พุทธาวาส (บาลีวันละคำ 4,549)

พุทธาวาส
เขตพระพุทธ
…………..
ตามหลักอันมีมาแต่เดิม ท่านแบ่งผังอาวาสเป็น 2 เขต คือ พุทธาวาสกับสังฆาวาส แต่ผู้รู้ในปัจจุบันท่านแบ่งผังอาวาสเป็น 3 เขต ตามแนวแห่งพระรัตนตรัย คือ –
1 เขตที่มีโบสถ์ วิหาร เจดีย์ สถูป พระธาตุ เรียกว่า “พุทธาวาส”
2 เขตที่มีศาลาการเปรียญ หอไตร หอสวดมนต์ เรียกว่า “ธัมมาวาส”
3 เขตที่เป็นกุฏิที่พระสงฆ์อยู่ เรียกว่า “สังฆาวาส”
…………..
“พุทธาวาส” อ่านว่า พุด-ทา-วาด
ประกอบด้วยคำว่า พุทธ + อาวาส
(๑) “พุทธ”
เขียนแบบบาลีเป็น “พุทฺธ” (โปรดสังเกต มีจุดใต้ ทฺ) อ่านว่า พุด-ทะ รากศัพท์มาจาก พุธฺ (ธาตุ = รู้) + ต ปัจจัย, แปลง ธฺ ที่สุดธาตุเป็น ทฺ, แปลง ต เป็น ธฺ (นัยหนึ่งว่า แปลง ธฺ ที่สุดธาตุกับ ต เป็น ทฺธ)
: พุธฺ + ต = พุธฺต > พุทฺต > พุทฺธ (พุธฺ + ต = พุธฺต > พุทฺธ) แปลตามศัพท์ว่า “ผู้รู้ทุกอย่างที่ควรรู้”
“พุทฺธ” แปลตามศัพท์ได้หลายนัย ดังนี้ –
(1) สพฺพํ พุทฺธวาติ พุทฺโธ = ผู้ทรงรู้ทุกอย่างที่ควรรู้
(2) ปารมิตาปริภาวิตาย ปญฺญาย สพฺพมฺปิ เญยฺยํ อพุชฺฌีติ พุทฺโธ = ผู้ทรงรู้เญยธรรมทั้งปวงด้วยพระปัญญาที่ทรงสั่งสมอบรมมาแล้วเต็มเปี่ยม
(3) พุชฺฌิตา สจฺจานีติ พุทฺโธ = ผู้ตรัสรู้สัจธรรม
(4) โพเธตา ปชายาติ พุทฺโธ = ผู้ทรงยังหมู่สัตว์ให้รู้ตาม
(5) สพฺพญฺญุตาย พุทฺโธ = ผู้ทรงรู้ธรรมทุกอย่าง
(6) สพฺพทสฺสาวิตาย พุทฺโธ = ผู้ทรงเห็นแจ้งธรรมทุกอย่าง
(7) อภิญฺเญยฺยตาย พุทฺโธ = ผู้ทรงรู้ยิ่ง
(8 ) วิสวิตาย พุทฺโธ = ผู้ทรงทำพระนิพพานให้แจ้ง
(9) ขีณาสวสงฺขาเตน พุทฺโธ = ผู้ทรงสิ้นอาสวกิเลส
(10) นิรุปกฺกิเลสสงฺขาเตน พุทฺโธ = ผู้ทรงปราศจากอุปกิเลส
(11) เอกนฺตวีตราคโทสโมโหติ พุทฺโธ = ผู้ทรงปราศจากราคะ โทสะ โมหะโดยส่วนเดียว
(12) เอกนฺตนิกฺกิเลโสติ พุทฺโธ = ผู้ทรงสิ้นกิเลสแล้วโดยส่วนเดียว
(13) เอโก อนุตฺตรํ สมฺมาสมฺโพธึ อภิสมฺพุทฺโรติ พุทฺโธ = ผู้ตรัสรูพระอนุตรสัมมาสัมโพธิญาณลำพังพระองค์เดียว
(14) อพุทฺธิวหตฺตา พุทฺธิปฏิลาภตฺตา พุทฺโธ = ผู้ทรงกำจัดอวิชชาและทรงได้วิชชา
(15) สวาสนสมฺโมหนิทฺทาย พุชฺฌติ ปพุชฺฌติ ปพุชฺฌนํ กโรตีติ พุทฺโธ = ผู้ทรงตื่น ทรงปลุก ทรงทำให้ตื่นตัวจากความหลับไหลด้วยอำนาจสัมโมหะพร้อมทั้งวาสนา
(16) พุชฺฌติ วิกสติ พุชฺฌนํ วิกสนํ กโรตีติ พุทฺโธ = ผู้ทรงเบิกบาน แจ่มใส ทรงทำความเบิกบานแจ่มใส
(17) เทฺว วฏฺฏมูลานิ ขนฺธสนฺตานโต สยเมว อุทฺธรตีติ พุทฺโธ = ผู้ทรงเพิกถอนรากเหง้าแห่งวัฏฏะทั้งสองจากขันธสันดานได้ด้วยพระองค์เอง
(18) เทฺว อตฺเถ อุทฺธริตฺวา ธาเรตีติ พุทฺโธ = ผู้ทรงยกประโยชน์สองประการขึ้นไว้
(19) พาลสงฺขาเต ปุถุชฺชเน วฏฺฏทุกฺขโต อุทฺธรติ อุทฺธรณํ กโรตีติ พุทฺโธ = ผู้ทรงยกปุถุชนคนพาลขึ้นจากวัฏทุกข์
ความหมายของ “พุทฺธ” ตามที่เข้าใจกันทั่วไปมักแปลว่า –
(1) ผู้รู้ = รู้สรรพสิ่งตามความเป็นจริง
(2) ผู้ตื่น = ตื่นจากกิเลสนิทรา ความหลับไหลงมงาย
(3) ผู้เบิกบาน = บริสุทธิ์ผ่องใสเต็มที่
พจนานุกรมบาลี-อังกฤษ แปล “พุทฺธ” ว่า –
One who has attained enlightenment; a man superior to all other beings, human & divine, by his knowledge of the truth, a Buddha (ผู้ตรัสรู้, ผู้ดีกว่าหรือเหนือกว่าคนอื่นๆ รวมทั้งมนุษย์และเทพยดาด้วยความรู้ในสัจธรรมของพระองค์, พระพุทธเจ้า)
ในภาษาไทย พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า –
“พุทธ, พุทธ-, พุทธะ : (คำนาม) ผู้ตรัสรู้, ผู้ตื่นแล้ว, ผู้เบิกบานแล้ว, ใช้เฉพาะเป็นพระนามของพระบรมศาสดาแห่งพระพุทธศาสนา เรียกเป็นสามัญว่า พระพุทธเจ้า. (ป.).”
(๒) “อาวาส”
บาลีอ่านว่า อา-วา-สะ รากศัพท์มาจาก อา (คำอุปสรรค = ทั่วไป) + วสฺ (ธาตุ = อยู่) + ณ ปัจจัย
ทบทวนหลักการทางไวยากรณ์ของ ณ ปัจจัย :
(1) ณ ปัจจัย หรือปัจจัยที่เนื่องด้วย ณ (เช่น เณ ณฺย) ลงแล้ว “ลบ ณ ทิ้งเสีย”
(2) มีอำนาจ “ทีฆะต้นธาตุ” คือธาตุที่มี 2 พยางค์ ถ้าพยางค์แรกเสียงสั้นก็ยืดเป็นเสียงยาว (อะ เป็น อา, อิ เป็น อี, อุ เป็น อู) ในที่นี้ วสฺ ธาตุ “ว” เสียงสั้น จึงยืดเป็น “วา”
: อา + วสฺ = อาวสฺ + ณ = อาวสณ > อาวส > อาวาส แปลตามศัพท์ว่า “ที่เป็นที่มาอยู่” = มาถึงตรงนั้นแล้วก็อยู่ จึงเรียกที่ตรงนั้นว่า “อาวาส” หมายถึง การพักแรม, การพักอยู่, การอาศัยอยู่, การอยู่; ที่อยู่, ที่พำนัก (sojourn, stay, dwelling, living; dwelling-place, residence)
ในภาษาไทย พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกความหมายของ “อาวาส” ไว้ดังนี้ –
“อาวาส : (คำนาม) วัด เช่น เจ้าอาวาส ที่อยู่ เช่น พุทธาวาส (พุทธ + อาวาส) คือ ที่ประดิษฐานพระพุทธรูป หมายถึง โบสถ์ วิหาร สังฆาวาส (สังฆ + อาวาส) คือ ที่อยู่ของพระสงฆ์; ผู้ครอบครอง เช่น ฆราวาส (ฆร + อาวาส) คือ ผู้ครอบครองเรือน หรือผู้อยู่ครองเรือน. (ป., ส.).”
พุทธ + อาวาส = พุทธาวาส แปลว่า “ที่อยู่ของพระพุทธ”
พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกความหมายของ “พุทธาวาส” ไว้ดังนี้ –
“พุทธาวาส : (คำนาม) ส่วนหนึ่งของวัดประกอบด้วย โบสถ์ วิหาร เจดีย์ ซึ่งใช้เป็นที่ประกอบสังฆกรรม โดยมีกำแพงกันไว้ต่างหากจากส่วนที่พระภิกษุสามเณรอยู่อาศัย ซึ่งเรียกว่าสังฆาวาส, วัดที่สร้างขึ้นเป็นที่ประกอบสังฆกรรมโดยเฉพาะ โดยไม่มีสังฆาวาส เช่น วัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้ว).”
ขยายความ :
พจนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับประมวลศัพท์ ของท่าน ป.อ. ปยุตฺโต ที่คำว่า “พุทธาวาส” อธิบายไว้ดังนี้ –
…………..
พุทธาวาส : “อาวาสของพระพุทธเจ้า”, ส่วนของวัดที่จัดให้เป็นเขตที่พุทธบริษัทประกอบกิจกรรมอุทิศคือตั้งใจมุ่งไปที่องค์พระพุทธเจ้า เสมือนมาเฝ้าพระองค์ เช่น พระสงฆ์มาทำสังฆกรรม มาพบปะฉลองศรัทธาของประชาชน มาแสดงธรรม ชาวบ้านมาเลี้ยงพระ ถวายทาน รักษาศีล ฟังธรรม และทำการบูชาต่าง ๆ จึงเป็นเขตที่มีสิ่งก่อสร้างสำคัญ เช่น โบสถ์ วิหาร สถูป เจดีย์ และมีการจัดแต่งอย่างประณีตบรรจง ให้งดงามเป็นที่เจริญศรัทธา ต่างจากอีกส่วนหนึ่งที่เป็นคู่กัน คือ สังฆาวาส ซึ่งจัดไว้เป็นที่อยู่อาศัยของพระภิกษุสามเณร อันเน้นที่ความเรียบง่าย เป็นที่เหมาะแก่การหลีกเร้น มีสัปปายะเอื้อต่อการเจริญไตรสิกขา, ตามที่เป็นมา การจัดแบ่งเช่นนี้ดำเนินมาอย่างรู้กันเป็นประเพณี ในวัดทั่วไป จึงมักไม่ได้ทำเครื่องกั้นเขต และไม่มีคำเรียกแยกให้ต่างกันออกไป แต่ในพระอารามหลวงมีการทำกำแพงแยกกันต่างหากชัดเจน โดยใช้คำเรียกว่าพุทธาวาส กับสังฆาวาสดังที่กล่าวมา, นอกจากนั้น มีวัดที่สร้างขึ้นเป็นที่ประกอบสังฆกรรมและเป็นที่เจริญกุศลของพุทธบริษัทโดยเฉพาะ โดยไม่มีสังฆาวาส เช่น วัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้ว), คำว่า “พุทธาวาส” และ “สังฆาวาส” นี้ ไม่พบว่ามีใช้ในคัมภีร์ใด.
…………..
ดูก่อนภราดา!
: วัดที่ไม่มีหอระฆัง คือวัดเพิ่งสร้าง
: วัดที่ไม่มีเสียงระฆัง คือวัดร้าง
#บาลีวันละคำ (4,549)
25-11-67
…………………………….
…………………………….