สุภาพบุรุษสองสลึง
สุภาพบุรุษสองสลึง
——————–
ตอนผมเรียนบาลีประโยค ๓ สำนักเรียนวัดมหาธาตุ ราชบุรี ปี ๒๕๐๘ พระมหาดำรง ปฐมาภิชาโต ครุฑหิรัญ ป.ธ.๕ เป็นครูสอนวิชาแปลธรรมบท
ท่านอาจารย์ดำรงค์เป็นครูที่มีจิตวิทยาวิชาครูดีมาก ก่อนลงมือเรียนในแต่ละวันท่านจะเล่าเรื่องข่าวสารบ้านเมืองหรือเหตุการณ์ที่น่าสนใจที่เกิดขึ้นในช่วงเวลานั้นๆ ให้นักเรียนฟัง และเปิดโอกาสให้นักเรียนซักถามในเรื่องที่เล่า เป็นการเสริมความรู้และเปิดโลกทัศน์อย่างหนึ่ง
คราวหนึ่งมีข่าวต่างประเทศว่ามีคนแอบไปตัดหัวรูปนางเงือก ลิตเติ้ลเมอร์เมด (The statue of The Little Mermaid) ที่ทำเป็นอนุสาวรีย์ที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งที่ริมอ่าวโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก ท่านก็เก็บข่าวมาเล่าให้นักเรียนฟัง แล้วให้แสดงความเห็นว่าทำไมจึงมีคนทำเช่นนั้น แล้วก็โยงมาถึงความคิดที่จะสร้างรูปนางเงือกที่แหลมสมิหลา จังหวัดสงขลาของเรา (รูปนางเงือกที่แหลมสมิหลาสร้างเมื่อปี ๒๕๐๙)
พวกเรารู้สึกว่าท่านเป็นครูที่ “ทันสมัย” มากๆ
บางวันท่านก็เล่าเรื่องเบาๆ ขำๆ อย่างเรื่องนี้ —
—————-
สมัยนั้นรถเมล์ในกรุงเทพฯ ค่าโดยสารสองสลึง คือ ๕๐ สตางค์ตลอดสาย
หลังเวลาเลิกงานวันหนึ่ง สุภาพบุรุษหนุ่มแต่งตัวดีคนหนึ่งยืนคอยรถเมล์ที่ป้ายรถโดยสารประจำทาง มีผู้รอรถโดยสารที่ป้ายนั้นเป็นจำนวนมาก
ชายหนุ่มถือเหรียญสลึงสองอันเท่าราคาค่าโดยสาร เดาะเล่นในมือไปพลางขณะยืนรอรถ
ทันใดนั้น เหรียญอันหนึ่งก็พลัดจากมือ กระเด็นหายเข้าไปในรอยแตกของพื้นถนน
เป็นอุบัติเหตุเล็กๆ ที่ไม่มีใครสนใจ ตัวชายหนุ่มเองก็ไม่ได้มีท่าทีว่าเห็นเป็นเรื่องสำคัญหรือต้องเอาใจใส่อะไร คงเดาะเหรียญอีกอันหนึ่งในมือต่อไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
รถเมล์สายต่างๆ เข้ามาจอดแล้วก็ออกจากป้ายไป คันแล้วคันเล่า จนคนที่รอโดยสารบางตาลงไปเรื่อยๆ
แต่สุภาพบุรุษหนุ่มแต่งตัวดีคนนั้นยังคงยืนคอยต่อไปเหมือนกับว่ารถสายที่เขารอยังไม่มา
เวลาผ่านไปเรื่อยๆ รถเมล์เข้ามาจอดแล้วก็ออกไปเรื่อยๆ จนในที่สุดที่ป้ายรถโดยสารแห่งนั้นก็เหลือแต่สุภาพบุรุษหนุ่มแต่งตัวดีคนนั้นเพียงคนเดียว
ทันทีที่เหลือเขาคนเดียว เขาถลาเข้าไปตรงรอยแยกพื้นถนนที่จำได้แม่นว่าเหรียญสลึงของเขากระเด็นหายเข้าไป ใช้นิ้วงัดแงะอยู่ครู่หนึ่ง ในที่สุดมันก็ติดมือเขาขึ้นมา
หลังจากนั้นอีกพักใหญ่รถเมล์สายที่เขารอก็มาถึง เขาโหนบันไดรถขึ้นไปอย่างอ่อนแรงเหมือนคนที่เพิ่งผ่านสนามรบมาหมาดๆ และรอดตายมาได้อย่างสะบักสะบอม
……….
ทั้งเนื้อทั้งตัวขณะนั้นเขามีเงินติดตัวอยู่เพียงแค่สองสลึงเป็นค่ารถกลับบ้านเท่านั้น
สลึงแรกอยู่ในมือของเขานานนับชั่วโมง
สลึงที่สองเขาเพิ่งแงะขึ้นมาได้จากพื้นถนนหลังจากรอให้ปลอดสายตาคนอยู่นานนับชั่วโมง!
—————-
เราคงจะขำไม่ออกถ้าเรื่องนี้เกิดขึ้นกับตัวเราเอง!
นาวาเอก ทองย้อย แสงสินชัย
๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๙
๑๐:
…………………………….
…………………………….