สตรีกับดอกไม้
สตรีกับดอกไม้ (๑๒)
สตรีกับดอกไม้ (๑๒)
—————————–
และคิดต่อไปถึงศีลกับธรรม
…………………….
กาเมสุ มิจฉาจาร
…………………….
พูดมาถึงตรงนี้ ก็นึกได้ถึงการผิดศีลข้อสาม ที่เรามักจะเรียกติดปากว่าข้อกาเม
คำเต็มๆ คือ “กาเมสุ มิจฉาจาร”
มีคำแปลว่า –
มิจฉาจาร = การประพฤติผิด
กาเมสุ = ในกามทั้งหลาย
หรือที่พูดกันติดปากว่า ผิดลูกเขาเมียใคร
สมัยเรียนนักธรรม ครูท่านอธิบายว่า โทษของการผิดศีลข้อนี้ ก็คือทำให้วงศ์ตระกูลของเขาสับสน
ตอนที่เรียนนั้นก็ยังไม่ค่อยเข้าใจว่า ทำให้วงศ์ตระกูลสับสนนั้นคือทำอย่างไร สับสนอย่างไร
แต่เมื่อคิดไปตรองไปแบบที่คนวัดเรียกกันว่า “ขบธรรมะ” ก็ได้คำตอบ
คำตอบก็คือ หลักเดิมนั้นหญิงชายจะครองคู่กันพ่อแม่จะเป็นผู้เลือกคู่ครองให้
ก็คือเลือกว่าพอใจที่จะร่วมตระกูลกับชายใดหรือหญิงใด
แต่ส่วนมากก็จะยึดตระกูลฝ่ายชายเป็นหลัก ดังที่คนทั้งหลายยังมีค่านิยมกันว่าลูกชายเป็นผู้สืบตระกูล
และการที่หญิงแต่งงานแล้วใช้นามสกุลของสามี (เป็นประเพณีแทบจะทุกชาติทุกภาษาก็ว่าได้) ก็ด้วยเหตุผลที่ยึดเอาตระกูลฝ่ายชายเป็นหลักนี่เอง
ธรรมชาติกำหนดแล้วว่า สตรีเป็นฝ่ายตั้งครรภ์
สตรีนั้นอยู่ครองคู่กับชายใด ก็เป็นการยืนยันว่าลูกในครรภ์ที่จะสืบตระกูลต่อไปต้องเกิดจากชายนั้น สมกับความตั้งใจที่เลือก
ทีนี้ การผิดศีลข้อกาเมที่เข้าใจกันดีทั่วไปก็คือ การที่ชายไปร่วมประเวณีกับหญิงที่เป็นภรรยาของชายอื่น
และการร่วมประเวณีนั้นย่อมต้องมีผลทำให้เกิดลูกตามหลักการของธรรมชาติที่ว่ามาข้างต้น
และลูกนั้นก็จะเป็นผู้สืบตระกูลเผ่าพันธุ์ต่อไป
ถึงตรงนี้แหละที่เห็นได้ชัดว่า การผิดศีลข้อกาเมนั้นทำให้วงศ์ตระกูลสับสนได้อย่างไร
และทำให้เข้าใจได้ด้วยว่า ตามธรรมะคือธรรมชาติดั้งเดิมนั้น มนุษย์ร่วมประเวณีกันด้วยวัตถุประสงค์เดียวเท่านั้น คือเพื่อที่จะให้เกิดลูกสืบตระกูลเผ่าพันธุ์ต่อไปนั่นเอง
ลองคิดทวนกลับก็จะยิ่งเห็นเหตุผลชัดเจนยิ่งขึ้น คือ:
– เพราะการร่วมประเวณีก็เพื่อประสงค์ให้เกิดลูกสืบตระกูล
– การที่ชายไปร่วมประเวณีกับหญิงที่เป็นภรรยาของชายอื่น
– เมื่อมีลูกออกมาก็ไม่ใช่ลูกที่เกิดจากตระกูลที่ตั้งใจเลือก
จึงเป็นการทำให้วงศ์ตระกูลสับสน
และจึงผิดศีล
กล่าวอีกนัยหนึ่งว่า ผลของการผิดศีลข้อกาเมนั้นตัดสินกันที่ทำให้วงศ์ตระกูลสับสน
และวงศ์ตระกูลจะสับสนก็ตัดสินกันตรงที่มีลูกเกิดมานั่นเอง
นี่ยืนยันว่า ตามธรรมชาติดั้งเดิมนั้น มนุษย์ร่วมประเวณีกันก็เพื่อประสงค์ให้เกิดลูกสืบตระกูลเท่านั้น
ถ้ามนุษย์ร่วมประเวณีกันด้วยความประสงค์อื่นที่มิใช่เพื่อให้เกิดลูกแล้วไซร้ การผิดศีลข้อกาเมที่อ้างว่าเป็นโทษเป็นผิดตรงที่ทำให้วงศ์ตระกูลสับสน ก็จะไม่สมเหตุสมผลทันที
คนที่ละเมิดศีลข้อนี้ก็จะอ้างได้ว่า เขาร่วมประเวณีเพื่อความสนุก หรือความเอร็ดอร่อยทางเนื้อหนังต่างหาก มิได้มีความประสงค์ที่จะให้เกิดลูกใดๆ ทั้งสิ้น
เขาจึงไม่ได้ทำให้วงศ์ตระกูลของใครสับสน
เพราะฉะนั้น เขาก็จึงไม่ผิดศีลข้อกาเม
ด้วยเหตุผลดังว่านี้ การอ้างโทษของศีลข้อกาเมว่าทำให้วงศ์ตระกูลสับสน จึงเท่ากับเป็นการยืนยันว่า มนุษย์ควรร่วมประเวณีกันด้วยความประสงค์เพื่อให้เกิดลูกสืบตระกูลเท่านั้น จึงจะถูกต้องตามหลักธรรมะ
คนส่วนใหญ่คงจะคิดว่า นี่เป็นแนวคิดทฤษฎีที่ฝืนธรรมชาติ
ไม่มีมนุษย์ที่ไหนจะปฏิบัติตามแนวคิดนี้ได้
และเป็นคำสอนที่บั่นทอนความสุขของมนุษย์
หรือเป็นการก้าวก่ายล้วงล้ำสิทธิเสรีภาพส่วนบุคคลของมนุษย์นั่นเลยทีเดียว
โดยเฉพาะ —
สตรีตั้งแต่วัยที่หมดประจำเดือนแล้ว
สตรีที่ไม่สามารถจะมีบุตรได้ด้วยสาเหตุทางสุขภาพ เช่นผ่าตัดมดลูก
และสตรีหรือบุรุษที่เป็นหมัน
ถ้าปฏิบัติตามแนวคิดทฤษฎีแบบนั้น ท่านเหล่านี้ก็เป็นว่าหมดโอกาสที่จะมีความสุขตามวิสัยปุถุชนไปเลย
จึงยากนักหนาที่จะใครยอมปฏิบัติตามแนวคิดทฤษฎีแบบนั้นได้-ใช่หรือไม่?
(มีต่อ)
นาวาเอก ทองย้อย แสงสินชัย
๓๐ ธันวาคม ๒๕๖๓
๑๕:๕๐
…………………………
สตรีกับดอกไม้ (๑๓)
…………………………
สตรีกับดอกไม้ (๑๑)
………………………….