บาลีวันละคำ

พรหมปุโรหิต (บาลีวันละคำ 3,515)

พรหมปุโรหิต

รูปพรหมชั้นที่สอง

อ่านว่า พฺรม-มะ-ปุ-โร-หิด

พรหมปุโรหิต” เขียนแบบบาลีเป็น “พฺรหฺมปุโรหิต” อ่านว่า พฺรม-มะ-ปุ-โร-หิ-ตะ ประกอบด้วยคำว่า พฺรหฺม + ปุโรหิต 

(๑) “พฺรหฺม” 

คำว่า “พฺรหฺม” ออกเสียงอย่างไร?

ลองออกเสียงว่า พะ-ระ-หะ-มะ ช้าๆ แล้วค่อยๆ เร่งให้เร็วขึ้น จะได้เสียงที่ถูกต้องของคำว่า “พฺรหฺม” ในบาลี 

แต่โดยทั่วไป นักเรียนบาลีในเมืองไทยออกเสียงว่า พฺรม-มะ หรือ พฺรำ-มะ 

พฺรหฺม” รากศัพท์มาจาก พฺรหฺ (ธาตุ = เจริญ, ประเสริฐ) + (มะ) ปัจจัย 

: พฺรหฺ + = พฺรหฺม แปลตามศัพท์ว่า “ผู้เจริญด้วยคุณ” ใช้ในความหมายดังนี้ –

(1) ความดีประเสริฐสุด (the supreme good)

(2) คัมภีร์พระเวท, สูตรลึกลับ, คาถา, คำสวดมนต์ (Vedic text, mystic formula, prayer)

(3) เทพผู้ยิ่งใหญ่ในศาสนาพราหมณ์ ถือกันว่าเป็นผู้สร้างจักรวาล (the god Brahmā chief of the gods, often represented as the creator of the Universe)

(4) เทวดาพวกหนึ่งที่อยู่บนสรวงสวรรค์ชั้นสูงที่เรียกว่า พรหมโลก (a brahma god, a happy & blameless celestial being, an inhabitant of the higher heavens [brahma-loka])

(5) สิ่งศักดิ์สิทธิ์, คนศักดิ์สิทธิ์ (holy, pious, a holy person)

ในแง่ตัวบุคคล คำว่า “พฺรหฺม” หมายถึง –

(1) เทพสูงสุดหรือพระผู้เป็นเจ้าในศาสนาพราหมณ์

(2) เทพในพรหมโลก เป็นผู้ไม่เกี่ยวข้องด้วยกาม มี 2 พวกคือ รูปพรหม มี 16 ชั้น อรูปพรหม มี 4 ชั้น

(3) ผู้ประเสริฐด้วยคุณธรรม 4 ประการ คือ เมตตา (ปรารถนาให้อยู่เป็นปกติสุข) กรุณา (ตั้งใจช่วยเพื่อให้พ้นจากปัญหา) มุทิตา (ยินดีด้วยเมื่อมีสุขสมหวัง) อุเบกขา (วางอารมณ์เป็นกลางเมื่อได้ทำหน้าที่ถูกต้องครบถ้วนแล้ว)

ในที่นี้ “พฺรหฺม” มีความหมายตามข้อ (2) ที่เพิ่งกล่าวนี้ หรือข้อ (4) ข้างต้น

(๒) “ปุโรหิต

อ่านแบบบาลีว่า ปุ-โร-หิ-ตะ รากศัพท์มาจากคำว่า ปุร + หิต 

(ก) “ปุร” บาลีอ่านว่า ปุ-ระ รากศัพท์มาจาก –

(1) ปุ (ธาตุ = รักษา) + ปัจจัย

: ปุ + = ปุร แปลตามศัพท์ว่า “ที่ที่รักษาประชาชนจากอำนาจของศัตรู

(2) ปุรฺ (ธาตุ = รักษา) + ปัจจัย

: ปุรฺ + = ปุร แปลตามศัพท์ว่า “ที่ที่รักษาประชาชน

ปุร” (นปุงสกลิงค์) ในบาลีใช้ในความหมายดังนี้ –

(1) เมือง, ป้อม, บุรี (a town, fortress, city) 

(2) ที่อยู่อาศัย, บ้านหรือส่วนที่แยกกันของบ้าน (dwelling, house or divided part of a house) 

ความหมายในข้อ (2) นี้ เช่นในคำว่า “อนฺเตปุร” หมายถึง ห้องของสตรี, ที่อยู่ของสนมกำนัล, สำนักนางใน (lady’s room, harem)

(3) ร่างกาย (the body) 

(ข) “หิต” บาลีอ่านว่า หิ-ตะ รากศัพท์มาจาก ทหฺ (ธาตุ = ทรงไว้, ตั้งไว้) + ปัจจัย, ลบ – ต้นธาตุ (ทหฺ > ), ลง อิ อาคมหน้าปัจจัย (ทหฺ + อิ +

: ทหฺ + อิ + = ทหิต > หิต แปลตามศัพท์ว่า “สิ่งอันเขาตั้งไว้

หิต” ในบาลี ถ้าเป็นคำนาม (ปุงลิงค์) หมายถึง เพื่อน, ผู้มีบุญคุณ (a friend, benefactor) และคำนาม (นปุงสกลิงค์) หมายถึง คุณประโยชน์, พร, ความดี (benefit, blessing, good) 

หิต” ถ้าใช้เป็นคุณศัพท์ หมายถึง มีประโยชน์, เหมาะสม, เป็นประโยชน์, เป็นมิตร (useful, suitable, beneficial, friendly) 

ในภาษาไทย พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า –

หิต, หิต– : (คำนาม) ความเกื้อกูล, ประโยชน์. (ป., ส.).”

ปุร + หิต + (อะ) ปัจจัย, แปลง อะ ที่ (ปุ)- เป็น โอ (ปุร > ปุโร)

: ปุร + หิต = ปุรหิต + = ปุรหิต > ปุโรหิต (ปุงลิงค์) แปลตามศัพท์ว่า “ผู้เกื้อกูลแก่เมือง” 

พจนานุกรมบาลี-อังกฤษ แปล “ปุโรหิต” ไว้ดังนี้ –

(1) placed in front, i. e. foremost or at the top (มีตำแหน่งข้างหน้า, คืออยู่หน้าที่สุดหรือสูงสุด) 

(2) the king’s headpriest [brahmanic], or domestic chaplain, acting at the same time as a sort of Prime Minister (ปุโรหิตของพระราชา [เกี่ยวกับทางพราหมณ์], หรือปุโรหิตจารย์, คืออาจารย์ประจำราชสำนัก แต่ในขณะเดียวกันทำหน้าที่เป็นอัครมหาเสนาบดี) 

บาลี “ปุโรหิต” สันสกฤตก็เป็น “ปุโรหิต” 

สํสกฤต-ไท-อังกฤษ อภิธาน บอกความหมายไว้ดังนี้ –

(สะกดตามต้นฉบับ)

ปุโรหิต : (คำนาม) ปุโรธัส, พระประจำวงศกุลหนึ่งๆ (เปนผู้ทำพิธีหรือการบูชายัญต่างๆ); the family priest (conducting all the ceremonials and sacrifices of a house or family).”

พจนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับประมวลศัพท์ ของท่าน ป.อ. ปยุตฺโต บอกความหมายของ “ปุโรหิต” ไว้ดังนี้ –

ปุโรหิต : พราหมณ์ผู้เป็นที่ปรึกษาของพระราชา.”

ในภาษาไทย พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า –

ปุโรหิต : (คำนาม) พราหมณ์ที่ปรึกษาของพระมหากษัตริย์ในทางนิติ คือ ขนบธรรมเนียมจารีตประเพณี. (ป., ส.).”

พฺรหฺม + ปุโรหิต = พฺรหฺมปุโรหิต แปลว่า “ผู้เป็นดุจปุโรหิตในหมู่พรหม” หมายถึง เทพที่เข้าถึงสถานะพรหมชั้นที่ 2 เหนือพรหมปาริสัชชาขึ้นไปชั้นหนึ่ง 

พจนานุกรมบาลี-อังกฤษ แปล “พฺรหฺมปุโรหิต” ว่า minister or priest to Mahābrahmā (พรหมปุโรหิต หรือเสนาบดีของมหาพรหม) 

และอ้างถึงคำว่า “พฺรหฺมปุโรหิตเทว” แปลไว้ว่า gods inhabiting the next heaven above the Brahma-pārisajjā deva (เทพที่อยู่ในสวรรค์ชั้นสูงกว่าพรหมปาริสัชชะไปชั้นหนึ่ง)

ในบาลี “พฺรหฺมปุโรหิต” เป็นคุณศัพท์ขยายคำว่า “เทวา” (เทวดาทั้งหลาย) เปลี่ยนรูปเป็น “พฺรหฺมปุโรหิตา” (พฺรม-มะ-ปา-ริ-สัด-ชา)

พฺรหฺมปุโรหิตา” ในที่นี้ใช้ในภาษาไทยเป็น “พรหมปุโรหิต” ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 ซึ่งบอกไว้ดังนี้ –

พรหมปุโรหิต : (คำนาม) พราหมณ์ชั้นสูง; ชื่อพรหมหมู่หนึ่งอยู่ในสวรรค์อันสูงกว่าชั้นพรหมปาริสัช; ชื่อคัมภีร์แพทย์ว่าด้วยต้นเหตุที่มนุษย์เกิด. (ส.).”

อภิปรายขยายความ :

ในคัมภีร์ชั้นอรรถกถาลงมา ขยายความคำว่า “พรหมปุโรหิต” ไว้ดังจะขอยกมาเสนอบางแห่ง ดังนี้ 

…………..

เตสํ  โปโรหิตฏฺฐาเน  ฐิตตฺตา  พฺรหฺมปุโรหิตา  ฯ

เหล่าเทพที่ชื่อว่าพรหมปุโรหิต ก็เพราะดำรงอยู่ในตำแหน่งปุโรหิตของพวกมหาพรหมเหล่านั้น

ที่มา: อภิธัมมัตถวิภาวินี หน้า 158

…………..

เตสํ  ปุโรหิตภาเว  ฐิตาติ  พฺรหฺมปุโรหิตา  ฯ

พรหมชั้นนี้ชื่อว่า พรหมปุโรหิต ก็โดยความหมายว่า ดำรงอยู่ในความเป็นปุโรหิตของพวกมหาพรหมเหล่านั้น 

ที่มา: สัมโมหวิโนทนี อรรถกถาวิภังคปกรณ์ หน้า 834

…………..

คัมภีร์สุมังคลวิลาสินี อรรถกถาทีฆนิกาย ตอนอธิบายมหานิทานสูตร อธิบายเรื่องพรหม 3 จำพวกที่เกิดด้วยอำนาจปฐมฌานเหมือนกัน คือ พรหมปาริสัชชา พรหมปุโรหิต และมหาพรหม เปรียบเทียบกันดังนี้ –

…………..

เตสุ  พฺรหฺมปาริสชฺชา  ปน  ปริตฺเตน  อภินิพฺพตฺตา  ฯ  เตสํ  กปฺปสฺส  ตติโย  ภาโค  อายุปฺปมาณํ  ฯ

ในบรรดาเทพเหล่านั้น พรหมปาริสัชชาเกิดด้วยปฐมฌานระดับต่ำ พรหมปาริสัชชานั้นอายุประมาณ 3 ส่วนของกัป 

พฺรหฺมปุโรหิตา  มชฺฌิเมน  ฯ  เตสํ  อุปฑฺฒกปฺโป  อายุปฺปมาณํ  ฯ  กาโย  จ  เตสํ  วิปฺผาริกตโร  โหติ  ฯ

พรหมปุโรหิตเกิดด้วยปฐมฌานระดับปานกลาง อายุประมาณกึ่งกัป และกายของพรหมปุโรหิตนั้นผึ่งผายกว่าพรหมปาริสัชชา

มหาพฺรหฺมาโน  ปณีเตน  ฯ  เตสํ  กปฺโป  อายุปฺปมาณํ  ฯ  กาโย  ปน  เตสํ  อติวิปฺผาริกตโรว  โหติ  ฯ

มหาพรหมเกิดด้วยปฐมฌานระดับประณีต อายุประมาณ 1 กัป กายของมหาพรหมนั้นผึ่งผายยิ่งขึ้นไปกว่าพรหมปุโรหิต

ที่มา: สุมังคลวิลาสินี ภาค 2 หน้า 176-177

…………..

สรุปว่า “พรหมปุโรหิต” เป็นชื่อของพรหมชั้นที่ 2 ในรูปาวจรภูมิซึ่งมีทั้งหมด 16 ชั้น เป็นผู้ที่เจริญปฐมฌานระดับปานกลางมาเกิด มีอายุประมาณกึ่งกัป

…………..

ดูก่อนภราดา!

: พรหมยังต้องมีที่ปรึกษา

: ทำงานเพื่อปวงประชา อย่าทำอะไรตามใจตัวเอง

#บาลีวันละคำ (3,515)

26-1-65 

…………………………….

ดูโพสต์ในเฟซบุ๊กของครูทองย้อย

…………………………….

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *