ยถาบัญญัติ (บาลีวันละคำ 4,057)
ยถาบัญญัติ
ฝากไว้ในวงวรรณอีกคำหนึ่ง
อ่านว่า ยะ-ถา-บัน-หฺยัด
ประกอบด้วยคำว่า ยถา + บัญญัติ
(๑) “ยถา”
อ่านว่า ยะ-ถา เป็นคำจำพวกนิบาต (particle) แปลว่า ฉันใด, เหมือน, ตาม
หลักการใช้ “ยถา” :
– ถ้าใช้โดดๆ จะต้องมีข้อความที่มีคำว่า “เอวํ” หรือ “ตถา” มาคู่กัน เหมือนภาษาไทยว่า “ฉันใด” ต้องมี “ฉันนั้น” มารับ
– ถ้าสมาสกับคำอื่น นิยมแปลว่า “ตาม-” เช่น ยถาพลํ (ยะ-ถา-พะ-ลัง) = ตามกำลัง
ในที่นี้ “ยถา” สมาสกับ “บัญญัติ” เป็น “ยถาบัญญัติ” จึงแปลว่า “ตามที่พระพุทธองค์ทรงบัญญัติไว้”
(๒) “บัญญัติ”
บาลีเป็น “ปญฺญตฺติ” อ่านว่า ปัน-ยัด-ติ รากศัพท์มาจาก ป (คำอุปสรรค = ทั่ว, ข้างหน้า, ก่อน, ออก) + ญา (ธาตุ = รู้) + ติ ปัจจัย, ซ้อน ญฺ ระหว่างอุปสรรคกับธาตุ (ป + ญฺ + ญา), ลบสระที่สุดธาตุ (ญา > ญ), แปลง ติ เป็น ตฺติ
: ป + ญฺ + ญา = ปญฺญา + ติ = ปญฺญาติ > ปญฺญติ > ปญฺญตฺติ แปลตามศัพท์ว่า (1) “การให้รู้โดยทั่วถึง” (2) “การปูลาด”
คำแปลที่ว่า “การปูลาด” เทียบการปูเสื่อ ปูพรม หรือเอาที่นั่งที่นอนมาปูไว้ คือการกำหนดขึ้นว่า ใครจะทำอะไรก็ควรทำหรือต้องทำตามข้อกำหนดอย่างนี้ๆ เหมือนใครนั่งจะนอนก็ควรมานั่งนอนตรงที่ซึ่งปูลาดไว้ให้ ไม่ใช่ไปนั่งนอนเกะกะตามใจชอบ
“ปญฺญตฺติ” หมายถึง การประกาศ, การป่าวร้อง, การแจ้งให้รู้, การตั้งขึ้น, ข้อที่กำหนดขึ้น, การกำหนดเรียก, การวางเป็นกฎไว้, ข้อบังคับ, การแสดงให้เห็น, การกำหนด, การตั้งชื่อ, ความคิดหรือแนวความคิด, ความรู้สึก, ความเข้าใจ
พจนานุกรมบาลี-อังกฤษ แปล “ปญฺญตฺติ” ว่า making known, manifestation, description, designation, name, idea, notion, concept
“ปญฺญตฺติ” ภาษาไทยใช้ว่า “บัญญัติ” (บัน-หฺยัด)
พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า –
“บัญญัติ : (คำนาม) ข้อความที่ตราหรือกําหนดขึ้นไว้เป็นข้อบังคับ เป็นหลักเกณฑ์ หรือเป็นกฎหมาย เช่น พระราชบัญญัติ พุทธบัญญัติ บัญญัติ ๑๐ ประการ. (คำกริยา) ตราหรือกําหนดขึ้นไว้เป็นข้อบังคับ เป็นหลักเกณฑ์ หรือเป็นกฎหมาย เช่น บัญญัติศัพท์ บัญญัติกฎหมาย. (ป. ปญฺญตฺติ).”
ที่แสดงมานั้น “ปญฺญตฺติ” เป็นคำนาม แต่ในที่นี้ “บัญญัติ” ในภาษาไทยแปลจากคำบาลีว่า “ปญฺญตฺต” (ปัน-ยัด-ตะ) ซึ่งเป็นรูปคำกริยา รากศัพท์เหมือน “ปญฺญตฺติ” ต่างแต่ลง ต ปัจจัย, แปลง ต เป็น ตฺต
: ป + ญฺ + ญา = ปญฺญา + ต = ปญฺญาต > ปญฺญต > ปญฺญตฺต แปลตามศัพท์ว่า (1) “อันถูกทำให้รู้โดยทั่วถึง” (2) “อันถูกปูลาด” ใช้เป็นคำกริยาและคุณศัพท์ หมายถึง ชี้แจง, ประกาศ, บัญญัติ, วางระเบียบ, กำหนด, มุ่งหมาย, ปูลาดไว้ (pointed out, made known, ordered, designed, appointed, ordained)
ยถา + ปญฺญตฺต = ยถาปญฺญตฺต (ยะ-ถา-ปัน-ยัด-ตะ) แปลว่า “ตามที่บัญญัติไว้” “ตามที่ปูลาดไว้”
“ยถาปญฺญตฺต” ใช้ในภาษาไทยเป็น “ยถาบัญญัติ” แปลโดยประสงค์ว่า “ตามที่บัญญัติ” ใช้เป็นคำขยายข้อความ เช่น “ทำตามยถาบัญญัติ” หมายความว่า เรื่องใดๆ ก็ตามที่มีระเบียบกฎเกณฑ์กำหนดวางไว้อย่างไร ก็ทำตามนั้น ไม่ละเมิด ฝ่าฝืน หรือละเลย
เมื่อปฏิบัติดังกล่าวนี้ ก็พูดว่า “ทำตามยถาบัญญัติ” เป็นคำบอกกล่าว และมีนัยเป็นคำเตือนอยู่ในที
“ฉันทำตามยถาบัญญัติ”
“เรื่องนี้ควรทำตามยถาบัญญัติ”
ขยายความ :
คำว่า “ยถาบัญญัติ” (ยถาปญฺญตฺต) ที่น่าศึกษาเป็นข้อเตือนใจ ปรากฏในคำเสนอญัตติของพระมหากัสสปเถระในคราวที่พระอรหันต์ 500 ประชุมทำปฐมสังคายนาที่กรุงราชคฤห์เมื่อพระพุทธองค์เสด็จดับขันธปรินิพพานล่วงแล้ว 3 เดือน
ท่านบันทึกเหตุการณ์ครั้งนั้นไว้ในปัญจสติกขันธกะ พระวินัยปิฎก จุลวรรค ภาค 2 พระไตรปิฎกเล่ม 7 ข้อ 621 ข้อความเป็นดังนี้ –
…………..
ยสฺสายสฺมโต ขมติ อปฺปญฺญตฺตสฺส อปฺปญฺญาปนา ปญฺญตฺตสฺส อสมุจฺเฉโท ยถาปญฺญตฺเตสุ สิกฺขาปเทสุ สมาทาย วตฺตนา โส ตุณฺหสฺส ยสฺส นกฺขมติ โส ภาเสยฺย ฯ
…………..
แปลโดยประสงค์ดังนี้
…………..
อปฺปญฺญตฺตสฺส อปฺปญฺญาปนา
การไม่บัญญัติสิ่งที่พระพุทธองค์มิได้ทรงบัญญัติ
ปญฺญตฺตสฺส อสมุจฺเฉโท
การไม่ถอนพระบัญญัติที่ทรงบัญญัติไว้แล้ว
ยถาปญฺญตฺเตสุ สิกฺขาปเทสุ สมาทาย วตฺตนา
การประพฤติมั่นคงอยู่ในสิกขาบททั้งหลายตามที่ทรงบัญญัติแล้ว
ยสฺสายสฺมโต ขมติ
(การปฏิบัติทั้งสามประการนี้) ท่านผู้ใดเห็นชอบ
โส ตุณฺหสฺส
ท่านผู้นั้นพึงดุษณี
ยสฺส นกฺขมติ
ท่านผู้ใดไม่เห็นชอบ
โส ภาเสยฺย ฯ
ท่านผู้นั้นพึงพูดออกมา
…………..
“ยถาบัญญัติ” เป็นคำที่ผู้เขียนบาลีวันละคำ “บัญญัติ” ขึ้นเอง ไม่มีในพจนานุกรม และยังไม่มีใช้ในภาษาไทย
“ขอฝากไว้ในอ้อมใจของมิตรรักแฟนเพลง” อีกคำหนึ่ง
…………..
ดูก่อนภราดา!
: สิกขาบทคือกฎที่งดงาม
: การไม่ปฏิบัติตามคือการด้อยค่าตัวเอง
#บาลีวันละคำ (4,057)
22-7-66
…………………………….
…………………………….