กิติวัฒนาดุลโสภาคย์ (บาลีวันละคำ 2485)
กิติวัฒนาดุลโสภาคย์
อ่านว่า กิด-ติ-วัด-ทะ-นา-ดุน-ละ-โส-พาก
แยกศัพท์เป็น กิติ + วัฒน + อดุล + โสภาคย์
(๑) “กิติ”
บาลีเป็น “กิตฺติ” (กิด-ติ) รากศัพท์มาจาก กิตฺตฺ (ธาตุ = กล่าวถึง, พูดด้วยดี) + อิ ปัจจัย
: กิตฺต + อิ = กิตฺติ แปลตามศัพท์ว่า “ความดีอันเขากล่าวถึง” หมายถึง คําเล่าลือ, คําสรรเสริญ, ชื่อเสียง, ความรุ่งโรจน์, เกียรติยศ (fame, renown, glory, honour)
“กิตฺติ” สันสกฤตเป็น “กีรฺติ”
สํสกฤต-ไท-อังกฤษ อภิธาน มีคำว่า “กีรฺตฺติ” และ “กีรฺติ” บอกไว้ดังนี้ :
(สะกดตามต้นฉบับ, ความหมายที่ท่านให้ไว้ในภาษาไทยบางคำเข้าใจยาก ถ้าดูภาษาอังกฤษอาจช่วยให้เข้าใจง่ายขึ้น)
“กีรฺตฺติ, กีรฺติ : (คำนาม) เกียรติ, ความบันลือ, ศรี (ยศสฺหรือสง่า), อนุเคราะห์, อนุกูลย์; ธันยวาท; ศัพท์, เสียง; อาภา, โศภา; โคลน, สิ่งโสโครก; ความซ่านทั่ว; มูรติทิพยศักดิ์ของพระกฤษณ; fame, renown, glory; favour; approbation; sound; light, lustre; mud, dirt; diffusion, expansion; one of the Mātrikās or personified divine energies of Krishṇa.”
“กิติ” ปกติสะกดเป็น “กิตติ” (ต 2 ตัว) แต่ในที่เป็นชื่อเฉพาะ (proper name) จึงสะกดเช่นนี้
(๒) “วัฒน”
บาลีเป็น “วฑฺฒน” (วัด-ทะ-นะ) รากศัพท์มาจาก วฑฺฒฺ (ธาตุ = เจริญ, เพิ่มขึ้น) + ยุ ปัจจัย, แปลง ยุ เป็น อน (อะ-นะ)
: วฑฺฒฺ + ยุ > อน = วฑฺฒน แปลตามศัพท์ว่า “การเจริญ” หมายถึง การเพิ่มขึ้น, การยกให้สูง, การบำรุง, การเพิ่มเติม, การทำให้เจริญขึ้น, การทำให้ยาวออกไป (increasing, augmenting, fostering; increase, enlargement, prolongation) ความหมายที่เราคุ้นกันก็คือ “ความเจริญ”
วฑฺฒน ในภาษาไทยตัดตัวสะกดออกตามหลักนิยม ใช้เป็น “วัฒน-” (วัด-ทะ-นะ-, มีคำอื่นสมาสท้าย) หรือ “วัฒน์” (วัด, อยู่ท้ายคำ)
(๓) “อดุล”
บาลีเป็น “อตุล” (อะ-ตุ-ละ) รากศัพท์มาจาก น (ไม่, ไม่ใช่) + ตุลา
(ก) “ตุลา” (ตุ-ลา) รากศัพท์มาจาก ตุลฺ (ธาตุ = ชั่ง, วัด) + อ ปัจจัย + อา ปัจจัยเครื่องหมายอิตถีลิงค์
: ตุลฺ + อ = ตุล + อา = ตุลา แปลตามศัพท์ว่า “เครื่องชั่ง”
“ตุลา” ในบาลีใช้ในความหมายดังนี้ –
(1) ขื่อหรือปั้นจั่นสำหรับยก, พาไปหรือค้ำ, จันทัน (a beam or pole for lifting, carrying or supporting, a rafter)
(2) คานสำหรับชั่งน้ำหนัก, คันชั่ง, เครื่องชั่ง (a weighing pole or stick, scales, balance)
(3) การชั่งน้ำหนัก, มาตร, มาตรฐาน, ระดับ (weighing, measure, standard, rate)
(ข) น + ตุลา แปลง น เป็น อ ตามกฎการเปลี่ยนรูปของ น เมื่อไปประสมกับคำอื่น คือ –
(1) ถ้าคำหลังขึ้นต้นด้วยสระ (อ– อา– อิ– อี– อุ– อู– เอ– โอ-) แปลง น เป็น อน– เช่น :
น + อามัย = อนามัย
น + เอก = อเนก
(2) ถ้าคำหลังขึ้นต้นด้วยพยัญชนะ แปลง น เป็น อ– เช่น :
น + นิจจัง = อนิจจัง
น + มนุษย์ = อมนุษย์
ในที่นี้ “ตุลา” ขึ้นต้นด้วยพยัญชนะ จึงแปลง น เป็น อ– และลบสระท้ายศัพท์คือ อา เนื่องจากเป็นคุณศัพท์
: น + ตุลา = นตุลา > อตุลา > อตุล แปลตามศัพท์ว่า “ชั่งไม่ได้” หมายถึง เปรียบเทียบไม่ได้, ไม่มีที่เปรียบ, วัดไม่ได้หรือสุดที่จะเปรียบ (incomparable, not to be measured, beyond compare or description)
“อตุล” ในภาษาไทยใช้เป็น “อดุล” พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า –
“อดุล, อดุลย-, อดุลย์ : (คำวิเศษณ์) ชั่งไม่ได้, ไม่มีอะไรเปรียบ, ไม่มีอะไรเท่า. (ป., ส. อตุล, อตุลฺย).”
(๔) “โสภาคย์”
บาลีเป็น “โสภาคฺย” (โส-พาก-เคียะ) รากศัพท์มาจาก สุภค + ณฺย ปัจจัย
(ก) “สุภค” (สุ-พะ-คะ) รากศัพท์มาจาก –
(1) สุภ (ดี, งาม) + คมฺ (ธาตุ = ไป, ถึง, เป็นไป) + กฺวิ ปัจจัย, ลบ มฺ ที่สุดธาตุและ กฺวิ
: สุภ + คมฺ = สุภคมฺ + กฺวิ = สุภคมฺกฺวิ > สุภค แปลตามศัพท์ว่า “สิ่งที่ถึงภาวะอันงาม”
(2) สุ (คำอุปสรรค = ดี, งาม, ง่าย) + ภชฺ (ธาตุ = เสพ, คบหา) + อ ปัจจัย, แปลง ชฺ ที่สุดธาตุเป็น ค (ภชฺ > ภค)
: สุ + ภชฺ = สุภชฺ + อ = สุภช > สุภค แปลตามศัพท์ว่า “สิ่งอันเขาซ่องเสพด้วยดีเพราะเป็นสิ่งที่น่าปรารถนา” หมายถึง มีโชคดี; น่ารัก(lucky; beloved)
(ข) สุภค + ณฺย ปัจจัย, ลบ ณฺ (ณฺย > ย), แผลง อุ ที่ สุ-(ภค) เป็น โอ แล้วทีฆะ อะ ที่ –ภ– เป็น อา (สุภค > โสภค > โสภาค)
: สุภค + ณฺย = สุภคณฺย > สุภคฺย > โสภคฺย > โสภาคฺย แปลตามศัพท์ว่า “ภาวะที่รุ่งเรือง” หมายถึง ความรุ่งเรือง, ความงาม, ความสวย (prosperity, beauty)
หมายเหตุ :
รูปคำบาลี “โสภาคฺย” อาจไม่พบบ่อยนัก รูปทั่วไปเป็น “โสภคฺค”
คำว่า “โสภาคย์” ยังไม่ได้เก็บไว้ในพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน
การประสมคำ :
(๑) กิติ + วัฒน = กิติวัฒน แปลว่า “เจริญด้วยเกียรติ”
(๒) อดุล + โสภาคย์ = อดุลโสภาคย์ แปลว่า “มีความงามอันไม่มีที่เปรียบ” หรือ “มีความรุ่งเรืองไม่มีที่เปรียบ”
(๓) กิติวัฒน + อดุลโสภาคย์ = กิติวัฒนาดุลโสภาคย์
ดูเพิ่มเติม:
“เทพรัตนสุดา” บาลีวันละคำ (1,401) 2-4-59
“สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา” บาลีวันละคำ (1,049) 2-4-58
“สิรินธร” บาลีวันละคำ (685) 2-4-57
…………..
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ เมื่อประสูติได้รับการถวายพระนามว่า “สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิรินธรเทพรัตนสุดา กิติวัฒนาดุลโสภาคย์”
ชาวเราทั่วไปอาจไม่คุ้นกับสร้อยพระนาม “กิติวัฒนาดุลโสภาคย์” เนื่องจากโดยปกติไม่ได้ขานพระนามเต็ม ประกอบกับเมื่อทรงได้รับการสถาปนาพระอิสริยศักดิ์เฉลิมพระนามว่า “สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา เจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธร รัฐสีมาคุณากรปิยชาติ สยามบรมราชกุมารี” ก็ไม่ได้ขานพระนามที่ได้รับการถวายเมื่อประสูติ (พระนามเดิม) อีกเลย
…………..
วันที่ 2 เมษายน 2562 เป็นศุภสิริวารคล้ายวันพระราชสมภพ
๏ แถลงพระนามตามนัยบาลี เป็นอนุสรณีย์
เนื่องในศุภมงคลวาร
๏ แถลงศัพท์จับโดยพิสดาร ถวายเป็นราชสักการ
ประดับพระปัญญาบารมี๚ะ๛
#บาลีวันละคำ (2,485)
2-4-62