะ หรือบอกบุญสร้างเสนาสนะ ไม่ว่าจะใหญ่โตเช่นโบสถ์ศาลา หรือกระจ้อยร่อยเช่นกุฏิห้องเดียว อย่าลืมหาคำตอบให้ได้ก่อน-สร้างไปทำไม ใครสร้าง ใครอยู่ ใครดูแล?
พลเรือตรี ทองย้อย แสงสินชัย
๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๕
๑๖:๓๙
……………………………………
ใครสร้าง ใครอยู่ ใครดูแล