เกษตรอินทรีย์ (บาลีวันละคำ 4,454)
เกษตรอินทรีย์
คือเกษตรแบบไหน
อ่านตามที่นิยมอ่านกันว่า กะ-เสด-อิน-ซี
ประกอบด้วยคำว่า เกษตร + อินทรีย์
(๑) “เกษตร”
บาลีเป็น “เขตฺต” อ่านว่า เขด-ตะ รากศัพท์มาจาก –
(1) ขิปฺ (ธาตุ = หว่าน, กระจายออก) + ต ปัจจัย, แผลง อิ ที่ ขิ-(ปฺ) เป็น เอ, ลบ ปฺ ที่สุดธาตุ, ซ้อน ต
: ขิปฺ > เขป + ต = เขปต > เขต + ต = เขตฺต แปลตามศัพท์ว่า “ที่เป็นที่หว่านพืช”
(2) ขิตฺต (เมล็ดพืชที่หว่านไป) + ตา (ธาตุ = รักษา) + อ (อะ) ปัจจัย, แผลง อิ ที่ ขิ-(ตฺต) เป็น เอ, ลบ ต ที่ (ขิตฺ)-ต (ภาษาไวยากรณ์ว่า “ลบที่สุดบทหน้า”), ลบสระที่สุดธาตุ: ตา > ต
: ขิตฺต + ตา = ขิตฺตตา > ขิตฺตต + อ = ขิตฺตต > ขิตฺต > เขตฺต แปลตามศัพท์ว่า “ที่เป็นที่รักษาพืชที่หว่านไว้”
“เขตฺต” ในภาษาบาลีใช้ในความหมายดังนี้ –
(1) นา, ที่ดินแปลงหนึ่ง, ที่ดินอันเหมาะสมแก่การเพาะปลูก, ที่ตั้ง (a field, a plot of land, arable land, a site)
(2) ที่อันเป็นเนื้อนาบุญ, กองแห่งกุศลกรรม (the soil of merit, the deposit of good deeds)
“เขตฺต” ภาษาไทยปัจจุบันใช้เป็น “เขต” (ตัด ต ออกตัวหนึ่ง) อ่านว่า เขด พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า –
“เขต : (คำนาม) แดนที่กําหนดขีดคั่นไว้ เช่น เขตป่า เขตบ้าน, เวลาที่กําหนดขีดคั่นไว้ เช่น หมดเขตวันที่ ๑๕. (ป. เขตฺต). (โบราณเขียนว่า เขตร).”
บาลี “เขตฺต” สันสกฤตเป็น “เกฺษตฺร”
สํสกฤต-ไท-อังกฤษ อภิธาน บอกไว้ว่า –
(สะกดตามต้นฉบับ)
“เกฺษตฺร : (คำนาม) ‘เกษตร์,’ ทุ่ง, นา; ตัว, ร่างกาย; ชายา; บุณยสถานหรือที่ศักดิ์สิทธิ์ (ดุจพาราณสี, ฯลฯ); เรขาคณิต; จิตร์หรือรูปเส้นขอบ, รูปสังเขป, แผนเส้นขอบ; a field; the body; a wife; a place of pilgrimage or sacred spot (as Benares, &c.); geometry; a diagram, a plan drawn in outline.”
บาลี “เขตฺต” สันสกฤต “เกฺษตฺร” ภาษาไทยที่ใช้เป็น “เกษตร” (กะ-เสด) พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกความหมายไว้ว่า –
“เกษตร : (คำนาม) ที่ดิน, ทุ่ง, นา, ไร่; (คำโบราณ) แดน เช่น พุทธเกษตร. (ส. เกฺษตฺร; ป. เขตฺต).”
(๒) “อินทรีย์”
เขียนแบบบาลีเป็น “อินฺทฺริย” (มีจุดใต้ นฺ และ ทฺ) อ่านว่า อิน-เทฺรียะ รากศัพท์มาจาก อินฺท + ร อาคม + อิย ปัจจัย
(ก) “อินฺท” รากศัพท์มาจาก อิทิ (ธาตุ = เป็นใหญ่ยิ่ง) ลงนิคหิตอาคมต้นธาตุ แปลงนิคหิตเป็น นฺ (อิทิ > อึทิ > อินฺทิ) + อ (อะ) ปัจจัย, ลบสระที่สุดธาตุ (อิทิ > อิท)
: อิทิ > อึทิ (อิง-ทิ) > อินฺทิ > อินฺท + อ = อินฺท แปลตามศัพท์ว่า “ผู้กระทำความเป็นใหญ่ยิ่ง” หมายถึง พระอินทร์, ผู้เป็นเจ้า, ผู้เป็นหัวหน้า, พระราชา, ผู้ปกครอง
(ข) : อินฺท + ร = อินฺทร + อิย = อินฺทริย > อินฺทฺริย (นปุงสกลิงค์) แปลตามศัพท์ว่า (1) “เป็นของพระอินทร์” (belonging to Indra) (2) “เป็นของผู้ปกครอง” (belonging to the ruler)
พจนานุกรมบาลี-อังกฤษ ไขความคำว่า “อินฺทฺริย” (ตามความเข้าใจของฝรั่ง) ไว้ดังนี้ –
(1) faculty, function (สมรรถพล = กำลังแห่งความสามารถ, การทำงาน)
(2) kind, characteristic, determinating principle, sign, mark (ชนิด, ลักษณะ, หลักที่เป็นตัวกำหนด, เครื่องแสดง, เครื่องหมาย)
(3) principle, controlling force (หลักการ, กำลังที่ควบคุม)
(4) category (ประเภท)
บาลี “อินฺทฺริย” ภาษาไทยใช้ว่า “อินทรีย์” พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกความหมายไว้ดังนี้ –
(1) ร่างกายและจิตใจ เช่น สํารวมอินทรีย์
(2) สติปัญญา เช่น อินทรีย์แก่กล้า
(3) สิ่งมีชีวิต
พจนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับประมวลศัพท์ ของท่าน ป.อ.ปยุตฺโต บอกความหมายทางธรรมของ “อินทรีย์”ไว้ว่า –
…………..
อินทรีย์ : ความเป็นใหญ่, สภาพที่เป็นใหญ่ในกิจของตน, ธรรมที่เป็นเจ้าการในการทำหน้าที่อย่างหนึ่งๆ เช่น ตาเป็นใหญ่หรือเป็นเจ้าการในการเห็น หูเป็นใหญ่ในการได้ยิน วิริยะเป็นเจ้าการในการครอบงำเสียซึ่งความเกียจคร้าน เป็นต้น
…………..
เกษตร + อินทรีย์ = เกษตรอินทรีย์ เป็นคำประสมแบบไทย แต่อาศัยคำบาลีสันสกฤต น่าจะแปลจากหน้าไปหลังว่า “การเกษตรแบบอินทรีย์”
คำว่า “เกษตรอินทรีย์” ยังไม่ได้เก็บไว้ในพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554
อภิปรายขยายความ :
“เกษตรอินทรีย์” แปลตามศัพท์หรือแปลแบบทับศัพท์ว่า “การเกษตรแบบอินทรีย์” แปลแล้วก็ยังไม่รู้ทันทีว่าคือการเกษตรแบบไหน
“เกษตร” พอเข้าใจได้
“อินทรีย์” คำเดียวก็พอเข้าใจได้
แต่พอควบกันเป็น “เกษตรอินทรีย์” ย่อมเกิดความหมายใหม่ขึ้นมา และยากที่จะเข้าใจว่า-หมายความว่าอย่างไร
“เกษตรอินทรีย์” แปลงกลับเป็นบาลีก็น่าจะเป็น “เขตฺตินฺทฺริย” หรือ “อินฺทฺริยเขตฺต”
ในคัมภีร์บาลี ยังไม่พบศัพท์ที่มีรูปแบบนี้
วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี มีคำว่า “เกษตรอินทรีย์” (อ่านเมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2567 เวลา 20:30 น.) อธิบายความหมายของคำว่า “เกษตรอินทรีย์” ไว้ตอนหนึ่ง ดังนี้ –
(สะกดตามต้นฉบับ)
…………..
เกษตรอินทรีย์ (อังกฤษ: organic farming) เป็นเกษตรกรรมแบบหนึ่งซึ่งอาศัยเทคนิคอย่างการปลูกพืชหมุนเวียน ปุ๋ยพืชสด ปุ๋ยคอก และการควบคุมสัตว์รังควานทางชีวภาพ เกษตรอินทรีย์ใช้ปุ๋ยและสารฆ่าศัตรูพืชและสัตว์ (มีสารฆ่าวัชพืช ยาฆ่าแมลงและสารฆ่าเชื้อรา) หากถือว่ามาจากธรรมชาติ (เช่น กระดูกป่นจากสัตว์หรือไพรีทรินจากดอกไม้) แต่ไม่ใช้หรือจำกัดการใช้อย่างยิ่งซึ่งวิธีการต่าง ๆ (รวมปุ๋ยและสารฆ่าศัตรูพืชและสัตว์ปิโตรเคมีสังเคราะห์ ตัวเร่งการเติบโตของพืช เช่น ฮอร์โมน การใช้ยาปฏิชีวนะในปศุสัตว์ สิ่งมีชีวิตดัดแปรพันธุกรรม กากสิ่งปฏิกูลของมนุษย์ และวัสดุนาโน) โดยแสวงเป้าหมายซึ่งมีความยั่งยืน ความเปิดเผย การไม่พึ่งพา สุขภาพและความปลอดภัย
วิธีการเกษตรอินทรีย์มีการกำกับระหว่างประเทศและหลายประเทศบังคับใช้กฎหมาย โดยยึดมาตรฐานที่สหพันธ์ขบวนการเกษตรอินทรีย์ระหว่างประเทศ (IFOAM) ตั้งขึ้นเป็นหลัก IFOAM เป็นองค์การครอบคลุมระหว่างประเทศขององค์การเกษตรอินทรีย์ที่ตั้งในปี 2515 …
…………..
ได้ความว่า คำว่า “เกษตรอินทรีย์” บัญญัติจากคำอังกฤษว่า organic farming
farming นั้น เดาได้ทันทีว่า กลายมาเป็น “เกษตร”
เพราะฉะนั้น “อินทรีย์” ก็ต้องมาจาก organic
พจนานุกรม สอ เสถบุตร แปล organic เป็นไทยไว้ดังนี้ –
1. แห่งอวัยวะ
2. (วัตถุ) ที่ได้มาจากสิ่งมีชีวิต เช่น น้ำตาล ฝ้าย, อินทรีย์ (เคมี)
3. เป็นโดยกำเนิด, เป็นสมุฏฐาน
4. ในอันที่จะรวบรวมขึ้นเป็นองค์
5. ซึ่งเป็นน้ำหนึ่งอันเดียวกัน
6. (กฎหมาย) ที่สร้างรูปแห่งรัฐ
พจนานุกรมอังกฤษ-บาลี แปล organic เป็นบาลีดังนี้:
indriyabaddha อินฺทฺริยพทฺธ (อิน-เทฺรียะ-พัด-ทะ) = เกี่ยวเนื่องกับอินทรีย์
เพราะฉะนั้น organic farming ก็คือ การเกษตรที่เกี่ยวเนื่องกับอินทรีย์
ก็ต้องกลับไปดูว่า “อินทรีย์” ที่ใช้ในภาษาไทยหมายถึงอะไร
(1) ร่างกายและจิตใจ เช่น สํารวมอินทรีย์
(2) สติปัญญา เช่น อินทรีย์แก่กล้า
(3) สิ่งมีชีวิต
ที่น่าจะเข้ากันได้ดีที่สุดคือ “สิ่งมีชีวิต”
organic farming > เกษตรอินทรีย์ > การเกษตรที่เกี่ยวเนื่องกับอินทรีย์ > การเกษตรที่เกี่ยวเนื่องกับสิ่งมีชีวิต
ผู้เขียนบาลีวันละคำสิ้นปัญญาเพียงแค่นี้
เหนือไปกว่านี้คงต้องขอแรงท่านผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางเข้ามาช่วยบูรณาการต่อไป
…………..
ดูก่อนภราดา!
: ขึ้นสู่ตำแหน่งที่เป็นใหญ่อย่างสง่างามได้อย่างไร ไม่ยาก
: ลงจากตำแหน่งอย่างไรจึงจะสง่างาม นี่สิยาก
#บาลีวันละคำ (4,454)
22-8-67
…………………………….
…………………………….