เทพจรลงเท้า (บาลีวันละคำ 4,699)

เทพจรลงเท้า
คำเก่าทำผิดอะไร จึงถูกเปลี่ยนเป็นคำใหม่
อ่านว่า เทบ-พะ-จอน-ลง-เท้า
คำบาลีคือ “เทพจร” ประกอบด้วยคำว่า เทพ + จร
(๑) “เทพ” บาลีเป็น “เทว” อ่านว่า เท-วะ รากศัพท์มาจาก ทิวฺ (ธาตุ = รุ่งเรือง, เล่น, สนุก, เพลิดเพลิน) + อ (อะ) ปัจจัย, แผลง อิ ที่ ทิ-(วฺ) เป็น เอ (ทิวฺ > เทว)
: ทิวฺ + อ = ทิว > เทว แปลตามศัพท์ว่า (1) “ผู้รุ่งเรืองด้วยฤทธิ์ของตน” (2) “ผู้เพลิดเพลินด้วยเบญจกามคุณ”
ความหมายของ “เทว” ที่มักเข้าใจกัน คือหมายถึง เทพเจ้า, เทวดา
แต่ความจริง “เทว” ในบาลียังหมายถึงอีกหลายอย่าง คือ พระยม, ความตาย, สมมติเทพ, พระราชา, ท้องฟ้า, ฝน, เมฆฝน, วรุณเทพ
พจนานุกรมบาลี-อังกฤษ แปล “เทว” ไว้ดังนี้ –
(1) good etc. (สิ่งที่ดี และอื่นๆ)
(2) a god, a deity, a divine being (เทวดา, เทพเจ้า, เทพ)
(3) the sky, rain-cloud, rainy sky, rain-god (ท้องฟ้า, เมฆฝน, ท้องฟ้ามีฝน, เทพแห่งฝน)
“เทว” แผลง ว เป็น พ ตามหลักนิยมในภาษาไทย จึงเป็น “เทพ”
“เทว” และ “เทพ” ในภาษาไทย พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ดังนี้ –
(1) เทว– ๑ : (คำแบบ) (คำนาม) เทวดา, มักใช้ประกอบหน้าศัพท์อื่น. (ป., ส.).
(2) เทพ ๑, เทพ– : (คำนาม) เทวดา. (ป., ส. เทว).
(3) เทพ ๒ : (คำนาม) คำนำหน้าชื่อเพลงไทย เช่น เทพทอง เทพชาตรี เทพบรรทม เทพนิมิต เทพรัญจวน.
(4) เทพ ๓ : (คำนาม) สมณศักดิ์พระราชาคณะสูงกว่าชั้นราช ตํ่ากว่าชั้นธรรม เรียกว่า ชั้นเทพ เช่น พระเทพโมลี.
(๒) “จร”
บาลีอ่านว่า จะ-ระ รากศัพท์มาจาก จรฺ (ธาตุ = เที่ยวไป) + ณ ปัจจัย, ลบ ณ
: จรฺ + ณ = จรณ > จร แปลตามศัพท์ว่า “ผู้เที่ยวไป” “ผู้ประพฤติ”
พจนานุกรมบาลี-อังกฤษ แปล “จร” เป็นอังกฤษว่า –
(1) the act of going about, walking; one who walks or lives (การเที่ยวไป, การเดินไป, ผู้เดินหรืออยู่)
(2) one who is sent on a message, a secret emissary, a spy (ผู้ถูกให้ไปส่งข่าว, จารบุรุษ, คนสอดแนม)
ในภาษาไทย พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า –
“จร ๑, จร– : (คำวิเศษณ์) ไม่ใช่ประจำ เช่น วาระจร ขาจร. (คำกริยา) ไป, เที่ยวไป; ประพฤติ. (ป., ส.), ใช้เป็นบทท้ายสมาสก็มี เช่น ขจร วนจร, ที่ใช้ควบกับคำไทยก็มี เช่น จรลู่ จรลิ่ว.”
เทพ + จร = เทพจร อ่านว่า เทบ-พะ-จอน
อภิปรายขยายความ :
คำว่า “เทพจรลงเท้า” เป็นคำเดิมที่คนเก่าท่านใช้กันมา “เทพจร” เป็นคำเดียวกับ “เทวดาจร”
: เทวดา = เทพ
: เทวดาจร = เทพจร
“เทวดาจร” เป็นคำที่ใช้ในวิชาหมอดูแบบ “สิบสองราศี” ประกอบด้วย พระเจดีย์, ฉัตรเงิน, คนศีรษะขาด, เรือนหลวง, ปราสาททอง, ราหู, ฉัตรทอง, เทพจร (เทวดาจร), นักโทษ, พ่อมด, แม่มด, นาคราช
วิธีดู คือนับอายุปัจจุบันว่าตกราศีอะไร แล้วทำนายไปตามคำทำนายประจำราศีนั้น ๆ
เฉพาะราศี “เทพจร” คำทำนายที่เป็นหลักคือ เจ้าชะตามักต้องเดินทางออกนอกถิ่น
สมัยโบราณคนมักอยู่ประจำถิ่น และการเดินทางก็ใช้วิธี “เดิน” คือไปด้วยเท้า ใครที่มีเหตุให้ต้องเดินทางไปนั่นมานี่ไม่ค่อยได้หยุด จึงเกิดเป็นสำนวนเรียกว่า “เทพจรลงเท้า”
คนสมัยใหม่ได้ยินคำว่า “เทพจร-” ไม่คุ้นหู เข้าใจไปว่า “ชีพจร-” จึงพากันพูดว่า “ชีพจรลงเท้า” ทั่วไปหมด
เปรียบเทียบความหมายระหว่าง “เทพจร” กับ “ชีพจร”
พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า –
(1) เทพจร : (คำนาม) ชื่อเทวดาองค์หนึ่ง; (คำโบราณ) ชีพจร.
(2) ชีพจร : (คำนาม) อาการที่เส้นเลือดเต้นอยู่ตามร่างกายและสัมผัสได้เช่นที่ข้อมือ.
ได้ความตามพจนานุกรมฯ ว่า สิ่งที่เราสมัยนี้เรียกว่า “ชีพจร” นั้น คนโบราณท่านเรียก “เทพจร”
และเมื่อพูดตามความหมายที่ยุติในปัจจุบัน
เมื่อใช้คำว่า “เทพจร” ต้องหมายถึง “เทวดาองค์หนึ่ง” ไม่ใช่ “อาการที่เส้นเลือดเต้นอยู่ตามร่างกายและสัมผัสได้เช่นที่ข้อมือ”
และเมื่อใช้คำว่า “ชีพจร” ก็ต้องหมายถึง “อาการที่เส้นเลือดเต้นอยู่ตามร่างกายและสัมผัสได้เช่นที่ข้อมือ” ไม่ใช่ “เทวดาองค์หนึ่ง”
วิธีพิสูจน์ว่า “ชีพจรลงเท้า” เป็นคำที่พูดผิด ก็คือลองแปล “ชีพจร” กับ “เทพจร” เป็นภาษาอังกฤษ
“ชีพจร” ภาษาอังกฤษว่า the pulse
“เทพจร” ภาษาอังกฤษว่า a god the traveler
“เทพจร” อาจหมายถึง the pulse ได้ถ้าเป็นคำโบราณ (ดูคำนิยามในพจนานุกรมฯ ข้างต้น)
แต่ “ชีพจร” หมายถึง “อาการที่เส้นเลือดเต้นอยู่ตามร่างกาย” จะหมายถึง a god the traveler ไม่ได้เลย
และโดยนัยกลับกัน ความหมายที่ว่า “อยู่ไม่เป็นที่, ท่องเที่ยวเดินทางไปเรื่อย ๆ” จะหมายถึง the pulse (ชีพจร) ก็ไม่ได้ ต้องหมายถึง a god the traveler เท่านั้น
และ a god the traveler ก็คือ “เทพจร” ไม่ใช่ “ชีพจร”
เมื่อพูดว่า “ชีพจรลงเท้า” แต่ไปเอาความหมายของ a god the traveler มาใช้ จึงไม่ใช่ความหมายที่ถูกต้อง
คำที่ถูกต้องก็มีอยู่แล้ว คือ “เทพจรลงเท้า” แต่พจนานุกรมฯ ก็ไปปิดประตูเสียอีก
ปิดทางอย่างไร โปรดดูคำนิยามของพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554
(1) เทพจรลงเท้า : (สำนวน) (คำกริยา) อยู่ไม่เป็นที่, ท่องเที่ยวเดินทางไปเรื่อย ๆ, ปัจจุบันใช้ว่า ชีพจรลงเท้า.
(2) ชีพจรลงเท้า : (สำนวน) (คำกริยา) อยู่ไม่เป็นที่, ท่องเที่ยวเดินทางไปเรื่อย ๆ, เดิมใช้ว่า เทพจรลงเท้า.
พจนานุกรมฯ บอกว่า เดิมใช้ว่า “เทพจรลงเท้า” ปัจจุบันใช้ว่า “ชีพจรลงเท้า”
หมายความว่า ใครใช้ว่า “เทพจรลงเท้า” จะกลายเป็นใช้คำผิด
ถูกกลายเป็นผิด และผิดกลายเป็นถูก-ก็มีด้วยประการฉะนี้
ส่วนตัวผู้เขียนบาลีวันละคำยืนยันว่า
เมื่อจะพูดถึง “อยู่ไม่เป็นที่, ท่องเที่ยวเดินทางไปเรื่อย ๆ” ขอใช้คำว่า “เทพจร”
เมื่อจะพูดถึง “อาการที่เส้นเลือดเต้นอยู่ตามร่างกาย” จึงจะใช้คำว่า “ชีพจร”
ใครที่จะใช้คำว่า “ชีพจรลงเท้า” โปรดลองนึกดูว่า “อยู่ไม่เป็นที่, ท่องเที่ยวเดินทางไปเรื่อย ๆ” ถ้าแปลเป็นคำอังกฤษ ควรจะแปลว่า a god the traveler (เทพจร) หรือควรจะแปลว่า the pulse (ชีพจร)
“เทพจรลงเท้า” เป็นคำที่คนเก่าท่านใช้มาแต่เดิมตามหลักการที่เอามาจากตำราสิบสองราศีที่ว่า ราศี “เทพจร” คำทำนายที่เป็นหลักคือ เจ้าชะตามักต้องเดินทางออกนอกถิ่น สอดคล้องกับความหมายที่ว่า “อยู่ไม่เป็นที่, ท่องเที่ยวเดินทางไปเรื่อย ๆ”
“ชีพจรลงเท้า” เป็นคำที่เพี้ยนเพราะไม่ศึกษาเรื่องเก่าเค้าเดิม
คำเก่าถูกต้องอยู่แล้ว จะไปเปลี่ยนให้ผิดเพี้ยนทำไม
…………..
ดูก่อนภราดา!
: ถ้ายอมให้ผิดกลายเป็นถูก
: มนุษย์ก็ควรมีแค่จมูกเอาไว้หายใจ
#บาลีวันละคำ (4,699)
24-4-68
…………………………….
…………………………….