ผาณิต (บาลีวันละคำ 3,941)
ผาณิต
1 ในเภสัชที่เป็นอดิเรกลาภ
ภาษาไทยอ่านว่า ผา-นิด
ภาษาบาลีอ่านว่า ผา-นิ-ตะ
“ผาณิต” รากศัพท์มาจาก ผาณฺ (ธาตุ = ไป, เป็นไป) + ต ปัจจัย, ลง อิ อาคมระหว่างธาตุกับปัจจัย (ผาณฺ + อิ + ต)
: ผาณฺ + อิ + ต = ผาณิต (นปุงสกลิงค์) แปลตามศัพท์ว่า “สิ่งที่เป็นไปตามปกติ” หมายถึง น้ำอ้อย, น้ำตาล
พจนานุกรมบาลี-อังกฤษ แปล “ผาณิต” ว่า juice of the sugar cane, raw sugar, molasses (น้ำอ้อย, น้ำตาลดิบ, กากน้ำตาล)
บาลี “ผาณิต” สันสกฤตก็เป็น “ผาณิต”
สํสกฤต-ไท-อังกฤษ อภิธาน บอกไว้ดังนี้ –
(สะกดตามต้นฉบับ)
“ผาณิต : (คำนาม) น้ำตาลดิบ, ฆนีภูตรสของอ้อย; raw sugar, the inspissated juice of the sugar-cane.”
ในภาษาไทย พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า –
“ผาณิต : (คำนาม) นํ้าอ้อย, บางทีประสงค์เอานํ้าตาลด้วย, เช่น ผาณิตผิชิดมด ฤจะอดบอาจจะมี. (อิลราช). (ป., ส.).”
…………..
ในพระวินัยปิฎก ให้คำจำกัดความคำว่า “ผาณิต” ไว้ดังนี้ –
…………..
ผาณิตํ นาม อุจฺฉุมฺหา นิพฺพตฺตํ ฯ
ที่ชื่อว่า “ผาณิต” ได้แก่ รสหวานที่เกิดจากอ้อย
ที่มา: โภชนวรรค สิกขาบทที่ 9
วินัยปิฎก มหาวิภังค์ ภาค 2 พระไตรปิฎกเล่ม 2 ข้อ 518
…………..
คัมภีร์สมันตปาสาทิกา ยกคำว่า “ผาณิตํ นาม อุจฺฉุมฺหา นิพฺพตฺตํ” มาขยายความไว้ดังนี้
…………..
ผาณิตนฺนาม อุจฺฉุมฺหา นิพฺพตฺตนฺติ อุจฺฉุรสํ อุปาทาย อปกฺกา วา อวตฺถุกปกฺกา วา สพฺพาปิ อวตฺถุกา อุจฺฉุวิกติ ผาณิตนฺติ เวทิตพฺพา ฯ
คำว่า ผาณิตนฺนาม อุจฺฉุมฺหา นิพฺพตฺตํ พึงทราบว่า “น้ำอ้อย” หมายถึง น้ำอ้อยชนิดที่ยังไม่ได้เคี่ยว หรือที่เคี่ยวแล้วไม่มีกาก หรือน้ำอ้อยทุกชนิดที่ไม่มีกาก จนกระทั่งน้ำอ้อยสด
ตํ ปุเรภตฺตํ ปฏิคฺคหิตํ ปุเรภตฺตํ สามิสํปิ วฏฺฏติ ฯ
น้ำอ้อยนั้นภิกษุรับประเคนก่อนเที่ยง แม้จะปนกับของอื่น (คือมีของกินอื่นๆ ผสมด้วย) ในเวลาก่อนเที่ยงก็ฉันได้
ปจฺฉาภตฺตโต ปฏฺฐาย สตฺตาหํ นิรามิสเมว วฏฺฏติ ฯ
แต่หลังเที่ยงไปแล้วตลอด 7 วัน ต้องไม่มีของอื่นปนจึงจะฉันได้
ที่มา: สมันตปาสาทิกา ภาค 2 หน้า 259
…………..
ขยายความ :
ปัจจัยเครื่องอาศัยของบรรพชิตในพระพุทธศาสนา เมื่อแรกที่พระพุทธองค์ทรงบัญญัติ มี 4 อย่าง ที่เราเรียกรู้กันว่า “จตุปัจจัย” หรือ “ปัจจัยสี่” คือ :
(๑) ปิณฑิยาโลปโภชนะ : โภชนะที่ได้มาด้วยกำลังปลีแข้ง คือเที่ยวบิณฑบาต
(๒) บังสุกุลจีวร : ผ้านุ่งห่มทำจากผ้าที่เขาทิ้งแล้ว
(๓) รุกขมูลเสนาสนะ : ที่อยู่อาศัยคือโคนไม้
(๔) ปูติมุตตเภสัช : ยารักษาโรคคือน้ำมูตรดอง
ต่อมา ทรงอนุญาตปัจจัยพิเศษในแต่ละอย่างเพิ่มขึ้นจากเดิม เรียกว่า “อดิเรกลาภ” กล่าวคือ :
(๑) ภัตตาหารที่เป็นอดิเรกลาภ คือ “สงฺฆภตฺตํ อุทฺเทสภตฺตํ นิมนฺตนํ สลากภตฺตํ ปกฺขิกํ อุโปสถิกํ ปาฏิปทิกํ” = ภัตถวายสงฆ์ ภัตเฉพาะสงฆ์ การนิมนต์ ภัตถวายตามสลาก ภัตถวายในปักษ์ ภัตถวายในวันอุโบสถ์ ภัตถวายในวันปาฏิบท ถ้ามีภัตเหล่านี้เกิดขึ้น จะไม่ต้องไปบิณฑบาตก็ได้
(๒) ผ้าที่เป็นอติเรกลาภ คือ “โขมํ กปฺปาสิกํ โกเสยฺยํ กมฺพลํ สาณํ ภงฺคํ” = ผ้าเปลือกไม้ ผ้าฝ้าย ผ้าไหม ผ้าขนสัตว์ ผ้าป่าน ผ้าเจือกัน. (เช่นผ้าด้ายแกมไหม) ถ้ามีผู้ถวายผ้าเหล่านี้ จะใช้สอยก็ได้
(๓) ที่อยู่อาศัยที่เป็นอดิเรกลาภ คือ “วิหาโร อฑฺฒโยโค ปาสาโท หมฺมิยํ คุหา” = วิหาร เรือนมุงแถบเดียว เรือนชั้น เรือนโล้น ถ้ำ ถ้าได้ที่อยู่เช่นนี้ หรือมีผู้ทำที่อยู่เช่นนี้ถวาย จะอาศัยอยู่ก็ได้
(๔) เภสัชที่เป็นอดิเรกลาภ คือ “สปฺปิ นวนีตํ เตลํ มธุ ผาณิตํ” = เนยใส เนยข้น น้ำมัน น้ำผึ้ง น้ำอ้อย ถ้ามีผู้ถวายเภสัชเหล่านี้ จะบริโภคก็ได้
…………..
“น้ำอ้อย” 1 ในเภสัชที่เป็นอดิเรกลาภ คำบาลีว่า “ผาณิต” มีความหมายดังแสดงมาข้างต้น
…………..
ดูก่อนภราดา!
: ถ้าปากจะหวานปานน้ำอ้อย
: ความจริงใจก็อย่าให้น้อยไปกว่าวาจา
#บาลีวันละคำ (3,941)
28-3-66
…………………………….
…………………………….