บาลีวันละคำ

อาสีวิส (บาลีวันละคำ 4,570)

อาสีวิส

ร้ายกว่างูพิษนะเจ้าตัวนี้

อ่านว่า อา-สี-วิด

พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 เก็บคำว่า “โฆรวิส” ไว้ บอกไว้ว่า – 

โฆรวิส : (คำนาม) งูพิษ. (คำวิเศษณ์) มีพิษร้าย. (ป.).”

คำว่า “โฆรวิส” เป็นคำที่ค่อนข้างลึกลับ-หมายถึงไม่เป็นที่รู้จักในหมู่คนทั่วไป แต่จะว่าน่ายินดีหรือน่าอัศจรรย์ก็ว่าได้ ที่พจนานุกรมฯ เก็บคำนี้ไว้ ในขณะที่คำที่เราได้ยินได้ฟังและรู้จักกันเป็นอย่างดีอีกหลายคำและน่าจะเก็บไว้ พจนานุกรมฯ กลับไม่เก็บ!

ผู้เขียนบาลีวันละคำขอเสนอคำว่า “อาสีวิส” อีกคำหนึ่ง 

ความจริงคำนี้มักจะมาคู่กับคำว่า “โฆรวิส” ถ้ารู้จักคำว่า “โฆรวิส” ก็น่าจะรู้จักคำว่า “อาสีวิส” ไว้ด้วย

อาสีวิส” บาลีอ่านว่า อา-สี-วิ-สะ แยกศัพท์เท่าที่ตาเห็นเป็น อาสี + วิส 

(๑) “อาสี” 

อ่านว่า อา-สี (เป็น อาสิ ก็มี) รากศัพท์มาจาก อสฺ (ธาตุ = กิน) + ณี ปัจจัย, ลบ เหลือแต่ อี, ทีฆะ อะ ที่ -(สฺ)เป็น อา

: อสฺ + ณี = อสณี > อสี > อาสี แปลตามศัพท์ว่า “อวัยวะเป็นเครื่องกินที่มีอยู่ในปาก” หมายถึง เขี้ยว, เขี้ยวสัตว์ (โดยเฉพาะเขี้ยวงู) (a large tooth, fang)

(๒) “วิส” 

บาลีอ่านว่า วิ-สะ รากศัพท์มาจาก วิสฺ (ธาต = เข้าไป) + (อะ) ปัจจัย

: วิสฺ + = วิส (ปุงลิงค์) แปลตามศัพท์ว่า “สิ่งที่เข้าสู่ร่างกายทางเส้นเลือด” หมายถึง ยาพิษ, พิษ, พิษของสัตว์ (poison, virus, venom)

วิส” ในบาลีเป็น “วิษ” ในสันสกฤต

สํสกฤต-ไท-อังกฤษ อภิธาน บอกไว้ว่า 

วิษ : (คำนาม) พิษ; poison, wenom.”

ในภาษาไทย แผลง เป็น ตามหลักนิยม ใช้อิงสันสกฤตเป็น “พิษ

พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า –

พิษ, พิษ– : (คำนาม) สิ่งที่ร้ายเป็นอันตรายแก่ร่างกายหรือให้ความเดือดร้อนแก่จิตใจ; สิ่งที่ร้ายเป็นอันตราย เมื่อเข้าสู่ร่างกายจะทําให้ตาย เจ็บปวด หรือพิการได้ บางอย่างเกิดจากแร่ เช่นสารหนู, บางอย่างเกิดจากต้นไม้ เช่นต้นแสลงใจ, บางอย่างเกิดจากสัตว์ เช่นงู. (ส. วิษ; ป. วิส).”

อาสี + วิส = อาสีวิส (อา-สี-วิ-สะ) แปลตามศัพท์ว่า (1) “ผู้มีพิษสะสมอยู่ที่เขี้ยว” (2) “ผู้มีพิษที่เขี้ยว” (3) “ผู้มีพิษแล่นเร็ว” หมายถึง งูพิษ 

อาสีวิส” ของบาลี เป็น “อสิรวีษ” ของสันสกฤต และเป็น “อสรพิษ” ของไทย

: อาสีวิส > อสิรวีษ > อสรพิษ

พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า –

อสรพิษ : (คำนาม) สัตว์มีพิษในเขี้ยว มักหมายถึง งูพิษ, โดยปริยายหมายถึงคนที่ลอบทำร้ายหรือให้ร้ายผู้มีคุณหรือผู้อื่นด้วยความอิจฉาริษยาเป็นต้น. (ส. อสิร + วีษ; ป. อาสีวิส).”

ขยายความ :

ในบาลี “อาสีวิส” มักมาคู่กับ “โฆรวิส” (โค-ระ-วิ-สะ) ซึ่งแปลว่า “สัตว์ที่มีพิษร้าย” หมายถึง งูพิษ เช่นกัน

เมื่อมี “โฆรวิส” มาทำหน้าที่เป็นคำขยาย เป็น “อาสีวิโส  โฆรวิโส” ก็เป็นการระบุชัดลงไปว่า งูพิษชนิดนั้นเป็นชนิดพิษร้าย กัดแล้วถึงตายทันที จึงมักตกลงกันว่า “อาสีวิโส  โฆรวิโส” หรือแม้มีแต่ “โฆรวิโส” หรือ “โฆรวิส” คำเดียว หมายถึง งูเห่า ซึ่งเราเชื่อกันมาว่าเป็นงูที่มีพิษร้ายที่สุด

แถม :

ในคัมภีร์ธัมมปทัฏฐกถา (อรรถกถาธรรมบท) ภาค 3 ท่านเล่าเรื่องชาวนาคนหนึ่งถูกกล่าวหาว่าเป็นโจรปล้นทรัพย์ แต่รอดชีวิตได้เพราะคำว่า “อาสีวิส

เรื่องย่อว่า พวกโจรปล้นบ้านคนมั่งคั่งในเมืองสาวัตถีตอนกลางคืน แล้วหลบออกไปแบ่งเงินกันที่ทุ่งนานอกเมือง ทำถุงเงินหล่นไว้ถุงหนึ่งโดยไม่รู้ตัว พระพุทธองค์ทรงเล็งเห็นเหตุว่าเรื่องนี้จะทำให้ชาวนาเดือดร้อนถึงตาย รุ่งเช้าจึงเสด็จไปที่นาแห่งนั้นพร้อมกับพระอานนท์ ชาวนาออกมาไถนา เห็นพระพุทธองค์ก็เข้ามาน้อมนมัสการแล้วไปไถนาอยู่ใกล้ ๆ 

พระพุทธองค์เสด็จไปที่ใกล้ถุงเงินที่ตกอยู่ แล้วตรัสกับพระอานนท์ว่า –

…………..

ปสฺส  อานนฺท  อาสีวิโส.

อานนท์ เห็นอาสีวิสไหม?

พระอานนท์ทูลตอบว่า –

ปสฺสามิ  ภนฺเต  โฆรวิโส.

เห็นพระพุทธเจ้าข้า ชนิดโฆรวิส

…………..

ตรัสถามและทูลตอบกันเท่านี้แล้วพระพุทธองค์ก็เสด็จเลยไป

ชาวนาได้ยินโดยตลอด มาดูเห็นถุงเงินก็เอาไปหมกไว้แถวนั้นแล้วไถนาต่อไป เจ้าทรัพย์ตามรอยมาเจอเข้า จับชาวนาส่งเจ้าหน้าที่ เรื่องถึงพระราชา พระราชารับสั่งให้ประหารชาวนาโทษฐานปล้นทรัพย์ 

ชาวนาถูกโบยระหว่างนำไปประหารก็ไม่พูดอะไร นอกจากพร่ำคำของพระพุทธองค์กับคำของพระอานนท์ที่ว่า –

…………..

ปสฺส  อานนฺท  อาสีวิโส.

ปสฺสามิ  ภนฺเต  โฆรวิโส.

…………..

เพราะอ้างคำพูดของคนสำคัญ พระราชาจึงให้ระงับการประหารไว้ก่อน เสด็จไปเฝ้าพระพุทธองค์ ทูลถาม ความจริงจึงปรากฏ รับสั่งให้ปล่อยตัวชาวนาพ้นโทษไป

อ่านเรื่องเต็มได้ที่ลิงก์นี้ –

…………..

https://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=25&i=15&p=8

…………..

ถามว่า ตามเรื่องนี้ “อาสีวิส” คืออะไร?

…………..

ดูก่อนภราดา!

สำหรับการเมือง : ท่านว่าสตางค์คืออาสีวิสร้ายสุด

สำหรับบุรุษ : ท่านย่อมว่าสตรีคืออาสีวิส

แต่สำหรับบรรพชิต : ท่านว่าเป็นอาสีวิสทั้งสตรีและสตางค์

#บาลีวันละคำ (4,570)

16-12-67 

…………………………….

ดูโพสต์ในเฟซบุ๊กของครูทองย้อย

…………………………….

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *