อิณาทาน (บาลีวันละคำ 4,321)
อิณาทาน
ฝากไว้ในวงวรรณอีกคำหนึ่ง
อ่านว่า อิ-นา-ทาน
แยกศัพท์เป็น อิณ + อาทาน
(๑) “อิณ”
บาลีอ่านว่า อิ-นะ รากศัพท์มาจาก –
(1) อิ (ธาตุ = ไป, ถึง) + ยุ ปัจจัย, แปลง ยุ เป็น อน (อะ-นะ), แปลง น เป็น ณ
: อิ + ยุ > อน = อิน > อิณ (นปุงสกลิงค์) แปลตามศัพท์ว่า “สิ่งที่ถึงความงอกงาม” (คือมีดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น)
(2) อิณฺ (ธาตุ = ไป, ถึง, เป็นไป) + อ (อะ) ปัจจัย
: อิณฺ + อ = อิณ (นปุงสกลิงค์) แปลตามศัพท์ว่า “สิ่งที่ถึงความงอกงาม”
“อิณ” หมายถึง หนี้ (debt)
บาลี “อิณ” ภาษาไทยใช้เป็น “อิณะ” พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า –
“อิณะ : (คำนาม) หนี้ เช่น ราชิณ (ราช + อิณ) ว่า หนี้หลวง. (ป.; ส. ฤณ).”
(๒) “อาทาน”
บาลีอ่านว่า อา-ทา-นะ ประกอบด้วย อา (คำอุปสรรค = ทั่วไป, กลับความ) + ทาน
(1) ทาน รากศัพท์มาจาก ทา (ธาตุ = ให้) + ยุ ปัจจัย, แปลง ยุ เป็น อน (อะ-นะ)
: ทา + ยุ > อน = ทาน แปลตามศัพท์ว่า “การให้” “สิ่งที่ให้”
คำว่า “ทาน” มีความหมายว่า –
๑ การให้, ยกมอบแก่ผู้อื่น, ให้ของที่ควรให้ แก่คนที่ควรให้ เพื่อประโยชน์แก่เขา, สละให้ปันสิ่งของของตนเพื่อประโยชน์แก่ผู้อื่น
๒ สิ่งที่ให้, ทรัพย์สินสิ่งของที่มอบให้หรือแจกออกไป
(2) อา + ทาน = อาทาน
“อา” ในที่นี้ทำหน้าที่ “กลับความ” เช่น –
คม หมายถึง “ไป”
อาคม กลับความ หมายถึง “มา”
ดังนั้น : ทาน แปลว่า “ให้”
“อาทาน” กลับความ จึงหมายถึง “เอา” คือ รับเอา ถือเอา
พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 เก็บคำว่า “อาทาน” ไว้ด้วย บอกไว้ว่า –
“อาทาน : (คำนาม) การถือเอา, การรับ, การยึดถือ, มักใช้เป็นส่วนท้ายศัพท์ เช่น อุปาทาน สมาทาน. (ป., ส.).”
อิณ + อาทาน = อิณาทาน (อิ-นา-ทา-นะ) แปลว่า “การถือเอาหนี้” หมายถึง การกู้หนี้ คือหยิบยืมเงินของผู้อื่นมาใช้
“อิณาทาน” ใช้ในภาษาไทย อ่านแบบไทยว่า อิ-นา-ทาน หมายถึง การกู้หนี้ยืมสิน
“อิณาทาน” ยังไม่ได้เก็บไว้ในพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554
พจนานุกรมฯ เก็บคำว่า “อทินนาทาน” ซึ่งเป็นศัพท์ทางธรรมเช่นเดียวกับ “อิณาทาน” บอกไว้ดังนี้ –
“อทินนาทาน : (คำนาม) การถือเอาสิ่งของที่เจ้าของไม่ได้ให้แก่ตน, การลักทรัพย์. (ป.).”
ดังนั้น ถ้าจะมี “อิณาทาน” ใช้ในภาษาไทยและมีเก็บไว้ในพจนานุกรมฯ ก็ย่อมไม่ผิดกติกาแต่ประการใด
จึงขอฝาก “อิณาทาน” ไว้ – “ในอ้อมใจของมิตรแฟนเพลง” อีกคำหนึ่ง
ขยายความ :
“กู้หนี้” ประโยคบาลีว่า “อิณํ คณฺหาติ” แปลตามศัพท์ว่า “ถือเอาซึ่งหนี้” หมายถึง ขอยืมเงินหรือกู้หนี้ (to borrow money or take up a loan)
“ชำระหนี้” ประโยคบาลีว่า “อิณํ มุญฺจติ” แปลตามศัพท์ว่า “เปลื้องซึ่งหนี้” หมายถึง ชำระหนี้ (to discharge a debt)
หนังสือ พุทธศาสนสุภาษิต เล่ม 1 แบบเรียนวิชาเรียงความแก้กระทู้ธรรม นักธรรมชั้นตรี มีสุภาษิตบทหนึ่งที่นักเรียนนักธรรมจำกันได้ดี คือ –
อิณาทานํ ทุกขํ โลเก.
การกู้หนี้ เป็นทุกข์ในโลก
ในพระไตรปิฎกซึ่งเป็นที่มาของสุภาษิตบทนี้ พระพุทธพจน์อันเป็นต้นฉบับมีข้อความว่า –
…………..
อิณาทานมฺปิ ภิกฺขเว ทุกฺขํ โลกสฺมึ กามโภคิโน.
แม้การกู้ยืมก็เป็นทุกข์ของบุคคลผู้บริโภคกามในโลก
ที่มา: อิณสูตร อังคุตรนิกาย ฉักกนิบาต พระไตรปิฎกเล่ม 22 ข้อ 316
…………..
หนังสืออธิบายธรรมวิภาค ปริเฉทที่ 1 แบบประกอบนักธรรมชั้นตรี ฉบับมหามกุฏราชวิทยาลัย อธิบายเรื่องสุขของคฤหัสถ์ 4 อย่าง สุขอย่างที่ 3 คือ สุขเกิดแต่ความไม่ต้องเป็นหนี้ อธิบายว่า –
…………..
… เมื่อได้แบ่งทรัพย์ออกเป็นส่วน ๆ ใช้เองบ้าง ทำบุญบ้าง ลงทุนประกอบอาชีพบ้าง เก็บไว้ใช้ในยามฉุกเฉินบ้าง ก็เป็นไท ไม่ตกเป็นทาสใคร ไม่ต้องกู้หนี้ใคร มองเห็นโทษในการกู้หนี้ตามพระบาลีว่า อิณาทานํ ทุกฺขํ โลเก การกู้หนี้เป็นทุกข์ในโลก เมื่อตนไม่มีหนี้ติดตัวก็ย่อมมีความสุขอิ่มใจว่า “เราไม่มีหนี้ สบาย” …
…………..
อาจารย์เสฐียรพงษ์ วรรณปก อธิบายเรื่องการกู้หนี้เป็นทุกข์ไว้ตอนหนึ่งว่า –
…………..
คนเราเมื่อจนไม่มีจะกินก็ต้องไปกู้หนี้ยืมสินเขามา ก็เป็นทุกข์
เมื่อไม่มีให้เขา ถูกเขาทวง ก็เป็นทุกข์
เขาทวงหนัก ๆ เข้าอายเขา จึงพยายามหลบหน้า ก็เป็นทุกข์
เมื่อไม่มีปัญญาใช้หนี้เขา ถูกเขาจับหรือฟ้องร้อง ก็เป็นทุกข์
ตกลงทุกข์ทุกขั้นตอนเลย
ที่มา: คอลัมน์ รื่นร่มรมเยศ มติชนออนไลน์
วันที่ 8 ธันวาคม 2562
…………..
ดูก่อนภราดา!
ปริศนาธรรม –
: กู้หนี้ใหม่
: ใช้หนี้เก่า
คืออะไร ใครรู้บ้าง
#บาลีวันละคำ (4,321)
11-4-67
…………………………….
…………………………….