นินทาปสังสา (บาลีวันละคำ 4,513)
นินทาปสังสา
ฝากไว้ในภาษาไทยอีกคำหนึ่ง
อ่านว่า นิน-ทา-ปะ-สัง-สา
ประกอบด้วยคำว่า นินทา + ปสังสา
(๑) “นินทา”
เขียนแบบบาลีเป็น “นินฺทา” (มีจุดใต้ นฺ) อ่านว่า นินฺ-ทา รากศัพท์มาจาก นิทิ (ธาตุ = ติเตียน) + อ (อะ) ปัจจัย, ลงนิคหิตอาคมกลางธาตุแล้วแปลงนิคหิต เป็น น (นิทิ > นึทิ > นินฺทิ), “ลบสระหน้า” คือลบ อิ ที่ (นิ)-ทิ (นิทิ > นิท) + อา ปัจจัยเครื่องหมายอิตถีลิงค์
: นิทิ > นึทิ > นินฺทิ > นินฺท + อ = นินฺท + อา = นินฺทา แปลตามศัพท์ว่า “การติเตียน” หมายถึง การนินทา, การตำหนิ, การหาความ, การติเตียน, ความผิด, ความเสียชื่อ (blame, reproach, fault-finding, fault, disgrace)
เพื่อความเข้าใจกว้างขึ้น ควรรู้เพิ่มเติมว่า “นินฺทา” คำกริยา (ปัจจุบันกาล เอกพจน์ ปฐมบุรุษ หรือบุรุษที่หนึ่ง = สิ่งหรือผู้ที่ถูกพูดถึง) เป็น “นินฺทติ” (นิน-ทะ-ติ) แปลว่า นินทา, หาเรื่อง, ติเตียน, ตำหนิ (to blame, find fault with, censure)
บาลี “นินฺทา” สันสกฤตก็เป็น “นินฺทา”
สํสกฤต-ไท-อังกฤษ อภิธาน บอกไว้ดังนี้ –
“นินฺทา: (คำนาม) ‘นินทา,’ ครหา, การหาเรื่อง; บีฑา, การเบียดเบียน; ความชั่ว; censure, reproach; injury, injuring; wickedness.”
ในภาษาไทย พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า –
“นินทา : (คำนาม) คําติเตียนลับหลัง. (คำกริยา) ติเตียนลับหลัง. (ป., ส. นินฺทา ว่า การติเตียน).”
(๒) “ปสังสา”
เขียนแบบบาลีเป็น “ปสํสา” อ่านว่า ปะ-สัง-สา รากศัพท์มาจาก ป (คำอุปสรรค = ทั่ว, ข้างหน้า, ก่อน, ออก) + สํสฺ (ธาตุ = ชม, สรรเสริญ, ยกย่อง) + อ (อะ) ปัจจัย + อา ปัจจัยเครื่องหมายอิตถีลิงค์
: ป + สํสฺ = ปสํสฺ + อ = ปสํส + อา = ปสํสา แปลตามศัพท์ว่า “การสรรเสริญ” หมายถึง การสรรเสริญ, การสดุดี, การยกย่อง (praise, applause)
“ปสํสา” ใช้ในภาษาไทยเป็น “ปสังสา”
คำว่า “ปสังสา” ยังไม่ได้เก็บไว้ในพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554
นินฺทา + ปสํสา = นินฺทาปสํสา (นิน-ทา-ปะ-สัง-สา) แปลว่า “การนินทาและการสรรเสริญ”
“นินฺทาปสํสา” ใช้ในภาษาไทยเป็น “นินทาปสังสา” เป็นการเอาคำ 2 คำ มาพูดควบกัน
ยังไม่เคยได้ยินว่ามีใครพูดหรือเขียนคำนี้ในภาษาไทย ขอเสนอไว้เพื่อให้ภาษาของเรามีถ้อยคำงอกงามเพิ่มขึ้น
ขยายความ :
“นินทาปสังสา” ที่นักเรียนบาลีน่าจะจำได้ อยู่ในคัมภีร์ธัมมปทัฏฐกถา ภาค 4 ข้อความว่าดังนี้ –
…………..
เสโล ยถา เอกฆโน
วาเตน น สมีรติ
เอวํ นินฺทาปสํสาสุ
น สมิญฺชนฺติ ปณฺฑิตา ฯ
ขุนเขาไม่สะเทือน
เพราะแรงลมฉันใด
บัณฑิตก็ไม่หวั่นไหว
เพราะนินทาหรือสรรเสริญฉันนั้น
Even as a solid rock
Is not shaken by the wind.
So do the wise remain unmoved
By praise or blame.
ภาษาบาลี: ธรรมบท ขุทกนิกาย พระไตรปิฎกเล่ม 25 ข้อ 16
ภาษาไทยและอังกฤษ: พุทธวจนะในธรรมบท โดย เสฐียรพงษ์ วรรณปก
…………..
แถม :
“นินทาปสังสา” ที่ควรศึกษาเรียนรู้ให้กว้างขึ้นท่านแสดงไว้ในโลกธรรมสูตร
ขออาศัยบาลีวันละคำเป็นเวทีประกาศธรรม โดยนำพระพุทธพจน์จากโลกธรรมสูตรเฉพาะที่เป็นบทคาถามาเสนอพร้อมทั้งคำแปลเป็นธรรมบรรณาการดังต่อไปนี้ –
…………..
ลาโภ อลาโภ จ ยสายโส จ
นินฺทา ปสํสา จ สุขํ ทุกฺขญฺจ
เอเต อนิจฺจา มนุเชสุ ธมฺมา
อสสฺสตา วิปริณามธมฺมา.
ลาภ 1 เสื่อมลาภ 1 ยศ 1 เสื่อมยศ 1
นินทา 1 สรรเสริญ 1 สุข 1 ทุกข์ 1
สัจธรรมอันไม่แน่นอนทั้ง 8 เหล่านี้มีอยู่ในหมู่มนุษย์
ไม่ใช่สิ่งที่ยั่งยืน มีความแปรปรวนเป็นธรรมดา
เอเต จ ญตฺวา สติมา สุเมโธ
อเวกฺขติ วิปริณามธมฺเม
อิฏฺฐสฺส ธมฺมา น มเถนฺติ จิตฺตํ
อนิฏฺฐโต โน ปฏิฆาตเมติ.
ท่านผู้มีปัญญา มีสติ รู้เท่าทันสัจธรรมเหล่านี้
พิจารณาเห็นว่ามีความแปรปรวนเป็นธรรมดา
สิ่งที่น่าปรารถนาเขย่าหัวใจของท่านไม่ได้
สิ่งที่ไม่น่าปรารถนา ท่านก็ไม่ขัดข้องขุ่นเคือง
ตสฺสานุโรธา อถ วา วิโรธา
วิธูปิตา อตฺถคตา น สนฺติ
ปทญฺจ ญตฺวา วิรชํ อโสกํ
สมฺมปฺปชานาติ ภวสฺส ปารคู.
ความยินดีและความยินร้ายของท่าน
ถูกขจัดขัดล้างเสียจนไม่มีเหลือ
ทั้งท่านยังรู้จักทางอันไม่ต้องมามัวสุขมัวเศร้า
เข้าใจความเป็นจริงอย่างถูกต้อง ข้ามฝั่งแห่งภพชาติได้สำเร็จ
ที่มา: โลกธรรมสูตร อัฏฐกนิบาต อังคุตรนิกาย
พระไตรปิฎกเล่ม 23 ข้อ 95
…………..
ดูก่อนภราดา!
: ห้ามฝนไม่ให้ตกไม่ได้
: แต่หาร่มมากางไม่ให้เปียกได้
#บาลีวันละคำ (4,513)
20-10-67
…………………………….
…………………………….