บาลีวันละคำ

นิศากร (บาลีวันละคำ 3,753)

นิศากร

ผูทำงานกลางคืน

อ่านว่า นิ-สา-กอน

แยกศัพท์เป็น นิศา + กร

(๑) “นิศา”

บาลีเป็น “นิสา” (-สา ส เสือ) รากศัพท์มาจาก นิ (คำอุปสรรค = เข้า, ลง) + สา (ธาตุ = ทำให้เบาบาง) + กฺวิ ปัจจัย, ลบ กฺวิ

: นิ + สา = นิสา + กฺวิ = นิสากฺวิ > นิสา (อิตถีลิงค์) แปลตามศัพท์ว่า “เวลาที่ทำให้การขวนขวายทุกอย่างเบาลง” หมายถึง กลางคืน (night)

บาลี “นิสา” สันสกฤตเป็น “นิศา” (-ศา ศ ศาลา)

สํสกฤต-ไท-อังกฤษ อภิธาน บอกไว้ดังนี้ –

“นิศา : (คำนาม) ราตรีกาล; ขมิ้น; night; turmeric.”

ภาษาไทยใช้ตามสันสกฤตเป็น “นิศา” พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า –

“นิศา : (คำแบบ) (คำนาม) กลางคืน. (ส.).”

หมายเหตุ: “คำแบบ” หมายถึง คำที่ใช้เฉพาะในหนังสือ ไม่ใช่คำพูดทั่วไป

(๒) “กร”

บาลีอ่านว่า กะ-ระ รากศัพท์มาจาก กรฺ (ธาตุ = ทำ) + อ (อะ) ปัจจัย

: กรฺ + อ = กร แปลตามศัพท์ว่า –

(1) “การทำ” หมายถึง ผลิต, ก่อ, ประกอบ, กระทำ (producing, causing, forming, making, doing)

(2) “ผู้ทำ” หมายถึง ผู้กระทำ (the maker)

(3)“อวัยวะเป็นเครื่องทำงาน” หมายถึง มือ (the hand)

ในภาษาไทย พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกความหมายของ “กร” ไว้ว่า –

(1) กร ๑ : (คำนาม) ผู้ทํา, ใช้ประกอบเป็นส่วนหลังของสมาส เช่น กรรมกร เกษตรกร. (ป.).

(2) กร ๒ : (คำนาม) มือ (มักใช้ในบทประพันธ์); แขน เช่น เจ้างามกรอ่อนดังงวงเอราวัณ. (กลบท); (ราชา) มือ, แขน, ปลายแขน, ใช้ว่า พระกร หรือ กร. (ป., ส.).

(3) กร ๓ : (คำนาม) แสง, ใช้ประกอบเป็นส่วนหลังของสมาส เช่น รัชนีกร นิศากร. (ป.).

ในที่นี้ “กร” มีความหมายตามข้อ (1)

นิสา + กร = นิสากร (นิ-สา-กะ-ระ) แปลตามศัพท์ว่า “ผู้ทำงานกลางคืน” หรือ “ผู้มีรัศมีในยามค่ำคืน” หมายถึง ดวงจันทร์ (the moon)

บาลี “นิสากร” สันสกฤตเป็น “นิศากร”

สํสกฤต-ไท-อังกฤษ อภิธาน บอกไว้ดังนี้ –

“นิศากร : (คำนาม) จันทร์; ไก่; the moon; a cock.”

ภาษาไทยใช้ตามสันสกฤตเป็น “นิศากร” พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า –

“นิศากร : (คำนาม) “ผู้กระทำซึ่งกลางคืน”, พระจันทร์. (ส.; ป. นิสากร).”

ขยายความ :

คำบาลีที่หมายถึง ดวงจันทร์ มีอีกหลายคำ ตามคัมภีร์อภิธานัปปทีปิกา ท่านว่ามี 14 คำ ดังนี้ –

…………..

อินฺทุ จนฺโท จ นกฺขตฺต-

ราชา โสโม นิสากโร.

โอสธีโส หิมรํสิ

สสํโก จนฺทิมา สสิ

สีตรํสิ นิสานาโถ

อุฬุราชา จ มา ปุเม.

ที่มา: อภิธานัปปทีปิกา คาถาที่ 51-52

…………..

แต่ละคำมีความหมายดังนี้ –

1 อินฺทุ = ดาวที่เป็นใหญ่กว่าดวงดาวทั้งหลาย

2 จนฺโท = ผู้ยังสัตว์โลกให้พอใจ, ผู้ยังความพอใจให้เกิด

3 นกฺขตฺตราชา = เจ้าแห่งดวงดาว

4 โสโม = ดาวที่มีพร้อมกับความงดงาม, ดาวที่หลั่งความสุขมาให้

5 นิสากโร = ผู้ทำงานกลางคืน, ผู้มีรัศมีในยามค่ำคืน

6 โอสธีโส = ผู้ทรงไว้ซึ่งแสงสว่าง

7 หิมรํสิ = ผู้มีรัศมีเย็น

8 สสํโก = ดาวที่มีกระต่ายเป็นสัญลักษณ์

9 จนฺทิมา = ผู้นำความเย็นมาให้

10 สสิ = ดาวที่มีรูปกระต่าย

11 สีตรํสิ = ดาวที่มีรัศมีเย็น

12 นิสานาโถ = ผู้เป็นที่พึ่งในยามค่ำคืน

13 อุฬุราชา = เจ้าแห่งหมู่ดาว

14 มา = ดาวที่ทำตนให้เย็น

หมายเหตุ: ศัพท์ที่เป็นชื่อดวงจันทร์ข้างต้นนี้เป็นศัพท์ที่แจกวิภัตติแล้ว เช่น “นิสากโร” ถ้ายังไม่แจกวิภัตติก็จะเป็น “นิสากร” อย่างนี้เป็นต้น วิภัตติที่แจกเป็นวิภัตติที่หนึ่ง (ปฐมาวิภัตติ) เอกวจนะ ปุงลิงค์

…………..

ดวงอาทิตย์ทำงานกลางวัน

ดวงจันทร์ทำงานกลางคืน

ดูก่อนภราดา!

งานในหน้าที่ –

: แบ่งกันทำ งานรุ่ง

: แย่งกันทำ งานยุ่ง

#บาลีวันละคำ (3,753)

21-9-65 

…………………………….

ดูโพสต์ในเฟซบุ๊กของครูทองย้อย

…………………………….

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *