อหิมํส (บาลีวันละคำ 3,651)
อหิมํส
เนื้องู : เนื้อต้องห้ามชนิดที่ 5
เขียนแบบบาลี อ่านว่า อะ-หิ-มัง-สะ
แยกศัพท์เป็น อหิ + มํส
(๑) “อหิ”
อ่านว่า อะ-หิ รากศัพท์มาจาก อหฺ ธาตุ = ไป, เป็นไป) + อิ ปัจจัย
: อหฺ + อิ = อหิ (ปุงลิงค์) แปลตามศัพท์ว่า “สัตว์ที่แม้จะไม่มีเท้าก็สามารถไปได้” หมายถึง งู (a snake)
(๒) “มํส”
อ่านว่า มัง-สะ รากศัพท์มาจาก มนฺ (ธาตุ = รู้) + ส ปัจจัย, แปลง นฺ ที่สุดธาตุเป็นนิคหิต (มนฺ > มํ)
: มนฺ + ส = มนส > มํส (นปุงสกลิงค์) แปลตามศัพท์ว่า “สิ่งอันคนรู้จัก” หมายถึง เนื้อคน, เนื้อสัตว์ (flesh, meat)
“มํส” ในภาษาไทยใช้เป็น “มังส” และอิงสันสกฤตเป็น “มางสะ”
พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ดังนี้ –
“มังส-, มังสะ, มางสะ : (คำนาม) เนื้อของคนและสัตว์. (ป.).”
คำที่เราคุ้นกันดีคือ “มังสวิรัติ” (มัง-สะ-วิ-รัด) ก็มาจาก “มํส” คำนี้
อหิ + มํส = อหิมํส (สุ-นะ-ขะ-มัง-สะ) แปลว่า “เนื้องู”
ขยายความ :
“อหิมํส” เป็น 1 ในเนื้อ 10 ชนิดที่มีพุทธบัญญัติห้ามภิกษุฉัน คือ –
(1) มนุสฺสมํส เนื้อมนุษย์
(2) หตฺถิมํส เนื้อช้าง
(3) อสฺสมํส เนื้อม้า
(4) สุนขมํส เนื้อสุนัข
(5) อหิมํส เนื้องู
(6) สีหมํส เนื้อสิงโต
(7) พฺยคฺฆมํส เนื้อเสือโคร่ง
(8 ) ทีปิมํส เนื้อเสีอเหลือง
(9) อจฺฉมํส เนื้อหมี
(10) ตรจฺฉมํส เนื้อเสือดาว
…………..
ต้นเรื่องที่ห้ามฉันเนื้องู ในพระวินัยปิฎกบันทึกไว้ดังนี้ –
…………..
เตน โข ปน สมเยน มนุสฺสา ทุพฺภิกฺเข อหิมํสํ ปริภุญฺชนฺติ ภิกฺขูนํ ปิณฺฑาย จรนฺตานํ อหิมํสํ เทนฺติ ฯ
ก็สมัยนั้นแล ยามอัตคัดอาหารประชาชนพากันบริโภคเนื้องู และถวายแก่พวกภิกษุผู้เที่ยวบิณฑบาต
ภิกฺขู อหิมํสํ ปริภุญฺชนฺติ ฯ
ภิกษุทั้งหลายฉันเนื้องู
มนุสฺสา อุชฺฌายนฺติ ขียนฺติ วิปาเจนฺติ
ประชาชนจึงเพ่งโทษ ติเตียน โพนทะนาว่า –
กถํ หิ นาม สมณา สกฺยปุตฺติยา อหิมํสํ ปริภุญฺชิสฺสนฺติ
ไฉนพระสมณะเชื้อสายศากยบุตรจึงได้ฉันเนื้องูเล่า
เชคุจฺโฉ อหิ ปฏิกฺกูโลติ ฯ
งูเป็นสัตว์ที่น่าเกลียด
สุปสฺโสปิ นาคราชา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺฐาสิ ฯ
ฝ่ายพญานาคชื่อสุปัสสะได้เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับ ถวายอภิวาทแล้วยืนอยู่ ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง
เอกมนฺตํ ฐิโต โข สุปสฺโส นาคราชา ภควนฺตํ เอตทโวจ
ครั้นแล้ว ได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคดังนี้ –
สนฺติ ภนฺเต นาคา อสฺสทฺธา อปฺปสนฺนา
พระพุทธเจ้าข้า บรรดานาคที่ไม่มีศรัทธาไม่เลื่อมใส มีอยู่
เต อปฺปมตฺตเกปิ ภิกฺขู วิเหเฐยฺยุํ
นาคเหล่านั้นอาจจะเบียดเบียนพวกภิกษุเข้าสักรูปสองรูป (เพราะเหตุที่ภิกษุฉันเนื้องู)
สาธุ ภนฺเต อยฺยา อหิมํสํ น ปริภุญฺเชยฺยุนฺติ ฯ
ขอประทานพระวโรกาสพระพุทธเจ้าข้า ขอพระคุณเจ้าทั้งหลายโปรดอย่าฉันเนื้องูเลย
อถโข ภควา สุปสฺสํ นาคราชานํ ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺเสสิ สมาทเปสิ สมุตฺเตเชสิ สมฺปหํเสสิ ฯ
ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาคทรงชี้แจงให้พญานาคสุปัสสะเห็นแจ้งสมาทาน อาจหาญ ร่าเริงด้วยธรรมีกถา
อถโข สุปสฺโส นาคราชา ภควตา ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺสิโต สมาทปิโต สมุตฺเตชิโต สมฺปหํสิโต ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ปกฺกามิ ฯ
พญานาคสุปัสสะ ครั้นพระผู้มีพระภาคทรงทำให้เห็นแจ้ง สมาทาน อาจหาญ ร่าเริงด้วยธรรมีกถาแล้ว จึงถวายอภิวาทพระผู้มีพระภาค ทำประทักษิณแล้วทูลลาไป
อถโข ภควา เอตสฺมึ นิทาเน เอตสฺมึ ปกรเณ ธมฺมึ กถํ กตฺวา ภิกฺขู อามนฺเตสิ
ครั้นแล้ว พระผู้มีพระภาคจึงทรงสำแดงธรรมกถาเพราะเหตุอันเป็นเค้ามูลแรกเกิดนั้น ดำรัสสั่งภิกษุทั้งหลายว่า
น ภิกฺขเว อหิมํสํ ปริภุญฺชิตพฺพํ
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุไม่พึงฉันเนื้องู
โย ปริภุญฺเชยฺย อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสาติ ฯ
รูปใดฉัน ต้องอาบัติทุกฏ
ที่มา: เภสัชขันธกะ วินัยปิฎก มหาวรรค ภาค 2 พระไตรปิฎกเล่ม 5 ข้อ 60
…………..
คัมภีร์อรรถกถาขยายความว่า –
…………..
อหิมํสนฺติ ยสฺส กสฺสจิ อปาทกสฺส ทีฆชาติกสฺส มํสํ น วฏฺฏติ ฯ
คำว่า อหิมํสํ (เนื้องู) หมายความว่า เนื้อแห่งทีฆชาติซึ่งไม่มีเท้าชนิดใดชนิดหนึ่ง ไม่ควรฉัน
….
….
สุนขมํสญฺจ อหิมํสญฺจ ปฏิกฺกูลตาย.
เนื้อสุนัขและเนื้องู ที่ทรงห้ามเพราะเป็นของสกปรก
ที่มา: สมันตปาสาทิกา ภาค 3 หน้า 193
…………..
ดูก่อนภราดา!
: งูขึ้นต้นไม้ ไม่ต้องใช้ตีน
: คนฉลาดไปนิพพาน ไม่ต้องใช้ตังค์
#บาลีวันละคำ (3,651)
11-6-65
…………………………….
…………………………….