อธิคุณ (บาลีวันละคำ 4,471)
อธิคุณ
เพราะไม่คิด จึงผิดจนเคย
อ่านว่า อะ-ทิ-คุน
ประกอบด้วยคำว่า อธิ + คุณ
(๑) “อธิ”
เป็นคำอุปสรรค (คำที่ใช้ประกอบข้างหน้าคำนามหรือกริยาให้มีความหมายยักเยื้องออกไป) นักเรียนบาลีแปลกันว่า ยิ่ง, ใหญ่, ทับ
พจนานุกรมบาลี-อังกฤษ แสดงความหมายไว้ว่า –
(1) บอกทิศทาง, จุดหมาย = จนถึง, เหนือ, ไปยัง, บน (up to, over, toward, to, on)
(2) บอกสถานที่ = บนยอด, ข้างบน, เหนือ, บน (on top of, above, over)
(๒) “คุณ”
บาลีอ่านว่า คุ-นะ รากศัพท์มาจาก คุณฺ (ธาตุ = ประกาศ, ผูก, มัด, สั่งสม) + อ (อะ) ปัจจัย
: คุณฺ + อ = คุณ (ปุงลิงค์) แปลตามศัพท์ว่า –
(1) “สิ่งที่ประกาศความดีของตน” = เมื่อทำสิ่งนั้น ก็จะประกาศให้รู้ว่าสิ่งที่ทำหรือผู้ทำสิ่งนั้นมีความดี
(2) “สิ่งที่ผูกผลไว้กับตน” = เมื่อทำสิ่งนั้นก็เท่ากับได้ผลของสิ่งนั้นติดพันมาด้วย
(3) “สิ่งอันผู้ต้องการความดีสั่งสม” = ใครต้องการความดีก็ต้องสั่งสมสิ่งนั้น ถ้าไม่สั่งสมก็ไม่มีและไม่ได้สิ่งที่ต้องการ
“คุณ” ในบาลีใช้ในความหมายว่า –
(1) เชือก, ด้าย (a string, a cord)
(2) ส่วนที่ประกอบขึ้น, ส่วนผสม, สิ่งที่ประกอบ (constituent part, ingredient, component, element)
(3) คุณภาพ, คุณความดี, ผลประโยชน์, ผลบุญ (quality, good quality, advantage, merit)
(4) เมื่อใช้กับ “จำนวน” หรือสิ่งที่นับจำนวน หมายถึง ประการ, ส่วน, เท่า (-fold)
อธิ + คุณ = อธิคุณ บาลีอ่านว่า อะ-ทิ-คุ-นะ ในที่นี้อ่านแบบไทยว่า อะ-ทิ-คุน แปลว่า “คุณอันยิ่งใหญ่”
อภิปรายขยายความ :
ผู้รู้ประมวลพระคุณของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไว้เป็น 3 ส่วน คือ –
(1) พระปัญญา
(2) พระวิสุทธิ (บางทีใช้คำว่า บริสุทธิ)
(3) พระกรุณา
มีผู้ใช้คำเรียกพระคุณทั้งสามว่า –
พระปัญญาธิคุณ
พระวิสุทธิคุณ
พระกรุณาธิคุณ
(ลำดับก่อนหลังอาจต่างกันไป)
ขอชวนให้พิจารณาว่า คำเรียกพระคุณทั้งสามนี้ มีคำว่า “อธิคุณ” อยู่ในคำไหนบ้าง?
1 “ปัญญาธิคุณ” แยกเป็น ปัญญา + อธิคุณ = พระคุณอันยิ่งคือปัญญา
2 “วิสุทธิคุณ” แยกเป็น วิสุทธิ + คุณ = พระคุณคือวิสุทธิ
3 “กรุณาธิคุณ” แยกเป็น กรุณา + อธิคุณ = พระคุณอันยิ่งคือกรุณา
จะเห็นว่า “ปัญญาธิคุณ” และ “กรุณาธิคุณ” มีคำว่า “อธิคุณ” อยู่ด้วย
แต่ “วิสุทธิคุณ” ไม่มีคำว่า “อธิคุณ”
มีใครเคยสังเกตหรือฉุกคิดบ้าง?
คำเรียกพระคุณทั้งสาม ดูเผิน ๆ ลงท้ายว่า “-ธิคุณ” เหมือนกัน ก็น่าจะถูกต้องแล้ว แต่เมื่อแยกศัพท์จะเห็นได้ว่า “ปัญญา” และ “กรุณา” + “อธิคุณ”
แต่ “วิสุทธิ” + “คุณ” ไม่ใช่ “อธิคุณ”
น้ำหนักของคำจึงไม่สมเสมอกัน
ถ้าจะให้สมเสมอกับอีกสองคำ คือ –
ปัญญา + อธิคุณ = ปัญญาธิคุณ
กรุณา + อธิคุณ = กรุณาธิคุณ
วิสุทธิ + อธิคุณ = ??
วิสุทธิ + อธิคุณ รูปสำเร็จจะไม่ใช่ = วิสุทธิคุณ
แต่จะต้องเป็น วิสุทธาธิคุณ ตามสูตร “ลบสระหน้า ทีฆะสระหลัง”
“ลบสระหน้า” คือ ลบ อิ ที่ วิสุทธิ (วิสุทธิ > วิสุทธ)
“ทีฆะสระหลัง” คือยืดเสียง อะ ที่ อธิคุณ เป็น อา (อธิคุณ > อาธิคุณ)
: วิสุทธิ > วิสุทธ + อธิคุณ > อาธิคุณ : วิสุทธ + อาธิคุณ = วิสุทธาธิคุณ
คำว่า “วิสุทธาธิคุณ” ยังไม่พบว่ามีใช้ในคัมภีร์ โดยเฉพาะที่ใช้กล่าวถึงพระพุทธคุณก็ไม่มีรูปคำเช่นนี้
นั่นคือ “-ธิคุณ” ท้ายคำ “วิสุทธิคุณ” ไม่ได้มาจาก “อธิคุณ” เหมือนอีกสองคำ
“-ธิ-” คำนั้น มาจาก “วิสุทธิ-” ไม่ได้มาจาก “อธิคุณ”
นั่นคือ เราใช้คำผิดชุดกันมาจน-ผิดกำลังจะกลายเป็นถูกไปแล้ว
คำในชุดนี้ที่ถูกต้องจึงควรเป็น –
“พระปัญญาคุณ” (ไม่ใช่ พระปัญญาธิคุณ) = ปัญญา + คุณ พระคุณคือปัญญา
“พระวิสุทธิคุณ” = วิสุทธิ + คุณ พระคุณคือวิสุทธิ (ความบริสุทธิ์หมดจด)
“พระมหากรุณาคุณ” (ไม่ใช่ พระมหากรุณาธิคุณ) = มหากรุณา + คุณ พระคุณคือมหากรุณา
ถ้ายังสงสัยว่า ปัญญา- กับ กรุณา- ทำไมจึงไม่เป็น “-ธิคุณ” และจะให้เป็น “-ธิคุณ” ได้หรือไม่ ก็ขอให้ย้อนไปอ่านตั้งแต่ต้นอีกเที่ยว
…………..
ถูกต้องแล้วที่ว่า ภาษาเป็นเรื่องสมมุติ
แล้วทำไมเราจึงไม่ช่วยกันสมมุติให้เป็นภาษาที่ถูกต้องดีงามเล่า
ทำไมเราจึงช่วยกันสมมุติให้ผิดกลายเป็นถูกอยู่เช่นนี้เล่า
…………..
ดูก่อนภราดา!
คำบางคำ เรื่องบางเรื่อง –
: มองผ่านไม่ผิด
: แต่มองพิศไม่ผ่าน
#บาลีวันละคำ (4,471)
8-9-67
…………………………….
…………………………….