โจรีภริยา (บาลีวันละคำ 3,606)
โจรีภริยา
ภรรยาเยี่ยงโจร
…………..
สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ เมืองสาวัตถี ได้ทรงแสดงเรื่องภรรยา 7 ประเภท โปรดนางสุชาดาสะใภ้ของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี ภรรยา 7 ประเภทมีคำเรียกตามบาลีพระไตรปิฎก (ภริยาสูตร สัตตกนิบาต อังคุตรนิกาย พระไตรปิฎกเล่ม 23 ข้อ 60) ดังนี้:-
วธกสมา = ภรรยาเสมอด้วยผู้ฆ่า
โจรสมา = ภรรยาเสมอด้วยโจร
อัยยสมา = ภรรยาเสมอด้วยนาย
มาตุสมา = ภรรยาเสมอด้วยมารดา
ภคินิสมา = ภรรยาเสมอด้วยน้องสาว
สขีสมา = ภรรยาเสมอด้วยเพื่อน
ทาสีสมา = ภรรยาเสมอด้วยทาส
ในภาษาไทย ท่านใช้คำเรียกภรรยาทั้ง 7 ประเภทว่า วธกาภริยา โจรีภริยา อัยยาภริยา มาตาภริยา ภคินีภริยา สขีภริยา ทาสีภริยา
…………..
“โจรีภริยา” อ่านว่า โจ-รี-พะ-ริ-ยา
ประกอบด้วยคำว่า โจรี + ภริยา
(๑) “โจรี”
อ่านว่า โจ-รี รูปคำเดิมเป็น โจร + อี ปัจจัย
(ก) “โจร” บาลีอ่านว่า โจ-ระ รากศัพท์มาจาก จุรฺ (ธาตุ = ลัก, ขโมย) + ณ ปัจจัย, ลบ ณ, แผลง อุ ที่ จุ-(รฺ) เป็น โอ (จุรฺ > โจร)
: จุรฺ + ณ = จุรณ > จุร > โจร แปลตามศัพท์ว่า “ผู้ลักขโมย” หมายถึง ขโมย, โจร (a thief, a robber)
ในภาษาไทย พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า –
“โจร ๑, โจร– : (คำนาม) ผู้ร้ายที่ลักขโมยหรือปล้นสะดมทรัพย์สินผู้อื่นเป็นต้น. (ป., ส.).”
(ข) โจร + อี ปัจจัยเครื่องหมายอิตถีลิงค์ = โจรี แปลว่า “สตรีผู้ลักขโมย”
(๒) “ภริยา”
บาลีอ่านว่า พะ-ริ-ยา รากศัพท์มาจาก ภรฺ (ธาตุ = เลี้ยง) + อิ อาคม + ย ปัจจัย + อา ปัจจัยเครื่องหมายอิตถีลิงค์
: ภรฺ + อิ + ย = ภริย + อา = ภริยา แปลตามศัพท์ว่า “ผู้อันสามีต้องเลี้ยงดู”
พจนานุกรมบาลี-อังกฤษ แปล “ภริยา” ว่า a wife และบอกคำแปลตามรากศัพท์ไว้ว่า one who is supported (ผู้ถูกเลี้ยงดู)
บาลี “ภริยา” ในภาษาไทยใช้ว่า “ภริยา” และ “ภรรยา”
พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า –
(1) ภริยา : (คำนาม) ภรรยา, เมีย, หญิงที่เป็นคู่ครองของชาย, คู่กับ สามี. (ป.; ส. ภารฺยา).
(2) ภรรยา : (คำนาม) ภริยา, เมีย, หญิงที่เป็นคู่ครองของชาย, คู่กับ สามี. (ส. ภารฺยา; ป. ภริยา).
โปรดสังเกตศึกษาวิธีให้คำนิยามของพจนานุกรมฯ
“ภริยา” บอกว่าคือ “ภรรยา”
“ภรรยา” ก็บอกว่าคือ “ภริยา”
หมายความว่าทั้ง 2 คำใช้ได้เท่ากัน ไม่มีคำไหนเป็นคำหลัก-คำรอง คือเป็นคำหลักทั้งคู่ คำนิยามต่อมาก็ตรงกันทั้ง 2 คำ
โจรี + ภริยา = โจรีภริยา แปลว่า “ภรรยาผู้เป็นเหมือนคนลักขโมย” หรือ “ภรรยาเยี่ยงโจร”
ขยายความ :
ในพระไตรปิฎก (สัตตกนิบาต อังคุตรนิกาย เล่ม 23 ข้อ 60) มีคาถาที่เป็นพระพุทธพจน์แสดงลักษณะของ “โจรีภริยา” ดังนี้
…………..
ยํ อิตฺถิยา วินฺทติ สามิโก ธนํ
สิปฺปํ วณิชฺชญฺจ กสิมธิฏฺฐหิ
อปฺปมฺปิ ตสฺมา อปหาตุมิจฺฉติ
ยา เอวรูปา ปุริสสฺส ภริยา
โจรี จ ภริยาติ จ สา ปวุจฺจติ ฯ
…………..
แปลโดยประสงค์ว่า –
…………..
สามีของหญิงหาทรัพย์มาได้เป็นนักหนา
ด้วยงานฝีมือ การค้า และการเกษตร (เป็นต้น)
ภรรยาก็ฉ้อฉลยักยอกจนชั้นแต่น้อยนิดก็ไม่เว้น
บุรุษมีภรรยาชั่วเช่นมีลักษณะฉะนี้
พระจอมมุนีตรัสเรียกว่า “โจรีภริยา” ภรรยาเยี่ยงโจร
…………..
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลธรรม ของท่าน ป.อ. ปยุตฺโต ข้อ [282] สรุปลักษณะของ “โจรีภริยา” ไว้ดังนี้
…………..
2. โจรีภริยา (ภรรยาเยี่ยงโจร, ภรรยาผู้ล้างผลาญทรัพย์สมบัติ — Corī-bhariyā: a wife like a robber; thievish wife)
…………..
ดูก่อนภราดา!
: ปล้นสามี
: คือปล้นความดีของตัวเอง
#บาลีวันละคำ (3,606)
27-4-65
…………………………….
…………………………….