บทความเกี่ยวกับศาสนา-ภาษา-สังคม

ไม่ใช่หน้าที่ของกู

ไม่ใช่หน้าที่ของกู

ความคิดเห็นท้ายโพสต์

ศูนย์พิทักษ์พระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทย

23 ชม. · 

๒๓ กันยายน ๒๕๕๙

คำถามคาใจ : ประเทศไทยใช้ “รัฐธรรมนูญ” ฉบับเดียวกันหรือไม่?

กรณีศึกษา : พุทธมณฑล จ.ปัตตานี V.S. มัสยิดแห่งแรก จ.บึงกาฬ

กรณีการคัดค้านโครงการการสร้างพุทธมณฑล จ.ปัตตานี โดยหน่วยงานรัฐชายแดนใต้ส่งสัญญาณชะลอสร้างพุทธมณฑลปัตตานี เตรียมจัดรับฟังความเห็นทุกฝ่ายก่อน ย้ำต้องมีคำอธิบายชัดเจน

พล.อ.ประยุทธ์ จันโอชา นายกรัฐมนตรี ชี้แจงเรื่องนี้ “ก็คงต้องชะลอการดำเนินการเอาไว้ก่อน เพื่อรับฟังความเห็นของทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นผู้นำศาสนา ผู้นำท้องถิ่น ผู้นำชุมชน นักวิชาการ รวมทั้งประชาชนทั่วไปทั้งพุทธและมุสลิม”

ที่มา : http://www.now26.tv/view/67042

ในขณะที่การก่อสร้างมัสยิดในพื้นที่จ.บึงกาฬ ล้มไม่เป็นท่า หลังหน่วยงานรัฐแจงที่ประชุม อ้างไม่มีอำนาจสั่งชะลอก่อสร้าง เหตุมัสยิด ดำเนินการถูกต้องตามกฎหมาย ชาวบ้านกลุ่มคัดค้านไม่พอใจโห่ร้อง วอล์กเอาต์จากห้องประชุม ชี้สาเหตุคัดค้าน หวั่นเกิดมลพิษทางเสียง รวมทั้งปัญหากลืนกินวัฒนธรรมและชาติพันธุ์

นายมรกต ธำรงวงศ์สวัสดิ์ ปลัดจังหวัดบึงกาฬ ได้กล่าวถึงกฎหมายรัฐธรรมนูญที่บัญญัติว่า “บุคคลย่อมมีเสรีภาพในการนับถือศาสนา และรัฐมีหน้าที่อุปถัมป์พระพุทธศาสนารวมทั้งคุ้มครองศาสนาอื่นๆ”

สำหรับปัญหาคัดค้านการก่อสร้างมัสยิดในพื้นที่จังหวัดบึงกาฬนั้น ปัจจุบันประชาชนในพื้นที่เรียกร้องให้จัดทำประชาคม เป็นความเข้าใจที่ผิด โดยความจริงการทำประชาคมจะทำในเฉพาะกรณีก่อสร้างโรงงานอุตสาหกรรม การทำเหมือง หรือดำเนินการต่างๆ ที่อาจส่งผลกระทบต่อประชาชน ส่วนการก่อสร้างศาสนสถานนั้นไม่ว่าศาสนาใดไม่มีข้อกำหนดในกฎหมายให้ทำประชาคม และปลัดจังหวัดอ้างว่าไม่มีอำนาจที่จะไปสั่งให้ชะลอก่อสร้าง

ที่มา www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9590000095268

———————-

ทองย้อย แสงสินชัย 

ถ้าพูดประชดแบบไม่ต้องเกรงใจและไม่ต้องระวังภาษาก็คือ – กูจะทำอย่างนี้แหละ ใครจะทำไม

.

คือใช้อำนาจและเลศนัยทางกฎหมายกันอย่างเห็นๆ นี่แหละ ไม่ต้องแอบๆ ซ่อนๆ เอากันอย่างโจ่งแจ้งให้เอ็งมองเห็นจะๆ นี่เลย ใครจะทำไม

.

ผมก็คงยืนยันแนวคิดเดิม คือ (๑) ช่วยกันรู้ทันให้มากๆ (๒) อย่าหวังพึงการเห็นใจจากทางราชการไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานไหนๆ เพราะถูกครอบงำเป็นส่วนมากแล้ว (๓) ช่วยกันคิดหาทางปฏิบัติการ ตรงนี้แหละยากมาก ส่วนมากพวกเราก็จะออกมาบอกว่าเราจะต้องทำอย่างนั้น เราจะต้องทำอย่างนี้ แต่ไม่มีใครทำ (รวมทั้งคนที่พูดนั่นเอง) เพราะฉะนั้น คิดวิธีที่สามารถทำได้จริงด้วย ไม่ใช่แค่น่าจะ..ควรจะ..แต่ทำไม่ได้จริง

.

ทางหนึ่งที่ทำได้จริง คือช่วยกันศึกษา ช่วยกันหาข้อมูล ข้อกฎหมายที่เอื้อประโยชน์ให้แก่ศาสนาของเขา แต่ปิดกั้นประโยชน์ทางศาสนาของเรา ว่ามีกฎหมายฉบับไหนบ้าง ศึกษาสืบทราบให้รู้ว่าขณะนี้เขากำลังวางแผนอะไรอยู่ เมื่อรู้แน่แล้วเอามาบอกให้พวกเราช่วยกันรับรู้เอาไว้

.

และที่สำคัญ อย่าคิดเป็นอันขาดว่า ไม่ใช่หน้าที่ของกู

.

ที่พระพุทธศาสนาพินาศไปจากอินเดียและจากอินโดฯ ก็เพราะชาวพุทธทั้งหลายคิดแบบนี้แหละ – ไม่ใช่หน้าที่ของกู

…………………………….

ดูโพสต์ในเฟซบุ๊กของครูทองย้อย

…………………………….

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *