ศรีษะ ไม่มี มีแต่ ศี-ร-ษะ (บาลีวันละคำ 4,633)

ศรีษะ ไม่มี มีแต่ ศี–ร–ษะ
ศะ-รี-ษะ ไม่มี มีแต่ ศี-ระ-ษะ
ศิลปะในการช่วยให้เขียนถูก
“ศรีษะ” เป็นคำผิด
ศี–ร–ษะ = “ศีรษะ” เป็นคำถูก
ทำไมคนจึงชอบเขียน “ศีรษะ” (คำถูก) เป็น “ศรีษะ” (คำผิด)?
คำตอบคือ คนส่วนมากคุ้นกับคำว่า “ศรี” ติดคำว่า “ศรี” (สระ อี อยู่บน ร) ซึ่งอ่านว่า สี
เมื่อได้ยินคำว่า “ศีรษะ” ซึ่งอ่านว่า สี-สะ และนึกเห็นว่ามี ศ ศาลา และ ร เรือ เหมือนคำว่า “ศรี” จิตก็น้อมไปถึง “ศรี” ทันที โดยไม่ทันระแวงว่า “ศี-ร-” ไม่ใช่ “ศ-รี” (จะออกเสียงเล่น ๆ ว่า สี-ระ ไม่ใช่ สะ-รี ก็ได้)
“ศีรษะ” เขียนแบบสันสกฤตเป็น “ศีรฺษ”
สํสกฤต-ไท-อังกฤษ อภิธาน บอกไว้ว่า –
(สะกดตามต้นฉบับ)
“ศีรฺษ : (คำนาม) ‘ศีร์ษะ,’ ศิรัส, เศียร, หัว; the head.”
ส่วน “ศรี” ที่เราคุ้นกันในภาษาไทย มาจากคำสันสกฤตว่า “ศฺรี” (มีจุดใต้ ศ, สระ อี อยู่บน ร)
คำว่า “ศฺรี” ในสันสกฤตมีความหมายอย่างไรบ้าง สํสกฤต-ไท-อังกฤษ อภิธาน บอกไว้ดังนี้ –
(สะกดตามต้นฉบับ)
“ศฺรี : (คำนาม) ‘ศรี,’ ภาคย์, สัมฤทธิหรือบุณโยทัย; ธน, ทรัพย์; เสาวภาคย์, ความงาม; อาภา, อาโลก; ความรัก, หน้าที่, และทรัพย์; เครื่องแต่งตัว, เครื่องประดับ; ภาวะหรือสถิติ; ทิพยศักดิ์, อมานุษศักดิ์; มติ, พุทธิ, ความรู้, ความเข้าใจ; ผล; เกียรติ; พระลักษมี, ผู้ชายาของพระวิษณุ, และเปน ‘ภควดีศรี’ หรือเจ้าทรัพย์และความเจริญ; นามของสรัสวดี; กานพลู; อุปสรรคหรือบทน่านามเทวดา (ย่อมใช้ซ้ำ), ดุจคำว่า ศรีศรีทุรคา; บทน่าบอกความเคารพต่อวิสามานยนามของบุรุษ, ดุจคำว่า ศรีชัยเทพ; บทน่าครันถ์, ดุจคำว่า ศรีภาควัต; ต้นศรัลหรือต้นสน; fortune, prosperity; wealth, riches; beauty, splendor; light; love, duty, and wealth; dress, decoration; state; superhuman power; intellect, understanding; consequence; fame or glory; the goddess Lakshmi, the wife of Vishṇu, and deity of plenty and prosperity; a name of Sarasvati; cloves; a prefix to the name of deities (often used repeatedly), as Śri Śri Durgā; a prefix of respect to proper names of persons, as Śri Jayadeva; a prefix to works, as Śri Bhāgavat; the Śaral or pine tree.”
จะเห็นได้ว่า “ศฺรี – ศรี” ไม่ได้มีความหมายเกี่ยวข้องอะไรกับ “หัว” หรือ the head เลยแม้แต่น้อย
ในภาษาไทย พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกความหมายของ “ศรี” ไว้ดังนี้ –
“ศรี ๑ : (คำนาม) มิ่ง, สิริมงคล, ความรุ่งเรือง, ความสว่างสุกใส, ความงาม, ความเจริญ, เช่น ศรีบ้าน ศรีเรือน ศรีเมือง, ใช้นำหน้าคำบางคำเป็นการยกย่อง เช่น พระศรีรัตนตรัย วัดพระศรีรัตนศาสดาราม. (ส. ศฺรี; ป. สิริ, สิรี).”
วงเล็บในพจนานุกรมฯ ทำให้ได้ความรู้อีกด้วยว่า “ศรี” ไทย หรือ “ศฺรี” สันสกฤตนั้น บาลีเป็น “สิริ” และ “สิรี”
“สิริ” และ “สิรี” ในภาษาไทย พจนานุกรมฯ บอกความหมายไว้ดังนี้ –
“สิริ ๒, สิรี : (คำนาม) ศรี, มิ่งขวัญ, มงคล, เช่น สิริราชสมบัติ, มักใช้เข้าคู่กับคำ มงคล เป็น สิริมงคล; สวย, งาม, เช่น ทรงมีพระสิริโฉม. (ป.; ส. ศฺรี).”
และ “สิริ” (ส เสือ) คำนี้เองก็มีปัญหา คือคนชอบเขียนผิดเป็น “ศิริ” (ศ ศาลา) เช่นคำว่า “สิริมงคล” ก็มักเขียนเป็น “ศิริมงคล”
“สิริมงคล” ส เสือ ถูก
“ศิริมงคล” ศ ศาลา ผิด
…………..
ผู้เขียนบาลีวันละคำขอเสนอเคล็ดลับในการบังคับไม่ให้เขียนผิดอีกต่อไป นั่นคือ คำว่า “ศีรษะ” ให้อ่านในใจว่า สี-ระ-สะ และทุกครั้งที่จะเขียนคำนี้ก็ให้นึกถึง ศี-ร-ษะ
หรือจะจำตามชื่อบาลีวันละคำวันนี้ก็ได้ –
“ศรีษะ ไม่มี มีแต่ ศี–ร–ษะ”
อ่านว่า ศะ-รี-ษะ ไม่มี มีแต่ ศี-ระ-ษะ
วิธีนี้ประยุกต์ใช้กับคำอื่น ๆ ได้ด้วย เช่นคำว่า –
“เสบียง” ที่มักเขียนผิดเป็น “สะเบียง” ก็ให้อ่านในใจว่า เส-บี-ยง = เสบียง
“ปรารถนา” ที่มักเขียนผิดเป็น “ปราถนา” ก็ให้อ่านในใจว่า ปฺรา-รถ-นา = ปฺรารถนา
“สังเกต” ที่มักเขียนผิดเป็น “สังเกตุ” (เติมสระ อุ) ก็ให้อ่านในใจว่า สัง-เก-ตะ = สังเกต
“อนุญาต” ที่มักเขียนผิดเป็น “อนุญาติ” (เติมสระ อิ) ก็ให้อ่านในใจว่า อะ-นุ-ญา-ตะ = อนุญาต
“อานิสงส์” ที่มักเขียนผิดเป็น “อานิสงค์” ก็ให้อ่านในใจว่า อา-นิ-สง-สะ = อานิสงส์
เรื่องแบบนี้แต่ละคนย่อมมีศิลปะหรือความสามารถเฉพาะตัวที่แตกต่างกันไป แต่เป็นความสามารถที่ทุกคนสามารถลอกเลียนแบบได้ ไม่มีโทษแต่ประการใด
…………..
ดูก่อนภราดา!
: ภาษาเป็นสมบัติวัฒนธรรมประจำชาติ
: ใช้คำผิดเรี่ยราด เหมือนมีสมบัติแต่ไม่รู้จักรักษา
#บาลีวันละคำ (4,633)
17-2-68
…………………………….
…………………………….
