บทความเกี่ยวกับศาสนา-ภาษา-สังคม

คำถามเรื่องงาน “อายุวัฒนมงคล”

คำถามเรื่องงาน “อายุวัฒนมงคล

————————————

ได้เห็นผู้จัดงานที่เรียกกันว่า “อายุวัฒนมงคล” แล้วผมเกิดสงสัยขึ้นมาว่า จัดงานฉลองเมื่ออายุเท่าไรจึงจะเรียกว่างาน “อายุวัฒนมงคล” ได้ 

หรือว่าอายุเท่าไรก็จัดได้ทั้งนั้น 

อายุ ๒๐ ก็จัดงาน “อายุวัฒนมงคล” ได้

อายุ ๘๐ ก็จัดงาน “อายุวัฒนมงคล” ได้

นึกอยากจะฉลองเมื่ออายุเท่าไรก็จัดได้ตลอดเวลา 

จัดปีนี้แล้ว ถึงปีหน้าก็จัดอีกได้

แบบนี้ใช่ไหม

หรือว่าควรจะเป็นแบบไหน

มีหลักเกณฑ์อะไรที่คนแต่ก่อนท่านวางไว้เป็นแบบแผนบ้างหรือไม่

เทียบง่ายๆ ชาวบ้านทั่วไปอายุยังไม่ถึง ๖๐ คนแต่ก่อนท่านถือเป็นหลักว่ายังให้ใครรดน้ำสงกรานต์ไม่ได้ อายุถึง ๖๐ หรือพ้น ๖๐ ไปแล้วจึงจะนั่งให้คนอื่นที่อายุน้อยกว่ารดน้ำสงกรานต์ได้

อย่างนี้เป็นต้น

มีหลักทำนองที่ว่านี้บ้างไหมครับ-อายุเท่าไรจึงจะจัดงานอายุวัฒนมงคลได้

ที่สงสัยและต้องถามก็เพราะผมสังเกตเห็นว่า พวกเราสมัยนี้ไม่นิยมศึกษาสืบสวนเรียนรู้หลักการที่มีมาแต่เดิม 

ที่เห็นได้ชัดที่สุดก็คือ หลักเรื่องภาษา

จะสะกดอย่างไร 

จะอ่านอย่างไร 

จะหมายถึงอะไร 

หลักเดิมมีว่าอย่างไร ไม่รับรู้ทั้งสิ้น

ชอบจะสะกดอย่างไร ก็สะกดตามใจชอบ

ชอบจะอ่านอย่างไร ก็อ่านตามใจชอบ

ชอบจะให้หมายถึงอะไร ก็ว่าเอาเองตามใจชอบ

ผมจึงสงสัยว่า งาน “อายุวัฒนมงคล” นี่ก็จะเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่คนสมัยนี้จัดกันตามใจชอบโดยไม่ได้สอบสวนสืบทราบหลักการดั้งเดิมของคนเก่า 

เหมือนคนสมัยนี้ อายุยังไม่พ้น ๖๐ ก็นั่งให้คนรดน้ำสงกรานต์กันหน้าตาเฉย-โดยเฉพาะคนที่มีตำแหน่ง อ้างว่าเป็นผู้บังคับบัญชา ผู้ใต้บังคับบัญชาเขาอยากจะรด ไม่รู้จะขัดเขาได้ยังไง 

หลักของเดิมมีอยู่ ก็ยกขึ้นมาศึกษาเรียนรู้กันสิขอรับ ยกหลักการเดิมขึ้นมาขัดได้อยู่แล้ว คนที่คิดจะทำก็ต้องศึกษาหลักการเดิมด้วย วิธีที่จะเอาใจนายทำได้ตั้งหลายอย่าง โดยไม่จำเป็นจะต้องเอาหลักเดิมของท่านมาเหยียบย่ำ 

แล้วก็พากันสนับสนุน อ้างว่าโลกต้องเปลี่ยนไป ทุกอย่างเป็นอนิจจัง 

สวัสดีเลย

ท่านผู้ใดมีใจรักวัฒนธรรมประเพณีวิถีชีวิตอันเป็นรากเหง้าของชาติไทย ขอแรงช่วยสืบค้นกันหน่อยได้ไหมครับว่า งาน “อายุวัฒนมงคล” ของเดิมท่านกำหนดกฎเกณฑ์กันไว้อย่างไรหรือเปล่า หรือพบเค้าเงื่อนอันใดที่พอจะนำมายึดเป็นแบบแผนได้บ้าง 

ที่ผมลองคิดๆ ดู แต่ไม่เคยได้ยินว่าใครเคยยกขึ้นมาอ้างกันบ้างหรือไม่ก็คือ ในยุคสมัยนี้ควรเรียกงาน “อายุวัฒนมงคล” สำหรับตัวเจ้าของงานที่มีอายุเกิน ๗๕ ปีไปแล้ว 

เหตุผลคือ ๗๕ ปีเป็นอายุขัยของมนุษย์ในช่วงเวลานี้ อายุยังไม่ถึง ๗๕ ไม่ควรจะต้องไปจัดงานฉลองอะไร เพราะอายุยังจะต้องเพิ่มขึ้นไปอีกอยู่แล้วตามปกติ หมายความว่าฉลองหรือไม่ฉลอง อายุก็ต้อง “วัฒนะ” ตามสภาพของอายุอยู่แล้ว 

หลังจาก ๗๕ ปีไปแล้ว ถ้ายังมีชีวิตอยู่ได้ นั่นแหละจึงควรถือว่าเป็น “อายุวัฒนมงคล” ซึ่งอาจแปลความง่ายๆ ตรงกับความเป็นจริงว่า-งานฉลองโชคดีที่ยังไม่ตาย 

คิดเล่นๆ ว่า เหตุผลในการจัดงาน “อายุวัฒนมงคล” ควรจะเป็นแบบนี้ หรือหากจะมีเหตุผลอื่นใด ก็น่าจะมีคำอธิบายที่เป็นหลักการหรือแบบแผนอย่างใดอย่างหนึ่งมาแต่เดิม 

และตรงนี้แหละที่ควรศึกษาสืบทราบกัน

คนที่เหมาะอย่างยิ่งที่จะศึกษาสืบค้นเรื่องแบบนี้คือคนที่ทำงานสังกัดกระทรวงวัฒนธรรม

แต่เชื่อได้เลย-ยังไม่มีใครคิดจะทำ

ต้องรอให้นายสั่งก่อน

ระบบราชการไทยเป็นเสียอย่างนี้ 

ก็ต้องขอร้องถามขึ้นมาลอยๆ ก็แล้วกันนะครับ ใครพอจะรู้เห็นธรรมเนียมเก่าเค้าเดิมที่ท่านจัดงาน “อายุวัฒนมงคล” ขอความกรุณานำมาเผยแพร่เป็นหลักวิชาความรู้หน่อยนะครับ 

แล้วก็กรุณาอย่าเพิ่งสรุปง่ายๆ ว่า-ที่ไหนๆ เขาก็จัดกันทั้งนั้น จะมาเอาระเบียบแบบแผนอะไรกันนักกันหนา เป็นสิทธิเสรีภาพส่วนบุคคล เรื่องอื่นที่สำคัญกว่านี้ยังมีอีกเยอะ ว่างมากนักรึไงจึงเอาเรื่องนี้มาพูด ฯลฯ

นาวาเอก ทองย้อย แสงสินชัย

๑๙ มกราคม ๒๕๖๔

๑๙:๑๙

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *