ชาลกรรม (บาลีวันละคำ 4,652)

ชาลกรรม
ทำอะไรกันเอ่ย
อ่านว่า ชา-ละ-กำ
ประกอบด้วยคำว่า ชาล + กรรม
(๑) “ชาล”
บาลีอ่านว่า ชา-ละ รากศัพท์มาจาก –
(1) ชล (น้ำ) + ณ ปัจจัย, ลบ ณ, ทีฆะต้นศัพท์ คือ อะ ที่ ช-(ล) เป็น อา “ด้วยอำนาจปัจจัยเนื่องด้วย ณ” (ชล > ชาล)
: ชล + ณ = ชลณ > ชล > ชาล แปลตามศัพท์ว่า “เครื่องมือที่เป็นประโยชน์ในน้ำ”
(2) ช (แทนศัพท์ว่า “สีฆ” = เร็ว) + ลา (ธาตุ = จับ, ถือเอา) + อ (อะ) ปัจจัย, ทีฆะ อะ ที่ ช เป็น อา (ช > ชา), ลบสระที่สุดธาตุ (ลา > ล)
: ช + ลา = ชลา > ชล + อ = ชล > ชาล แปลตามศัพท์ว่า “เครื่องมือจับเนื้อเป็นต้นที่วิ่งเร็ว”
“ชาล” (นปุงสกลิงค์) หมายถึง ตาข่าย; ร่างแห, เครื่องกีดกัน (a net; netting, entanglement); หลุมพราง, การหลอกลวง (snare, deception)
บาลี “ชาล” สันสกฤตก็เป็น “ชาล”
สํสกฤต-ไท-อังกฤษ อภิธาน บอกไว้ดังนี้
(สะกดตามต้นฉบับ)
“ชาล : (คำนาม) ข่าย, ร่างแห, ใยเเมลงมุม, เยื่อ; หน้าต่าง, รูต่าง, ช่องลม, ลูกกรงหน้าต่าง; หมู่, คณะ; ดอกตูม, ผะกาอันยังไม่แย้ม; อหังการ, ความจองหอง; มายา, กล, การลวงโลก, สิ่งซึ่งลวง, ความลวง; กดัมพพฤกษ์; เภสัชอย่างใดอย่างหนึ่ง; a net, a cobweb, a web; a window, an eyelet or loophole, a lattice; a multitude, an assemblage; an unblown flower; pride, arrogance; magic, conjuring, illusion, supernatural or natural deception; the Kadamba tree; any medicament or drug.”
ในภาษาไทย พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 เก็บคำนี้เป็น “ชาล” อ่านว่า ชาน และ “ชาล-” ใช้ในกรณีที่มีคำอื่นมาสมาสข้างท้าย อ่านว่า ชา-ละ- บอกไว้ดังนี้ –
“ชาล, ชาล– : (คำแบบ) (คำนาม) ตาข่าย, ร่างแห; ใยแมงมุม. (ป., ส.).”
หมายเหตุ: “คำแบบ” หมายถึง คำที่ใช้เฉพาะในหนังสือ ไม่ใช่คำพูดทั่วไป
(๒) “กรรม”
บาลีเป็น “กมฺม” อ่านว่า กำ-มะ รากศัพท์มาจาก กรฺ (ธาตุ = กระทำ) + รมฺม (รำ-มะ, ปัจจัย) ลบ รฺ ที่สุดธาตุและ ร ที่ต้นปัจจัย
: กร > ก + รมฺม > มฺม : ก + มฺม = กมฺม
“กมฺม” แปลว่า การกระทำ, สิ่งที่ทำ, การงาน (the doing, deed, work) นิยมพูดทับศัพท์ว่า “กรรม”
พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า –
(1) กรรม ๑, กรรม– ๑ : (คำนาม) (๑) การ, การกระทำ, การงาน, กิจ, เช่น พลีกรรม ต่างกรรมต่างวาระ, เป็นการดีก็ได้ ชั่วก็ได้ เช่น กุศลกรรม อกุศลกรรม.(๒) การกระทำที่ส่งผลร้ายมายังปัจจุบัน หรือซึ่งจะส่งผลร้ายต่อไปในอนาคต เช่น บัดนี้กรรมตามทันแล้ว ระวังกรรมจะตามทันนะ.(๓) บาป, เคราะห์, เช่น คนมีกรรม กรรมของฉันแท้ ๆ.(๔) ความตาย ในคำว่า ถึงแก่กรรม.
(2) กรรม ๒, กรรม– ๒ : (คำที่ใช้ในไวยากรณ์) (คำนาม) ผู้ถูกกระทำ เช่น คนกินข้าว ข้าว เป็นกรรมของกริยา กิน.
ในที่นี้ “กรรม” ใช้ในความหมายตามข้อ (1) คือหมายถึง การ, การกระทำ, การงาน, กิจ
ชาล + กรรม = ชาลกรรม แปลตามศัพท์ว่า “กรรมที่กระทำด้วยตาข่าย”
พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 เก็บคำว่า “ชาลกรรม” ไว้ด้วย บอกไว้ว่า –
“ชาลกรรม : (คำนาม) การจับปลา. (ส.).”
ขยายความ :
คำว่า “ชาลกรรม” ถ้าแปลงกลับเป็นบาลีก็ได้รูปเป็น “ชาลกมฺม” (ชา-ละ-กำ-มะ)
ผู้เขียนบาลีวันละคำค้นศัพท์ในคัมภีร์บาลีเท่าที่มีอยู่ในมือ ไม่พบศัพท์ว่า “ชาลกมฺม” แต่ยังไม่อาจลงความเห็นเด็ดขาดว่า คณะกรรมการชำระพจนานุกรมฯ คิดคำว่า “ชาลกรรม” ขึ้นมาเอง ท่านอาจไปพบว่ามีคำนี้ใช้อยู่เอกสารหรือตำราฉบับใดฉบับหนึ่งก็เป็นได้ ท่านผู้ใดพบว่ามีคำว่า “ชาลกรรม” ใช้อยู่ในเอกสารเก่าที่ไหนบ้าง ถ้าจะกรุณาแจ้งให้ทราบทั่วกันก็จะเป็นพระคุณอย่างยิ่ง
ว่าถึงความหมายตามศัพท์ “ชาลกรรม” ไม่ได้หมายถึงการจับปลาอย่างเดียว การใช้ตาข่ายหรือบ่วงดักสัตว์อื่น ๆ เช่นนกเป็นต้น ก็เป็น “ชาลกรรม” ด้วยเช่นกัน
แถม :
ผู้เขียนบาลีวันละคำอ่านโพสต์ของญาติมิตรทานหนึ่ง ท่านใช้คำว่า “หว่านแห” ก็จึงนึกถึงว่า “แห” บาลีว่าอย่างไร ศัพท์ที่นึกได้คือ “ชาล” จึงดูในพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 ก็ไปพบคำว่า “ชาลกรรม” เข้า เห็นว่าเป็นคำแปลกตา ก็เลยยกมาเขียนเป็นบาลีวันละคำ
กิริยาที่ใช้คำกับแห พจนานุกรมฯ มีคำว่า “เหวี่ยงแห” ขอยกมาให้ดูทั้ง “เหวี่ยง” และ “เหวี่ยงแห” ดังนี้ –
(1) เหวี่ยง : (คำกริยา) ซัดเบี่ยงไป.
(2) เหวี่ยงแห : (คำวิเศษณ์) ทำคลุม ๆ เช่น พูดเหวี่ยงแห.
ส่วนคำว่า “หว่าน” พจนานุกรมฯ บอกไว้ว่า –
“หว่าน : (คำกริยา) โปรย เช่น หว่านทาน, สาดให้กระจาย, เช่น หว่านข้าวเปลือก, โดยปริยายหมายความว่า แจกจ่ายไปทั่ว ๆ เช่น หว่านเงิน.”
ไม่มีคำว่า “หว่านแห”
ที่คำว่า “แห” พจนานุกรมฯ บอกไว้ว่า –
“แห ๑ : (คำนาม) ชื่อเครื่องจับปลาชนิดหนึ่ง ถักเป็นตาข่าย ใช้ทอดแผ่ลงในน้ำแล้วค่อย ๆ ดึงขึ้นมา.”
เป็นอันว่า พจนานุกรมฯ บอกกิริยาที่ใช้กับแหว่า “ทอด” รวมกับคำขยายเป็น “ทอดแผ่ลงในน้ำ”
เมื่อใช้แหจับปลา เรามีคำพูดที่ใช้กันว่า “ทอดแห” พจนานุกรมฯ บอกความหมายว่า “เหวี่ยงแหให้แผ่กว้างออกไปเพื่อจับปลาเป็นต้น” ก็คือวนกลับหาคำว่า “เหวี่ยงแห” อีกนั่นแล
และเป็นอันยืนยันว่า ไม่มีคำว่า “หว่านแห”
…………..
ดูก่อนภราดา!
: ภาษาเป็นสมบัติวัฒนธรรมที่โลกยกย่อง
: ใช้ภาษาให้ถูกต้อง เป็นการรักษาสมบัติวัฒนธรรม
#บาลีวันละคำ (4,652)
8-3-68
…………………………….
…………………………….