ปฏิสสวทุกกฏ (บาลีวันละคำ 4,519)
ปฏิสสวทุกกฏ
ศัพท์วิชาการทางพระวินัย
อ่านว่า ปะ-ติด-สะ-วะ-ทุก-กด
ประกอบด้วยคำว่า ปฏิสสว + ทุกกฏ
(๑) “ปฏิสสว”
เขียนแบบบาลีเป็น “ปฏิสฺสว” (มีจุดใต้ สฺ ตัวหน้า) อ่านว่า ปะ-ติด-สะ-วะ รากศัพท์มาจาก ปฏิ (คำอุปสรรค = เฉพาะ ตอบ ทวน กลับ) + สุ (ธาตุ = ฟัง) + อ (อะ) ปัจจัย, แผลง อุ ที่ สุ เป็น โอ แล้วแปลง โอ เป็น อว (สุ > โส > สว), ซ้อน สฺ ระหว่างอุปสรรคกับธาตุ (ปฏิ + สฺ + สุ)
: ปฏิ + สฺ + สุ = ปฏิสฺสุ + อ = ปฏิสฺสุ > ปฏิสฺโส > ปฏิสฺสว (ปุงลิงค์) แปลตามศัพท์ว่า “การฟังตอบ”
หนังสือ ศัพท์วิเคราะห์ ของ พระมหาโพธิวงศาจารย์ (ทองดี สุรเตโช ป.ธ.๙, ราชบัณฑิต) บอกความหมายของ “ปฏิสฺสว” ว่า คำรับรอง, คำยืนยัน, คำมั่นสัญญา, คำปฏิญญา
พจนานุกรมบาลี-อังกฤษ แปล “ปฏิสฺสว” ว่า assent, promise, obedience (การยินยอม, การปฏิญญา, การเชื่อฟัง)
บาลี “ปฏิสฺสว” ในภาษาไทยตัดตัวสะกดออกตัวหนึ่ง ใช้เป็น “ปฏิสวะ” พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า –
“ปฏิสวะ : (คำแบบ) (คำนาม) การฝืนคำรับ, การรับแล้วไม่ทำตามรับ. (ป. ปฏิสฺสว).”
(๒) “ทุกกฏ”
เขียนแบบบาลีเป็น “ทุกฺกฎ” (ก ไก่ 2 ตัว มีจุดใต้ กฺ ตัวหน้า, ตัวตาม ก ไก่ คือ ฏ ปฏัก) อ่านว่า ทุก-กะ-ตะ รากศัพท์มาจาก ทุ + กฏ
(ก) “ทุ” เป็นศัพท์จำพวก “อุปสรรค” นักเรียนบาลีท่องจำคำแปลกันมาว่า “ทุ : ชั่ว, ยาก, ลำบาก, ทราม, น้อย”
พจนานุกรมบาลี-อังกฤษ บอกความหมายของ “ทุ” ว่า (bad, wrong, perverseness, difficulty, badness (ชั่ว, ผิด, ยาก, ลำบาก, ทราม, การใช้ไปในทางที่ผิด, ความยุ่งยาก, ความเลว)
ในภาษาไทย พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2542 บอกไว้ว่า –
“ทุ ๑ : (คำวิเศษณ์) คําอุปสรรคในภาษาบาลีและสันสกฤต แปลว่า ชั่ว, ยาก, ลําบาก, เลว, ทราม, เช่น ทุจริต ว่า ความประพฤติชั่ว, ทุกร ว่า ทําได้โดยยาก, ทุปปัญญา ว่า ปัญญาทราม เป็นต้น. (ดู ทุร ประกอบ). (ป.; ส. เดิมเป็น ทุสฺ), ทุ นี้เมื่ออยู่หน้าคําอื่นตามหลักไวยากรณ์ภาษาบาลีและสันสกฤต กําหนดให้เติมตัวสะกดลงตัวหนึ่งเพื่อให้เท่าของเดิม เช่น ทุ + คติ เป็น ทุคคติ, ทุ + จริต เป็น ทุจจริต, ตัวสะกดนั้นดูพยัญชนะคําหลังเป็นเกณฑ์ ถ้าพยัญชนะวรรคคําหลังเป็นอักษรสูงหรืออักษรกลาง ก็ใช้พยัญชนะที่ ๑ แห่งวรรคนั้นสะกด เช่น ทุ + กร เป็น ทุกกร, ทุ + ข เป็น ทุกข, ถ้าเป็นพยัญชนะวรรคคําหลังเป็นอักษรตํ่า ก็ใช้พยัญชนะที่ ๓ แห่งวรรคนั้นสะกด เช่น ทุ + คติ เป็น ทุคคติ, ทุ + ภาษิต เป็น ทุพภาษิต, อีกอย่างหนึ่งว่า ถ้าพยัญชนะคําหลังเป็นอักษรตํ่า ก็ใช้เติม ร แทนตัวสะกดได้ทุกวรรค เช่น ทุรชน ทุรพล ทุรภิกษ์ ทุรยศ ทุรลักษณ์, หรือเอาสระ อุ ออกเสียก็มี เช่น ทรชน ทรพล ทรพิษ ทรยศ ทรลักษณ์, ในวิธีหลังนี้บางมติว่า เอา อุ เป็น ร (ใช้ไปถึงคํา ทรกรรม ด้วย) และเมื่ออยู่หน้าสระก็เติม ร เช่น ทุ + อาจาร เป็น ทุราจาร, ทุ + อาธวา เป็น ทุราธวา.”
ต่อมา พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 ปรับปรุงคำนิยามใหม่ บอกไว้ว่า –
“ทุ ๑ : (คำวิเศษณ์) คำอุปสรรคในภาษาบาลีและสันสกฤต แปลว่า ชั่ว, ยาก, ลำบาก, เลว, ทราม, เช่น ทุจริต ว่า ความประพฤติชั่ว, ทุกร ว่า ทำได้โดยยาก, ทุปปัญญา ว่า ปัญญาทราม เป็นต้น. (ดู ทุร ประกอบ). (ป.; ส. เดิมเป็น ทุสฺ).”
(ข) “กฏ” รูปคำเดิมเป็น “กต” รากศัพท์มาจาก กรฺ (ธาตุ = กระทำ) + ต ปัจจัย, ลบ รฺ ที่สุดธาตุ, แปลง ต เป็น ฏ
: กรฺ + ต = กรต > กต > กฏ แปลตามศัพท์ว่า “อัน-กระทำแล้ว”
ทุ + กฎ ซ้อน กฺ
: ทุ + กฺ + กฏ = ทุกฺกฏ (ทุก-กะ-ตะ) แปลตามศัพท์ว่า “อัน-กระทำผิดแล้ว” หรือ “กรรมที่ทำไม่ดี”
ในภาษาไทย พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2542 สะกดเป็น “ทุกฏ” (ตัด ก ออกตัวหนึ่ง) บอกไว้ว่า –
“ทุกฏ : (คำแบบ) (คำนาม) ความชั่ว; ชื่ออาบัติจําพวกหนึ่งในอาบัติทั้ง ๗. (ป. ทุกฺกฏ).”
ต่อมา พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 ได้แก้ไขการสะกดเป็น “ทุกกฏ” (คง ก ไว้ทั้ง 2 ตัว) บทนิยามก็ปรับแก้ใหม่ โดยบอกไว้ว่า –
“ทุกกฏ : (คำนาม) ชื่ออาบัติจำพวกหนึ่งในอาบัติทั้ง ๗ จัดไว้ในพวกลหุกาบัติคืออาบัติเบาที่เปรียบด้วยลหุโทษ. (ป.).”
พจนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับประมวลศัพท์ ของท่าน ป.อ. ปยุตฺโต บอกไว้ว่า –
…………..
ทุกกฏ : ‘ทำไม่ดี’ ชื่ออาบัติเบาอย่างหนึ่ง เป็นความผิดถัดรองลงมาจากปาฏิเทสนียะ เช่น ภิกษุสวมเสื้อ สวมหมวก ใช้ผ้าโพกศีรษะ ต้องอาบัติทุกกฏ.
…………..
ปฏิสฺสว + ทุกฺกฏ = ปฏิสฺสวทุกฺกฏ (ปะ-ติด-สะ-วะ-ทุก-กะ-ตะ) แปลว่า “ทุกกฏเพราะรับคำ” หรือ “ทุกกฎเพราะกลับคำ”
“ปฏิสสวทุกฺกฏ” ใช้ในภาษาไทยเป็น “ปฏิสสวทุกกฏ” อ่านว่า ปะ-ติด-สะ-วะ-ทุก-กด
ถ้าอนุวัตตามพจนานุกรมฯ ซึ่งคำว่า “ปฏิสสว” สะกดเป็น “ปฏิสวะ” คำนี้ก็ควรสะกดเป็น “ปฏิสวทุกกฏ” (ส เสือ ตัวเดียว) แต่ในที่นี้สะกดตามพจนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับประมวลศัพท์ ของท่าน ป.อ. ปยุตฺโต
คำว่า “ปฏิสสวทุกกฏ” ยังไม่ได้เก็บไว้ในพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554
ขยายความ :
พจนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับประมวลศัพท์ ของท่าน ป.อ. ปยุตฺโต มีคำว่า “ปฏิสสวทุกกฏ” บอกไว้ดังนี้ –
…………..
ปฏิสสวทุกกฏ : ทุกกฏเพราะรับคำ, อาบัติทุกกฎเพราะไม่ทำตามที่รับปากไว้ เช่น ภิกษุรับนิมนต์ของชาวบ้าน หรือตกลงกันไว้ ว่าจะอยู่จำพรรษาในที่หนึ่ง แต่แล้ว โดยมิได้ตั้งใจพูดเท็จ เธอพบเหตุผลอันทำให้ไม่อยู่ในที่นั้น เมื่อทำให้คลาดจากที่รับปากไว้ จึงต้องปฏิสสวทุกกฏ (ถ้าพูดเท็จทั้งที่รู้ เป็นปาจิตตีย์)
…………..
แถม :
ในคัมภีร์อรรถกถาพระวินัย ท่านแสดงชื่ออาบัติทุกกฏไว้ 8 ชื่อ ดังนี้ –
…………..
(1) บุพพประโยคทุกกฏ = ทุกกฏเพราะเตรียมการประพฤติไม่ดี
(2) สหประโยคทุกกฏ = ทุกกฎเพราะลงมือทำผิด แต่ยังทำไม่สำเร็จ
(3) อนามาสทุกกฏ = ทุกกฏเพราะจับต้องของที่ห้ามจับ
(4) ทุรุปจิณณทุกกฏ = ทุกกฏเพราะปลิดหรือเก็บผลไม้จากต้น
(5) วินัยทุกกฏ = ทุกกฏเพราะละเลยเรื่องที่ควรปฏิบัติ
(6) ญาตทุกกฏ = ทุกกฏเพราะถูกสงฆ์ถามแล้วไม่บอกเรื่องที่ตนรู้
(7) ญัตติทุกกฏ = ทุกกฏเพราะสวดกรรมวาจาไม่ถูกต้อง
(8 ) ปฏิสสวทุกกฏ = ทุกกฏเพราะผิดคำพูด
ที่มา: สมันตปาสาทิกา ภาค 1 หน้า 453-454
หมายเหตุ: ความหมายที่ให้ไว้นี้อาจคลาดเคลื่อนหรือไม่ถูกต้อง ขอแรงนักเรียนบาลีช่วยพิจารณาตรวจสอบอีกครั้ง
…………..
ดูก่อนภราดา!
ไม่รับคำ: ยังพอคบกันได้
รับคำแล้วกลับคำ: คบไม่ได้
#บาลีวันละคำ (4,519)
26-10-67
…………………………….
…………………………….