ประธาน กริยา กรรม (บาลีวันละคำ 4,584)

ประธาน กริยา กรรม
สอนภาษาไทยด้วยบาลี
“ประธาน กริยา กรรม” เมื่อพูดรวมกันอย่างนี้ เป็นอันชี้เฉพาะว่าเป็นคำที่กล่าวถึง “ส่วนกระกอบของข้อความประโยคหนึ่ง” หมายความว่า ข้อความในประโยคที่สมบูรณ์จะมีส่วนประกอบ 3 ส่วน คือ “ประธาน” “กริยา” “กรรม”
(๑) “ประธาน”
บาลีเป็น “ปธาน” อ่านว่า ปะ-ทา-นะ รากศัพท์มาจาก ป (คำอุปสรรค = ทั่ว, ข้างหน้า, ก่อน, ออก) + ธา (ธาตุ = ทรงไว้; ทำ; ตั้งอยู่) + ยุ ปัจจัย, แปลง ยุ เป็น อน (อะ-นะ)
: ป + ธา = ปธา + ยุ > อน = ปธาน แปลตามศัพท์และมีความหมายดังนี้ –
(1) “สภาพเป็นที่ตั้งอยู่ทั่วแห่งราคะ โทสะ โมหะ” หมายถึง ธรรมชาติ, มูลเดิม, ที่เกิด, รากเหง้า, ธรรมดา, กฎ (nature, the natural state of anything, or the cause of the material world, law)
(2) “ธรรมเป็นเหตุให้เริ่มต้นทำ” หมายถึง ความอุตสาหะ, ความพากเพียร, ความพยายาม, ความสำรวมใจ, จิตสมาธิ (exertion, energetic effort, striving, concentration of mind)
(3) “ผู้ดำรงอยู่โดยยิ่ง” หมายถึง ผู้เป็นหลักใหญ่, หัวหน้า (principal, chief)
บาลี “ปธาน” สันสกฤตเป็น “ปฺรธาน”
สํสกฤต-ไท-อังกฤษ อภิธาน บอกไว้ว่า –
(สะกดตามต้นฉบับ)
(1) ปฺรธาน : (คำนาม) ‘ประธาน,’ สฤษฏิ์, ประกฤติ, ธรรมดาของสิ่งทั่วไป, หรือมูลแหงภูตสฤษฏิ์; ปรเมศวร; พุทธิ, มติ, โพธ; มุขยสหายของพระราชา, อมาตย์ของท้าวเธอ, เสาวิทหรือขัณฑีของท้าวเธอ, ผู้ที่พระองค์ทรงไว้วางพระราชหฤทัยได้, ฯลฯ; ราชพัลลภหรือราชสภาสัท, กุลีนะหรือผู้มีสกุล; ควานช้าง; nature, the natural state of anything, or the cause of the material world; the Supreme God; intellect, understanding, knowledge; the first companion of a king, his minister, his eunuch, his confident or confidential friend &c.; a courtier; a noble or noble-man; an elephant-driver.
(2) ปฺรธาน : (คำคุณศัพท์) ‘ประธาน,’ มุขยะ, บรม, อุคริม, เปนใหญ่; principal, chief.
ในภาษาไทย พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ดังนี้ –
(1) ประธาน ๑ : (คำนาม) ตำแหน่งผู้ที่เป็นหัวหน้าหรือเป็นใหญ่ในที่ประชุม เช่น ตำแหน่งประธานรัฐสภา ตำแหน่งประธานกรรมการ, เรียกผู้ที่เป็นหัวหน้าหรือเป็นใหญ่ในที่ประชุม เช่น ประธานรัฐสภา ประธานกรรมการ. (คำวิเศษณ์) ที่เป็นหลักสำคัญในที่นั้น ๆ เช่น พระประธาน.
(2) ประธาน ๒ : (คำที่ใช้ในไวยากรณ์) (คำนาม) ผู้กระทำ เช่น เด็กวิ่ง เด็ก เป็นประธานของกริยา วิ่ง คนกินข้าว คน เป็นประธานของกริยา กิน.
(3) ประธาน ๓ : (คำนาม) ความเพียร มี ๔ อย่าง คือ ๑. สังวรประธาน เพียรระวังไม่ให้บาปเกิดขึ้นในสันดาน ๒. ปหานประธาน เพียรละบาปที่เกิดขึ้นแล้ว ๓. ภาวนาประธาน เพียรให้กุศลเกิดขึ้นในสันดาน ๔. อนุรักขนาประธาน เพียรรักษากุศลที่เกิดขึ้นแล้วไม่ให้เสื่อม. (ส. ปฺรธาน; ป. ปธาน).
ในที่นี้ “ประธาน” ใช้ในความหมายตามข้อ (2) คือหมายถึง “ผู้กระทำ” ในประโยคข้อความหนึ่ง
(๒) “กริยา”
บาลีเป็น “กิริยา” อ่านว่า กิ-ริ-ยา (ที่เป็น “กริยา” ก็มีบ้าง) รากศัพท์มาจาก กรฺ (ธาตุ = ทำ) + ณฺย ปัจจัย แปลง อ ที่ ก เป็น อิ, ลง อิ อาคม ที่ –ร, ลบ ณฺ + อา ปัจจัยเครื่องหมายอิตถีลิงค์
(1) แปลง อ ที่ ก เป็น อิ = กรฺ > กิรฺ
(2) ลง อิ อาคม ที่ –ร = กิรฺ > กิริ
(3) ลบ ณฺ = กิริ + ณฺย = กิริณฺย > กิริย
(4) + อา ปัจจัยเครื่องหมายอิตถีลิงค์ = กิริย + อา > กิริยา
: กร > กิร + อิ = กิริ + ณฺย > ย = กิริย + อา = กิริยา
“กิริยา” ตามความหมายทั่วไป คือ การกระทำ, การปฏิบัติ, กรรม; การที่กระทำลงไป (action, performance, deed; the doing)
“กิริยา” ตามความหมายพิเศษ คือ การสัญญา, การสาบาน, การอุทิศ, การตั้งใจ, คำปฏิญาณ; ความยุติธรรม (promise, vow, dedication, intention, pledge; justice)
พจนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับประมวลศัพท์ ของท่าน ป.อ. ปยุตฺโต อธิบายความหมายของ “กิริยา” ไว้ดังนี้ –
…………..
1. การกระทำ หมายถึงการกระทำใด ๆ ที่กล่าวถึงอย่างกว้าง ๆ หรืออย่างเป็นกลาง ๆ ถ้าเป็น “กิริยาพิเศษ” คือเป็นการกระทำซึ่งเป็นไปด้วยเจตนาที่ก่อให้เกิดวิบาก ก็เรียกว่า กรรม, การกระทำซึ่งเป็นไปด้วยเจตนาที่ไม่ก่อวิบาก เช่นการกระทำของพระอรหันต์ ไม่เรียกว่ากรรม แต่เป็นเพียงกิริยา (พูดให้สั้นว่า เจตนาที่ก่อวิบาก เป็นกรรม, เจตนาที่ไม่ก่อวิบาก ถ้ามิใช่เป็นวิบาก ก็เป็นกิริยา);
2. ในภาษาไทย มักหมายถึงอาการแสดงออกทางกายในเชิงมารยาท บางทีใช้ควบคู่กันว่า กิริยามารยาท
3. ในทางไวยากรณ์ ได้แก่คำแสดงอาการหรือบอกการกระทำของนามหรือสรรพนาม, ในไวยากรณ์ไทย บางทีกำหนดให้ใช้รูปสันสกฤตว่า กริยา แต่ในบาลีไวยากรณ์โดยทั่วไป ใช้รูปบาลี คือ กิริยา
…………..
ในภาษาไทย พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า –
“กิริยา : (คำนาม) การกระทำ; อาการที่แสดงออกมาทางกาย, มารยาท, เช่น กิริยานอบน้อม กิริยาทราม. (ป.).”
คำว่า “กริยา” เป็นรูปสันสกฤต พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า –
“กริยา : (คำที่ใช้ในไวยากรณ์) (คำนาม) คำที่แสดงอาการของนามหรือสรรพนาม. (ส. กฺริยา; ป. กิริยา).”
โปรดสังเกตว่า “กิริยา” กับ “กริยา” ในภาษาไทยใช้ต่างกันเด็ดขาด กล่าวคือ –
“กิริยา” หมายถึง การกระทำหรืออาการที่แสดงออกมาทางกาย ไม่ใช้ในความหมายทางไวยากรณ์ที่ว่า “คำที่แสดงอาการของนามหรือสรรพนาม”
“กริยา” เป็นคำที่ใช้ในไวยากรณ์เท่านั้น หมายถึง คำที่แสดงอาการของนามหรือสรรพนาม ไม่ใช้ในความหมายว่าการกระทำหรืออาการที่แสดงออกมาทางกาย
เทียบคำอังกฤษอาจช่วยให้จำได้แม่นขึ้น –
กิริยา = action, doing
กริยา = verb
ถ้าคำนั้นหมายถึง action, doing คือการกระทำทั่วไป ใช้ว่า “กิริยา”
ถ้าคำนั้นหมายถึง verb ในไวยากรณ์ จึงจะใช้ว่า “กริยา”
หรือเพื่อความปลอดภัย ใช้แต่ “กิริยา” คำเดียว
เพราะ “กิริยา” หมายถึง verb ในไวยากรณ์ก็ได้
(๓) “กรรม”
บาลีเป็น “กมฺม” อ่านว่า กำ-มะ รากศัพท์มาจาก กรฺ (ธาตุ = กระทำ) + รมฺม (รำ-มะ, ปัจจัย) ลบ รฺ ที่สุดธาตุและ ร ที่ต้นปัจจัย
: กร > ก + รมฺม > มฺม : ก + มฺม = กมฺม
“กมฺม” แปลว่า การกระทำ, สิ่งที่ทำ, การงาน (the doing, deed, work) นิยมพูดทับศัพท์ว่า “กรรม”
พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า –
(1) กรรม ๑, กรรม– ๑ : (คำนาม) (๑) การ, การกระทำ, การงาน, กิจ, เช่น พลีกรรม ต่างกรรมต่างวาระ, เป็นการดีก็ได้ ชั่วก็ได้ เช่น กุศลกรรม อกุศลกรรม.(๒) การกระทำที่ส่งผลร้ายมายังปัจจุบัน หรือซึ่งจะส่งผลร้ายต่อไปในอนาคต เช่น บัดนี้กรรมตามทันแล้ว ระวังกรรมจะตามทันนะ.(๓) บาป, เคราะห์, เช่น คนมีกรรม กรรมของฉันแท้ ๆ.(๔) ความตาย ในคำว่า ถึงแก่กรรม.
(2) กรรม ๒, กรรม– ๒ : (คำที่ใช้ในไวยากรณ์) (คำนาม) ผู้ถูกกระทำ เช่น คนกินข้าว ข้าว เป็นกรรมของกริยา กิน.
ในที่นี้ “กรรม” ใช้ในความหมายตามข้อ (2) คือหมายถึง “ผู้ถูกกระทำ” ในประโยคข้อความหนึ่ง

ขยายความ :
ตัวอย่างคำว่า “คนกินข้าว” เป็นข้อความในประโยคที่สมบูรณ์ คือมีส่วนประกอบครบ 3 ส่วน คือ “ประธาน” “กริยา” “กรรม”
“ประธาน” คือ “คน” เป็นผู้กระทำ คือประธานของกริยา “กิน”
“กริยา” คือ “กิน” เป็นการกระทำ คือเป็นกริยาของประธานคือ “คน”
“กรรม” คือ “ข้าว” เป็นผู้ถูกกระทำ คือเป็นกรรมของกริยา “กิน” คือถูกคนกิน
ต่อไปนี้ ได้ยินหรือได้เห็นใครพูดคำว่า “ประธาน กริยา กรรม” ก็หวังว่าคงจะพอเข้าใจได้บ้างว่า เขาพูดถึงเรื่องอะไร
…………..
ดูก่อนภราดา!
: ไทยสอนไทยถ้าไม่สนใจที่จะฟัง
: สักวันเถอะฝรั่งจะมาสอนภาษาไทย
———————–
หมายเหตุ: ภาพประกอบจากโพสต์ของ Chucheep Onkokesung
#บาลีวันละคำ (4,584)
30-12-67
…………………………….
…………………………….