นิติสารสาธก (บาลีวันละคำ 3,745)
นิติสารสาธก
เป็นมากกว่าแบบเรียนภาษาไทย
แต่เพื่อความสะดวกปาก อาจจะอ่านว่า นิ-ติ-สาน-สา-ทก ก็ได้
แยกศัพท์เป็น นิติ + สาร + สาธก
(๑) “นิติ”
บาลีเป็น “นีติ” อ่านว่า นี-ติ (โปรดสังเกตว่า บาลีเป็น นี- ไม่ใช่ นิ-) รากศัพท์มาจาก นี (ธาตุ = บรรลุ, ถึง) + ติ ปัจจัย
: นี + ติ = นีติ (อิตถีลิงค์) แปลตามศัพท์ว่า “ข้อบัญญัติเป็นเครื่องบรรลุ” “เครื่องนำไปให้บรรลุ” หมายถึง กฎหมาย, กฎ, แบบแผน
พจนานุกรมบาลี-อังกฤษ แปล “นีติ” ว่า guidance, practice, conduct, right conduct, propriety; statesmanship, polity (การนำทาง, การปฏิบัติ, ความประพฤติ, ความประพฤติที่ถูกต้อง, การทำที่เหมาะที่ควร; การใช้วิธีปกครอง, การปกครองประชาชน)
โปรดสังเกตว่า ฝรั่งไม่ได้แปล นีติ ว่า law
พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า –
“นิติ : นีติ, กฎหมาย, กฎปฏิบัติ, แบบแผน, เยี่ยงอย่าง, ขนบธรรมเนียม, ประเพณี, วิธีปกครอง, เครื่องแนะนํา, อุบายอันดี. (ป., ส. นีติ).”
(๒) “สาร”
บาลีอ่านว่า สา-ระ รากศัพท์มาจาก สา (ธาตุ = มีกำลัง, สามารถ) + ร ปัจจัย
: สา + ร = สาร แปลตามศัพท์ว่า “ส่วนที่มีกำลัง”
“สาร” ในภาษาบาลี ถ้าเป็นคำนาม (นปุงสกลิงค์) มีความหมายดังนี้ –
(1) ชั้นในที่สุด และส่วนที่แข็งที่สุดของสิ่งใดสิ่งหนึ่ง, แก่นหรือแกนของไม้ (the innermost, hardest part of anything, the heart or pith of a tree)
(2) แก่นสาร, ส่วนสำคัญ, ส่วนที่ดีที่สุด (substance, essence, choicest part)
(3) คุณค่า (value)
“สาร” ถ้าใช้เป็นคุณศัพท์หมายถึง สำคัญ, ประเสริฐยิ่ง, แข็งแรง (essential, most excellent, strong)
(๓) “สาธก”
บาลีอ่านว่า สา-ทะ-กะ รากศัพท์มาจาก สาธฺ (ธาตุ = สำเร็จ) ณฺวุ ปัจจัย, แปลง ณฺวุ เป็น อก (อะ-กะ)
: สาธ + ณฺวุ > อก = สาธก แปลตามศัพท์ว่า “ผู้ (หรือสิ่งที่) ยังการกระทำให้สำเร็จ” หมายถึง สำเร็จ, เป็นผล (accomplishing, effecting)
การประสมคำ :
๑ นิติ + สาร = นิติสาร แปลว่า “แบบแผนอันเป็นสาระ” หรือ “เรื่องสำคัญอันเป็นแบบแผน”
๒ นิติสาร + สาธก = นิติสารสาธก (นิ-ติ-สา-ระ-สา-ทก, นิ-ติ-สาน-สา-ทก) แปลว่า “หนังสือที่ยังแบบแผนอันเป็นสาระให้สำเร็จ” หมายความตามประสงค์ว่า หนังสือที่บอกแจ้งให้เข้าใจหลักสำคัญในภาษาไทย
ขยายความ :
“นิติสารสาธก” เป็นชื่อหนังสือแบบเรียนภาษาไทยสมัยรัชกาลที่ 5
หนังสือ “นิติสารสาธก” พิมพ์เป็นอนุสรณ์ในงานฌาปนกิจศพนางมารศรี ปุณณะกิตติ เมื่อ พ.ศ.2503 มีคำนำของกรมศิลปกร ความตอนหนึ่ง ดังนี้
…………..
หนังสือเรื่อง “นิติสารสาธก” นี้ มี ๒ เล่มต่อกัน เล่มที่ ๑ เป็นหนังสืออ่านเทียบแบบสอนตั้งแต่มูลบทไป พระยาศรีสุนทรโวหาร (น้อย อาจารยางกูร) ได้แต่งทูลเกล้าฯ ถวายไว้ให้ใช้ในโรงเรียนหลวง ส่วนเล่ม ๒ นั้นปรากฏในโคลงต้นเล่มว่า หม่อมราชวงศ์หนูเป็นผู้แต่งทูลเกล้าฯ ถวาย เป็นหนังสือที่นับว่าต่อเนื่องกับชุดมูลบทบรรพกิจ ฯลฯ ซึ่งเป็นแบบเรียนยุคแรกได้ …
…………..
และต้นเรื่อง “นิติสารสาธก” มีข้อความดังนี้ –
(สะกดตามต้นฉบับ)
…………..
ข้าพระพุทธเจ้า
หลวงสารประเสริฐ
ขุนประสิทธิ์อักษรสาตร
หมื่นเสนาะโวหาร
สอบทานทูลเกล้าฯ ถวาย ถูกถ้วนตามฉบับ ขอเดช
๏ ข้าพระพุทธเจ้า หลวงสารประเสริฐ คิดคำกลอนเรื่องนี้ เรียกชื่อว่า นิติสารสาธก คือเทียบแบบสอนตั้งแต่มูลบทบรรพกิจไป เพื่อไว้สำหรับนักเรียนในโรงหลวง จะได้อ่านเล่าจำต้นข้อต่อลำดับในแบบสอน ให้แม่นยำชำนาญ ได้ทูลเกล้าฯ ถวายแล้ว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าดำรัสสั่งให้พระเจ้าราชวรวงษ์เธอกรมหมื่นอักษรสาสนโสภณ ลงพิมพ์ที่โรงพิมพ์หลวง ในพระบรมมหาราชวัง ๑,๐๐๐ ฉบับ ตีเสร็จ ณ วันพฤหัศบดี เดือนหก แรมสี่ค่ำ ปีระกา เบญจศก ศักราช ๑๒๓๕ ฯะ
…………..
แถม :
ขอยกข้อความบางตอนใน “นิติสารสาธก” มาเสนอไว้ในที่นี้พอเป็นตัวอย่าง บางคำเป็นคำที่เราอาจจะคุ้นกันอยู่ ดังนี้
(สะกดตามต้นฉบับ)
…………..
อย่าเกียจคร้านการเรียนเร่งอุตส่าห์
มีวิชาเหมือนมีทรัพย์อยู่นับแสน
จะตกถิ่นถานใดคงไม่แคลน
ถึงคับแค้นก็พอยังประทังตน
อันความรู้รู้กระจ่างถึงอย่างเดียว
แต่ให้เชี่ยวชาญเถิดคงเกิดผล
อาจจะชักเชิดชูฟูสกนธ์
ถึงคนจนพงษ์ไพร่คงได้ดี
เกิดเปนชายเชาสยามตามวิไสย
หนังสือไทยก็ไม่รู้ดูบัดศรี
ต้องอับอายขายหน้าทั้งตาปี
ถึงผู้ดีก็คงด้อยถอยตระกูล
…………..
ดูก่อนภราดา!
ภาษาไทย …
: วันนี้ ไทยสอนไทยไม่ฟัง
: วันหน้า ฝรั่งจะมาสอนไทย
#บาลีวันละคำ (3,745)
13-9-65
…………………………….
…………………………….