บาลีวันละคำ

สาบสูญ (บาลีวันละคำ 4,668)

สาบสูญ

ไม่ใช่ สาปสูญ

สาบสูญ” อ่านว่า สาบ-สูน

พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า – 

สาบสูญ : (คำกริยา) สูญหายไปอย่างไม่ทิ้งร่องรอย. (คำที่ใช้ในกฎหมาย) (คำนาม) เรียกบุคคลซึ่งได้ไปจากภูมิลำเนาหรือถิ่นที่อยู่ และไม่มีใครรู้แน่ว่าบุคคลนั้นยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ตลอดระยะเวลา ๕ ปี และศาลมีคำสั่งให้เป็นคนสาบสูญ ว่า คนสาบสูญ ระยะเวลา ๕ ปี ดังกล่าว ลดลงเหลือ ๒ ปี นับแต่วันที่การรบหรือสงครามสิ้นสุดลง ถ้าบุคคลนั้นอยู่ในการรบหรือสงคราม และหายไปในการรบหรือสงครามดังกล่าว หรือนับแต่วันที่ยานพาหนะที่บุคคลนั้นเดินทางไป ได้อับปาง ถูกทำลายหรือสูญหาย หรือนับแต่วันที่เหตุอันตรายแก่ชีวิต นอกจากที่ระบุไว้ใน ๒ กรณีดังกล่าวข้างต้นได้ผ่านพ้นไป ถ้าบุคคลนั้นตกอยู่ในอันตรายเช่นว่านั้น.”

โปรดสังเกตว่า คำว่า “สาบสูญสาบ ใบไม้สะกด 

พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 เก็บคำว่า “สาบ” ไว้ 4 คำ ขอยกมาเสนอในที่นี้เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกให้ผู้ที่ไม่มีอุตสาหะในการเปิดพจนานุกรม ดังนี้ – 

(1) สาบ ๑ : (คำนาม) กลิ่นเหม็นชนิดหนึ่ง เช่นกลิ่นเสื้อผ้าที่ใช้แล้วแต่ยังไม่ได้ซัก, กลิ่นตัวที่มีประจำอยู่กับสัตว์บางชนิด เช่น สาบเสือ สาบแพะ, กลิ่นอื่น ๆ ที่มีลักษณะคล้ายคลึงเช่นนั้น.

(2) สาบ ๒ : (คำนาม) ชื่อแมลงหลายชนิดหลายสกุล ในวงศ์ Blattidae ลักษณะคล้ายแมลงแกลบแต่ส่วนใหญ่ตัวโตกว่า ลำตัวยาวประมาณ ๒ เซนติเมตรหรือมากกว่า รูปร่างเป็นรูปไข่ค่อนข้างแบนลง หัวซ่อนอยู่ใต้ส่วนอก หนวดยาวคล้ายเส้นด้าย ขายาวมีหนาม ตัวเต็มวัยมีทั้งพวกมีปีกและไม่มีปีก มีกลิ่นเฉพาะตัว กินอาหารได้หลากหลาย พบได้ทั่วไป ที่พบบ่อยตามบ้านเรือนทั่วโลกในปัจจุบัน เช่น ชนิด Periplaneta Americana (Linn.) และชนิด Blatta orientalisLinn.

(3) สาบ ๓ : (คำนาม) เรียกผ้าทาบที่อกเสื้อสำหรับติดดุมและเจาะรังดุมว่า สาบเสื้อ, ปัจจุบันอนุโลมเรียกผ้าทาบที่คอ แขน กระเป๋า เป็นต้น เพื่อให้หนาขึ้น ว่า สาบคอ สาบแขน สาบกระเป๋า.

(4) สาบ ๔ : (คำนาม) เรียกห้วงน้ำใหญ่คล้ายบึง แต่โตกว่า ว่า ทะเลสาบ. (ข. สาบ ว่า จืด).

คำว่า “สาบสูญ” นี้ หลายคนสะกดเป็น “สาปสูญ” คือ สาป ปลาสะกด

โปรดทราบว่า “สาปสูญ” (สาป ปลาสะกด) เป็นคำผิด

คำถูกคือ “สาบสูญ” (สาบ ใบไม้สะกด)

ขยายความ :

ขอถือโอกาสแสดงที่มาของคำว่า “สาป” และคำว่า “สูญ” พอเป็นเครื่องประดับความรู้

(๑) “สาป

บาลีอ่านว่า สา-ปะ รากศัพท์มาจาก สปฺ (ธาตุ = แช่ง, ด่า) + ปัจจัย, ลบ , “ทีฆะต้นธาตุ” คือ ยืดเสียง อะ ที่ – เป็น อา

: สปฺ + = สปณ > สป> สาป แปลตามศัพท์ว่า “การแช่ง” “การด่า” หมายถึง การสาปแช่ง (a curse)

บาลี “สาป” สันสกฤตเป็น “ศาป

สํสกฤต-ไท-อังกฤษ อภิธาน บอกไว้ว่า –

(สะกดตามต้นฉบับ)

ศาป : (คำนาม) การหรือคำสาป, การหรือคำแช่งด่า, อปวาท; ศบถ; a curse, an imprecation, an abuse; an oath.”

พจนานุกรมอังกฤษ-บาลี แปลคำภาษาอังกฤษข้างต้นเป็นบาลีดังนี้ –

(1) curse : 

– abhisapati อภิสปติ (คำกริยา, อะ-พิ-สะ-ปะ-ติ) = สาปแช่ง 

– abhisapana อภิสปน (อะ-พิ-สะ-ปะ-นะ) = คำแช่งด่า, คำสาปแช่ง

(2) imprecation : 

– abhisapana อภิสปน (อะ-พิ-สะ-ปะ-นะ) = คำแช่งด่า, คำสาปแช่ง 

– sāpa สาป (สา-ปะ) = การแช่งด่า, การสาปแช่ง

(3) abuse : 

– akkosa อกฺโกส (อัก-โก-สะ) = การด่า, คำด่า

– paribhava ปริภว (ปะ-ริ-พะ-วะ) = การดูหมิ่น 

– garahā ครหา (คะ-ระ-หา) = การตำหนิ 

– nindā นินฺทา (นิน-ทา) = การติเตียน 

– upavāda อุปวาท (อุ-ปะ-วา-ทะ) = การว่าร้าย

(4) oath : 

– sapatha สปถ (สะ-ปะ-ถะ) = คำสาบาน, คำสบถ 

– abhisapana อภิสปน(อะ-พิ-สะ-ปะ-นะ) = คำแช่งด่า, คำสาปแช่ง

ในภาษาไทย พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 เก็บไว้ทั้ง “ศาป” ตามสันสกฤต และ “สาป” ตามบาลี บอกไว้ดังนี้ –

(1) ศาป, ศาป– : (คำแบบ) (คำนาม) คำแช่ง, การด่า. (ส.; ป. สาป).

(2) สาป, สาปสรร : (คำนาม) คำแช่งให้เป็นไปต่าง ๆ ของผู้มีฤทธิ์อำนาจ เช่นเทวดา ฤๅษี แม่มด. (ป.; ส. ศาป).”

เมื่อถ่ายความหมายกลับไปกลับมา จะเห็นได้ว่า “สาป” มิใช่หมายเพียงผู้มีฤทธิ์อำนาจกระทำให้ผู้ถูกสาปมีอันเป็นไปต่าง ๆ เท่านั้น “สาป” ยังหมายถึงการตำหนิติเตียน นินทาว่าร้าย ดูถูกดูหมิ่น และสบถสาบานอีกด้วย

(๒) “สูญ” 

บาลีเป็น “สุญฺญ” อ่านว่า สุน-ยะ รากศัพท์มาจาก –

(1) สุน (การไป) + ปัจจัย, แปลง นฺย (คือ ที่ สุ และ ปัจจัย) เป็น ญฺญ

: สุน + = สุนฺย > สุญฺญ แปลตามศัพท์ว่า “สิ่งที่เกื้อกูลแก่การไป” (คือว่าง โปร่ง โล่ง ทำให้ไม่ติดขัด)

(2) สุนฺ (ธาตุ = ไป, ถึง, เป็นไป) + ปัจจัย, แปลง นฺย (คือ ที่ สุ และ ปัจจัย) เป็น ญฺญ

: สุนฺ + = สุนฺย > สุญฺญ แปลตามศัพท์ว่า “สิ่งที่ถึงความว่างเปล่า” 

สุญฺญ” ในบาลีใช้ในความหมายดังนี้ –

(1) เป็นคุณศัพท์: ว่างเปล่า, ไม่มีคนอยู่, สูญ, ไม่จริงจัง, ไม่มีแก่นสาร, ไม่มีประโยชน์, เป็นปรากฏการณ์ (empty, uninhabited, void, devoid of reality, unsubstantial, useless, phenomenal)

(2) เป็นคำนาม: ความสูญ, ความว่างเปล่า, ความเหือดหาย (void, emptiness, annihilation)

บาลี “สุญฺญ” สันสกฤตเป็น “ศูนฺย

สํสกฤต-ไท-อังกฤษ อภิธาน บอกไว้ว่า – 

ศูนฺย : (คำวิเศษณ์) ว่างเปล่า; เปลี่ยวเปล่า; empty or void; lonely or desert;- (คำนาม) ฟ้า, อากาศ, ที่ว่างเปล่าหรือไม่มีวัตถุธาตุ; จุด; เลขศูนย์; อภาวะ; sky, ether, vacuum; a spot or dot; a cipher; nothing.”

บาลี “สุญฺญ” ในภาษาไทยใช้เป็น “สูญ” อิงรูปบาลี และ “ศูนย์” ตามรูปสันสกฤต

พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ดังนี้ – 

(1) สูญ : (คำกริยา) ทำให้หายสิ้นไป เช่น คนโบราณใช้ปูนแดงสูญฝี, หายไป เช่น ทรัพย์สมบัติสูญไปในกองเพลิง. (คำวิเศษณ์) ที่หมดไป ในคำว่า หนี้สูญ. (ป. สุญฺญ; ส. ศูนฺย).

(2) ศูนย-, ศูนย์ : (คำวิเศษณ์) ว่างเปล่า. (คำกริยา) หายสิ้นไป. (คำนาม) ตัวเลข ๐; จุดกลาง, ใจกลาง, แหล่งกลาง, แหล่งรวม, เช่น ศูนย์วัฒนธรรม ศูนย์หนังสือ ศูนย์รวมข่าว. (ส. ศูนฺย; ป. สุญฺญ).

ข้อสังเกตในภาษาไทย:

(1) สูญ กับ ศูนย์ ใช้ในความหมายตรงกันคือ ว่างเปล่า, หายไป, หมดไป

(2) แต่ที่หมายถึง ตัวเลข ๐, จุดกลาง, ใจกลาง, แหล่งกลาง, แหล่งรวม ใช้ “ศูนย์” (สันสกฤต) ไม่ใช้ “สูญ” (บาลี)

แถม :

ในภาษาไทย เมื่อเอ่ยถึงคำที่มีเสียงว่า “สาบ” อยู่ด้วย มักเขียนเพลินกันไปเป็น “สาป” ( ปลาสะกด) เช่น เหม็นสาป แมลงสาป ทะเลสาป (คำที่ถูกคือ เหม็นสาบ แมลงสาบ ทะเลสาบ ใบไม้สะกด) จะเป็นเพราะคำว่า “สาป” ติดหูติดตาหรืออย่างไร

ในภาษาไทยมีคำที่สะกดเป็น “สาป” อยู่ไม่กี่คำ เช่น สาปแช่ง สาปส่ง สาปสรร

คำว่า “สาสูญ” (สาบ- ใบไม้สะกด) มีผู้แสดงความเห็นว่าน่าจะสะกดเป็น “สาสูญ” (สาป- ปลาสะกด) โดยอธิบายว่า สูญหายไปอย่างไร้ร่องรอยเหมือนถูกสาป

แต่พจนานุกรมฯ ก็สะกดคำนี้เป็น “สาบสูญ” (สาบ ใบไม้สะกด)

โปรดอย่าเขียนผิดหรือเขียนตามใจชอบ และโปรดอย่าอ้างว่าภาษาเป็นสิ่งสมมุติ ไม่มีผิดไม่มีถูก

“สาสูญ” (สาป- ปลาสะกด) คือผิดตามสมมุติ

สาบสูญ” (สาบ ใบไม้สะกด) คือถูกตามสมมุติ

…………..

ดูก่อนภราดา!

: ร้อยพันคำสาป 

: ไม่ร้ายเท่ากับหนึ่งบาปที่ตนทำ

#บาลีวันละคำ (4,668)

24-3-68

…………………………….

ดูโพสต์ในเฟซบุ๊กของครูทองย้อย

…………………………….

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

น้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นอันหาที่สุดมิได้