นพีสี (บาลีวันละคำ 4,711)

นพีสี
หาความรู้คำบาลีตามที่บอกกันมา
อ่านว่า นะ-พี-สี
ความรู้เกี่ยวกับคำว่า “นพีสี” ตามที่บอกกันมา ได้ความดังนี้ –
…………..
“นพีสี” เป็นชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งของเมืองเชียงใหม่
คำนี้มีที่มาค่อนข้างซับซ้อน คือทั้งได้จากชื่อเดิมด้วย และได้จากการผูกศัพท์ตามความหมายของชื่อเมืองด้วย กล่าวคือ
บริเวณที่ตั้งของเมืองเชียงใหม่ เดิมชื่อ “เวียงนพบุรี” แปลว่าเมืองของชาวลัวะทั้งเก้าตระกูล
เมื่อพระยามังรายสร้างเมืองใหม่สวมทับเวียงนพบุรี จึงตั้งชื่อเมืองว่า “เชียงใหม่” (เชียงคือเมือง) พ้องกับชื่อเดิมคือ นพบุรี ที่สามารถแปลความหมายได้ว่า เมืองใหม่ หรือเชียงใหม่ก็ได้
อนึ่ง สถานที่ตั้งดังกล่าว ตามตำนานยังว่าเป็นที่อยู่ของฤาษีเก้าตน จึงมีการผูกศัพท์เป็นภาษาบาลีพ้องคำเดิมว่า “นพีสี” โดยคำว่า “นพ” มาจาก นว แปลว่า เก้า หรือ ใหม่ และคำว่า “อิสี” หมายถึง ฤๅษี หรือนักบวช ซึ่งในภาษาโบราณล้านนาเรียกนักบวชว่า “เชียง” ด้วย
ดังนั้น “นพีสี” จะแปลว่า ฤๅษีทั้งเก้า หรือ เชียงใหม่ ก็ได้ทั้งสองความหมาย
…………..
ตามที่บอกกันนี้ “นพีสี” ประกอบด้วยคำว่า นพ + อิสี
(๑) “นพ”
รูปตำเดิมในบาลีเป็น “นว” อ่านว่า นะ-วะ ในบาลีมีคำแปล 2 นัย คือ –
(1) แปลว่า ใหม่ รากศัพท์มาจาก นุ (ธาตุ = ชื่นชม) + อ (อะ) ปัจจัย, แผลง อุ ที่ นุ เป็น โอ แล้วแปลง โอ เป็น อว (อะ-วะ) (นุ > โน > นว)
: นุ > โน > นว + อ = นว แปลตามศัพท์ว่า “สิ่งอันคนชื่นชม” หมายถึง ใหม่, สด, ยังไม่ช้ำหรือเสื่อมเสีย, สะอาด, เร็ว ๆ นี้, ที่ได้มาหรือปฏิบัติเมื่อเร็วๆ นี้เอง (new, fresh; unsoiled, clean; of late, lately acquired or practised), หนุ่ม, ยังไม่มีความชำนาญ, ไม่มีประสบการณ์ (young, unexperienced, newly initiated)
(2) แปลว่า เก้า (จำนวน 9)
ผู้จัดทำพจนานุกรมบาลี-อังกฤษ เสนอทฤษฎีว่า “นว” ที่แปลว่า “จำนวนเก้า” ก็น่าจะมาจาก “นว” ที่ว่า “ใหม่” นั่นเอง เพราะในการนับจำนวนทีละ 4 (จำนวนแปด = 8 เป็นจำนวนคู่) ลำดับใหม่เริ่มขึ้นด้วยเลข 9 [Connection with nava2 likely because in counting by tetrads (octo=8 is a dual!) a new series begins with No. 9]
“นว” จะหมายถึง “ใหม่” หรือ “เก้า” ต้องดูที่บริบท ในภาษาไทยมักใช้เป็นคําหน้าสมาส
ในที่นี้ “นว” แปลได้ทั้ง 2 นัย
(๒) “อิสี”
รูปคำบาลีเป็น “อิสิ” อ่านว่า อิ-สิ (-สิ สระ อิ ไม่ใช่ -สี สระ อี) รากศัพท์มาจาก อิสฺ (ธาตุ = แสวงหา; ปรารถนา; ไป) + อิ ปัจจัย
: อิสฺ + อิ = อิสิ (ปุงลิงค์) แปลตามศัพท์ว่า (1) “ผู้แสวงหาคุณธรรม” (2) “ผู้ปรารถนาสิวะคือพระนิพพาน” (3) “ผู้ไปสู่สุคติ”
พจนานุกรมบาลี-อังกฤษ แปล “อิสิ” ว่า a holy man, one gifted with special powers of insight & inspiration, an anchoret, a Seer, Sage, Saint (คนศักดิ์สิทธิ์, ผู้มีพรสวรรค์เกี่ยวกับกำลังภายใน และผู้มีตาทิพย์, โยคี, ฤๅษี, มุนี, นักบุญ)
ในการพูดกันทั่วไปในภาษาไทย แทบจะไม่มีใครรู้จักคำว่า “อิสิ” แต่พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 ก็เก็บคำว่า “อิสิ” และ “อิสี” ไว้ด้วย บอกไว้ว่า –
“อิสิ, อิสี : (คำนาม) ผู้แสวงคุณความดี, ฤษี, ผู้ถือบวช. (ป.; ส. ฤษิ).”
นว + อิสี แปลง ว เป็น พ, ทีฆะ อิ ที่ อิ-(สิ) เป็น อี แล้วแปลง อิ ที่ (อิ)-สิ เป็น อี
: นว > นพ + อิสิ = นพิสิ > นพีสิ > นพีสี แปลได้ 2 นัย คือ –
(1) เมืองใหม่ = เมืองที่สร้างขึ้นใหม่
นพ = ใหม่
อิสี = ฤๅษี > นักบวช ภาษาล้านนาเรียกนักบวชว่า “เชียง” และ เชียง = เมือง
: นพีสี = เมืองใหม่ > เชียงใหม่
(2) ฤๅษีทั้งเก้า = สถานที่สร้างเมืองเคยเป็นที่อยู่ของฤๅษี 9 ตน
นพ = เก้า
อิสี = ฤๅษี
: นพีสี = ฤๅษีทั้งเก้า
…………..
ที่มาของชื่อ “นพีสี” ตามที่บอกกันมา:
https://www.matichonweekly.com/column/article_91336
…………..
หมายเหตุ: ที่นำเสนอนี้เป็นข้อมูลเบื้องต้น พึงสืบค้นให้ชัดเจนต่อไป
…………..
ดูก่อนภราดา!
: อย่ามัวแต่สร้างเมือง
: จนลืมสร้างคน
#บาลีวันละคำ (4,711)
6-5-68
…………………………….
…………………………….