โลณผลสูตร-ว่าด้วยการละลายกรรม
โลณผลสูตร-ว่าด้วยการละลายกรรม (๒)
———————————-
คือการทำผลกรรมให้เจือจาง
………………….
คำแนะนำ:
บทความเรื่องนี้มี ๔ ตอน
ควรอ่านจากเครื่องคอมพิวเตอร์
หรืออุปกรณ์อย่างอื่นที่หน้าจอกว้างกว่าโทรศัพท์
………………….
ตอนนี้จะเป็นตอนที่ยาวหน่อยหรือยาวมากหน่อย และคงจะน่าเบื่อหน่ายมากพอสมควร แต่ก็จะเป็นตอนที่พิสูจน์ศรัทธาไปด้วยพร้อมๆ กัน
ใครที่บอกว่ารักพระศาสนา ห่วงพระศาสนา ถึงเวลาที่จะพิสูจน์ตัวเองแล้ว
การศึกษาพระไตรปิฎกเป็นวิธีแสดงความรักความห่วงพระศาสนาที่ตรงเป้าที่สุด และดีกว่าวิธีอื่น (วิธีอื่นก็ดี ไม่ใช่ไม่ดี แต่วิธีนี้ดีที่สุด)
ตั้งสติ ตั้งสมาธิ และอุทิศเวลาสักหน่อยนะครับ
นึกอะไรไม่ออก ก็นึกว่า-กัดฟันอ่านถวายพระพุทธเจ้าเป็นพุทธบูชาก็แล้วกัน
อนุโมทนาสาธุครับ
………………….
โลณผลสูตร
[๕๔๐] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ผู้ใดแลพึงกล่าวอย่างนี้ว่า บุรุษนี้ทำกรรมไว้อย่างไรๆ เขาจะต้องเสวยกรรมนั้นอย่างนั้นๆ เมื่อเป็นเช่นนี้ การอยู่ประพฤติพรหมจรรย์ของผู้นั้นย่อมมีไม่ได้ โอกาสที่จะทำที่สุดแห่งทุกข์โดยชอบ ย่อมไม่ปรากฏ
ส่วนผู้ใดพึงกล่าวอย่างนี้ว่า บุรุษนี้ทำกรรมที่จะต้องเสวยผลไว้ด้วยอาการใดๆ เขาจะต้องเสวยวิบากของกรรมนั้นด้วยอาการนั้นๆ เมื่อเป็นเช่นนี้ การอยู่ประพฤติพรหมจรรย์ของผู้นั้นย่อมมีได้ โอกาสที่จะทำที่สุดแห่งทุกข์โดยชอบย่อมปรากฏ
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บุคคลบางคนในโลกนี้ ทำบาปกรรมแม้เล็กน้อย บาปกรรมนั้นก็นำเขาเข้านรก ส่วนบุคคลบางคนในโลกนี้ ทำบาปกรรมเพียงเล็กน้อยเช่นนั้นแหละ บาปกรรมนั้นย่อมให้ผลทันตาเห็น แต่ส่วนน้อยไม่ปรากฏ ปรากฏเฉพาะส่วนที่มาก
บุคคลเช่นไรทำบาปกรรมแม้เล็กน้อย บาปกรรมนั้นก็นำเขาเข้านรก?
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บุคคลบางคนในโลกนี้ เป็นผู้ไม่อบรมกาย ไม่อบรมศีล ไม่อบรมจิต ไม่อบรมปัญญา มีคุณน้อย มีอัตภาพเล็ก มีปรกติอยู่เป็นทุกข์เพราะวิบากเล็กน้อย บุคคลเห็นปานนี้ทำบาปกรรมแม้เล็กน้อย บาปกรรมนั้นก็นำเขาเข้านรก
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็บุคคลเช่นไรเล่าทำบาปกรรมเล็กน้อยเช่นนั้นเหมือนกัน บาปกรรมนั้นให้ผลทันตาเห็น แต่ส่วนน้อยไม่ปรากฏ ปรากฏเฉพาะส่วนมาก
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บุคคลบางคนในโลกนี้เป็นผู้อบรมกาย อบรมศีล อบรมจิต อบรมปัญญา มีคุณไม่น้อย มีอัตภาพใหญ่ มีธรรมเป็นเครื่องอยู่หาประมาณมิได้ บุคคลเช่นนี้ทำบาปกรรมเล็กน้อยเช่นนั้นเหมือนกัน บาปกรรมนั้นให้ผลทันตาเห็น แต่ส่วนน้อยไม่ปรากฏ ปรากฏเฉพาะแต่ส่วนมาก
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เปรียบเหมือนบุรุษพึงใส่ก้อนเกลือลงในขันใบน้อย เธอทั้งหลายจะสำคัญความข้อนั้นเป็นไฉน น้ำในขันเพียงเล็กน้อยนั้นพึงเค็มดื่มกินไม่ได้ เพราะก้อนเกลือโน้นใช่ไหม?
ภิกษุเหล่านั้นกราบทูลว่า ใช่ พระเจ้าข้า
พระพุทธเจ้า: ข้อนั้นเพราะเหตุไร?
ภิกษุ: เพราะในขันน้ำมีน้ำนิดหน่อย ฉะนั้นน้ำนั้นจึงเค็ม ดื่มไม่ได้ เพราะก้อนเกลือนี้ พระเจ้าข้า
พระพุทธเจ้า: เปรียบเหมือนบุรุษพึงใส่ก้อนเกลือลงในแม่น้ำคงคา เธอทั้งหลายจะสำคัญความข้อนั้นเป็นไฉน แม่น้ำคงคาพึงเค็ม ดื่มไม่ได้ เพราะก้อนเกลือโน้นหรือไม่?
ภิกษุ: หามิได้ พระเจ้าข้า
พระพุทธเจ้า: ข้อนั้นเพราะเหตุไร?
ภิกษุ: เพราะในแม่น้ำคงคานั้นมีห้วงน้ำใหญ่ ฉะนั้นห้วงน้ำใหญ่นั้นจึงไม่เค็ม ดื่มได้ เพราะก้อนเกลือโน้น พระเจ้าข้า
พระพุทธเจ้า: ฉันนั้นเหมือนกันแล ภิกษุทั้งหลาย บุคคลบางคนในโลกนี้ทำบาปกรรมเพียงเล็กน้อย บาปกรรมนั้นก็นำเขาเข้านรก ส่วนบุคคลบางคนในโลกนี้ทำบาปกรรมเล็กน้อยเช่นนั้นเหมือนกัน บาปกรรมนั้นให้ผลทันตาเห็น ส่วนน้อยไม่ปรากฏ ปรากฏแต่เฉพาะส่วนมาก
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บุคคลบางคนในโลกนี้ถูกจองจำเพราะทรัพย์กึ่งกหาปณะบ้าง ถูกจองจำเพราะทรัพย์หนึ่งกหาปณะบ้าง ถูกจองจำเพราะทรัพย์ร้อยกหาปณะบ้าง ส่วนบุคคลบางคนในโลกนี้ไม่ถูกจองจำแม้เพราะทรัพย์กึ่งกหาปณะ ไม่ถูกจองจำแม้เพราะทรัพย์หนึ่งกหาปณะ ไม่ถูกจองจำแม้เพราะทรัพย์ตั้งร้อยกหาปณะ
ก็บุคคลเช่นไรเล่าถูกจองจำเพราะทรัพย์กึ่งกหาปณะบ้าง ถูกจองจำเพราะทรัพย์หนึ่งกหาปณะบ้าง ถูกจองจำเพราะทรัพย์ร้อยกหาปณะบ้าง?
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บุคคลบางคนในโลกนี้เป็นคนขัดสน มีสิ่งของของตนน้อย มีโภคทรัพย์น้อย บุคคลเช่นนี้ย่อมถูกจองจำเพราะทรัพย์กึ่งกหาปณะบ้าง ถูกจองจำเพราะทรัพย์หนึ่งกหาปณะบ้าง ถูกจองจำเพราะทรัพย์ร้อยกหาปณะบ้าง
บุคคลเช่นไรเล่าไม่ถูกจองจำแม้เพราะทรัพย์กึ่งกหาปณะ ไม่ถูกจองจำแม้เพราะทรัพย์หนึ่งกหาปณะ ไม่ถูกจองจำแม้เพราะทรัพย์ร้อยกหาปณะ?
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บุคคลบางคนในโลกนี้เป็นคนมั่งคั่ง มีทรัพย์เหลือเฟือ มีโภคะมากมาย บุคคลเช่นนี้ย่อมไม่ถูกจองจำแม้เพราะทรัพย์กึ่งกหาปณะ ไม่ถูกจองจำแม้เพราะทรัพย์หนึ่งกหาปณะ ไม่ถูกจองจำแม้เพราะทรัพย์ร้อยกหาปณะ
ฉันนั้นเหมือนกันแล ภิกษุทั้งหลาย บุคคลบางคนในโลกนี้ทำบาปกรรมไว้เพียงเล็กน้อย บาปกรรมนั้นก็นำเขาเข้านรก ส่วนบุคคลบางคนในโลกนี้ได้ทำบาปกรรมเล็กน้อยไว้เช่นนั้นเหมือนกัน บาปกรรมนั้นให้ผลทันตาเห็น ส่วนน้อยไม่ปรากฏ ปรากฏเฉพาะแต่ส่วนมาก ฯลฯ
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เปรียบเหมือนเจ้าของแกะหรือคนฆ่าแกะบางคนสามารถที่จะฆ่า หรือจองจำคนลักแกะ หรือเอาไฟเผา หรือทำตามที่ตนปรารถนา บางคนไม่สามารถที่จะฆ่า หรือจองจำคนลักแกะ หรือเอาไฟเผา หรือทำตามที่ตนปรารถนาได้
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เจ้าของแกะหรือคนฆ่าแกะเช่นไรเล่าสามารถที่จะฆ่า หรือจองจำคนลักแกะ หรือเอาไฟเผา หรือทำตามที่ตนปรารถนา?
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เจ้าของแกะหรือคนฆ่าแกะบางคนในโลกนี้เป็นคนขัดสน มีสิ่งของของตนน้อย มีโภคทรัพย์น้อย เจ้าของแกะหรือคนฆ่าแกะเช่นนี้สามารถที่จะฆ่า หรือจองจำคนลักแกะ หรือเอาไฟเผา หรือทำตามที่ตนปรารถนา
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เจ้าของแกะหรือคนฆ่าแกะเช่นไรเล่าไม่สามารถที่จะฆ่า หรือจองจำคนลักแกะ หรือเอาไฟเผา หรือทำตามที่ตนปรารถนา?
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เจ้าของแกะหรือคนฆ่าแกะบางคนในโลกนี้เป็นคนมั่งคั่ง มีทรัพย์มาก มีโภคะเหลือเฟือ เป็นพระราชา หรือมหาอำมาตย์ของพระราชา เจ้าของแกะหรือคนฆ่าแกะเช่นนี้ไม่สามารถที่จะฆ่า หรือจองจำคนลักแกะ หรือเอาไฟเผา หรือทำตามที่ตนปรารถนา
ความจริงเจ้าของแกะหรือคนฆ่าแกะนั้น อันคนผู้ประนมมือย่อมจะขอเขาได้ว่า ข้าแต่ท่าน ขอท่านจงให้แกะหรือทรัพย์ที่เป็นมูลค่าของแกะแก่ฉันเถิด แม้ฉันใด
ฉันนั้นเหมือนกัน ภิกษุทั้งหลาย บุคคลบางคนในโลกนี้ทำบาปกรรมแม้เพียงเล็กน้อย บาปกรรมนั้นย่อมนำเขาเข้านรก ส่วนบุคคลบางคนในโลกนี้ ได้ทำบาปกรรมเล็กน้อยไว้เช่นนั้นเหมือนกัน บาปกรรมนั้นย่อมให้ผลทันตาเห็น ส่วนน้อยไม่ปรากฏ ปรากฏแต่เฉพาะส่วนมาก ฯลฯ
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ผู้ใดแลพึงกล่าวอย่างนี้ว่า บุรุษนี้ทำกรรมไว้อย่างไรๆ เขาจะต้องเสวยกรรมนั้นอย่างนั้นๆ เมื่อเป็นเช่นนี้ การอยู่ประพฤติพรหมจรรย์ของผู้นั้นย่อมมีไม่ได้ โอกาสที่จะทำที่สุดแห่งทุกข์โดยชอบย่อมไม่ปรากฏ
ส่วนผู้ใดพึงกล่าวอย่างนี้ว่า บุรุษนี้ทำกรรมที่จะต้องเสวยผลไว้ด้วยอาการใดๆ เขาจะต้องเสวยวิบากของกรรมนั้นด้วยอาการนั้นๆ เมื่อเป็นเช่นนี้ การอยู่ประพฤติพรหมจรรย์ของผู้นั้นย่อมมีได้ โอกาสที่จะทำที่สุดแห่งทุกข์โดยชอบย่อมปรากฏ.
ที่มา: โลณผลสูตร ติกนิบาต อังคุตรนิกาย
พระไตรปิฎกเล่ม ๒๐ ข้อ ๕๔๐
คำแปล: พระไตรปิฎกฉบับภาษาไทย
ในที่นี้จัดย่อหน้าวรรคตอนใหม่ เพื่อให้อ่านง่ายขึ้น
………………….
ตอนหน้า: อธิบายขยายความ
นาวาเอก ทองย้อย แสงสินชัย
๒๖ มกราคม ๒๕๖๓
๑๖:๕๕
…………………………….
…………………………….