บาลีวันละคำ

บาปธรรม (บาลีวันละคำ 4,787)

บาปธรรม

คำเรียกผู้ชอบประพฤติชั่ว

อ่านว่า บาบ-ปะ-ทำ

ประกอบด้วยคำว่า บาป + ธรรม

(๑) “บาป

เขียนแบบบาลีเป็น “ปาป” อ่านว่า ปา-ปะ รากศัพท์มาจาก –

(1) ปา (ธาตุ = รักษา) + (อะ) ปัจจัย, ลง อาคม

: ปา + + = ปาป แปลตามศัพท์ว่า “กรรมเป็นแดนรักษาตนแห่งเหล่าคนดี” คือคนดีจะป้องกันตนโดยออกห่างแดนชนิดนี้

(2) ปา (ธาตุ = รักษา) + ปัจจัย

: ปา + = ปาป แปลตามศัพท์ว่า “กรรมที่รักษาอบายภูมิไว้” คือเพราะมีคนทำกรรมชนิดนี้ อบายภูมิจึงยังคงมีอยู่

(3) (คำอุปสรรค = ทั่ว, ข้างหน้า) + อป (ธาตุ = ให้ถึง) + (อะ) ปัจจัย, ลบสระหน้า (คือ ที่ ป) ทีฆะสระหลัง (คือ ที่ อป เป็น อา-)

: + อป > อาป = ปาป + = ปาป แปลตามศัพท์ว่า “กรรมที่ยังผู้ทำให้ถึงทุคติ

(4) (คำอุปสรรค = ทั่ว, ข้างหน้า) + เป (ธาตุ = ไป, ถึง, เป็นไป) + ปัจจัย, ลบ , ทีฆะ อะ ที่ เป็น อา ( > ปา), ลบ เอ ที่ เป (เป >

: > ปา + เป > = ปาป + = ปาปณ > ปาป แปลตามศัพท์ว่า “กรรมเป็นเหตุไปสู่อบาย

ปาป” หมายถึง ความชั่ว, ความเลวร้าย, การทำผิด, (evil, sin, wrong doing); เลวร้าย, เป็นอกุศล, ชั่ว, เลวทราม, บาป (evil, bad, wicked, sinful)

ในภาษาไทยใช้ว่า “บาป” (ปา– เป็น บา-) อ่านว่า บาบ ถ้ามีคำอื่นมาสมาส อ่านว่า บาบ-ปะ- 

พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า –

บาป, บาป– : (คำนาม) การกระทำผิดหลักคำสอนหรือข้อห้ามในศาสนา; ความชั่ว, ความมัวหมอง. (คำวิเศษณ์) ชั่ว, มัวหมอง, เช่น บาปมิตร = มิตรชั่ว. (ป., ส. ปาป).”

(๒) “ธรรม” 

เขียนแบบบาลีเป็น “ธมฺม” อ่านว่า ทำ-มะ รากศัพท์มาจาก ธรฺ (ธาตุ = ทรงไว้) + รมฺม (ปัจจัย) ลบ รฺ ที่สุดธาตุ (ธรฺ > ) และ ต้นปัจจัย (รมฺม > มฺม)

: ธรฺ > + รมฺม > มฺม : + มฺม = ธมฺม (ปุงลิงค์) แปลตามศัพท์ว่า –

(1) “กรรมที่ทรงไว้ซึ่งความดีทุกอย่าง” (หมายถึงบุญ)

(2) “สภาวะที่ทรงผู้ดำรงตนไว้มิให้ตกไปในอบายและวัฏทุกข์” (หมายถึงคุณธรรมทั่วไปตลอดจนถึงโลกุตรธรรม)

(3) “สภาวะที่ทรงไว้ซึ่งสัตว์ผู้บรรลุมรรคเป็นต้นมิให้ตกไปในอบาย” (หมายถึงโลกุตรธรรม คือมรรคผล)

(4) “สภาวะที่ทรงลักษณะของตนไว้ หรืออันปัจจัยทั้งหลายทรงไว้” (หมายถึงสภาพหรือสัจธรรมทั่วไป)

(5) “สภาวะอันพระอริยะมีโสดาบันเป็นต้นทรงไว้ ปุถุชนทรงไว้ไม่ได้” (หมายถึงโลกุตรธรรม คือมรรคผล)

คำแปลตามศัพท์ที่เป็นกลางๆ “ธมฺม” คือ “สภาพที่ทรงไว้

พจนานุกรมบาลี-อังกฤษ สรุปความหมายในแง่หนึ่งไว้ว่า “ธมฺม” หมายถึง –

(1) doctrine (คำสอน) 

(2) right or righteousness (สิทธิหรือความถูกต้อง) 

(3) condition (เงื่อนไข) 

(4) phenomenon (ปรากฏการณ์) 

ธมฺม” ในภาษาไทยนิยมใช้อิงรูปสันสกฤตเป็น “ธรรม” พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกความหมายไว้ดังนี้ – 

(๑) คุณความดี เช่น เป็นคนมีธรรมะ เป็นคนมีศีลมีธรรม. 

(๒) คำสั่งสอนในศาสนา เช่น แสดงธรรม ฟังธรรม ธรรมะของพระพุทธเจ้า. 

(๓) หลักประพฤติปฏิบัติในศาสนา เช่น ปฏิบัติธรรม ประพฤติธรรม. 

(๔) ความจริง เช่น ได้ดวงตาเห็นธรรม. 

(๕) ความยุติธรรม, ความถูกต้อง, เช่น ความเป็นธรรมในสังคม. 

(๖) กฎ, กฎเกณฑ์, เช่น ธรรมะแห่งหมู่คณะ. 

(๗) กฎหมาย เช่น ธรรมะระหว่างประเทศ.

(๘ ) สิ่งของ เช่น เครื่องไทยธรรม. 

ในที่นี้ “ธรรม” ใช้ในความหมายตามคำแปลตามศัพท์ข้อ (4) ข้างต้น คือที่แปลว่า “สภาวะที่ทรงลักษณะของตนไว้ หรืออันปัจจัยทั้งหลายทรงไว้” หมายถึงสภาพหรือสัจธรรมทั่วไป ไม่ได้เล็งถึงดีหรือชั่ว

ปาป + ธมฺม = ปาปธมฺม (ปา-ปะ-ทำ-มะ) แปลตามศัพท์ว่า “ผู้มีธรรมฝ่ายบาป” “ผู้มีธรรมอันเป็นบาป” 

ปาปธมฺม” ใช้ในภาษาไทยเป็น “บาปธรรม” (บาบ-ปะ-ทำ) หมายถึง ผู้ประพฤติชั่วอยู่เป็นปกติธรรมดา

คำว่า “บาปธรรม” ยังไม่ได้เก็บไว้ในพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554

ขยายความ :

ในอัคคิขันโธปมสูตร ภิกษุที่ล่วงละเมิดศีลเป็นปกติและไม่ยอมรับว่าตนประพฤติผิด พระพุทธองค์ทรงเรียกด้วยถ้อยคำดังนี้ –

…………..

ทุสฺสีโล = คนทุศีล 

ปาปธมฺโม = เลวทราม 

อสุจิสงฺกสฺสรสมาจาโร = มีความประพฤติสกปรกน่ารังเกียจ 

ปฏิจฺฉนฺนกมฺมนฺโต = ปกปิดกรรมชั่ว 

อสฺสมโณ  สมณปฏิญฺโญ = มิใช่สมณะแต่ปฏิญาณว่าเป็นสมณะ 

อพฺรหฺมจารี  พฺรหฺมจาริปฏิญฺโญ = มิใช่ผู้ประพฤติพรหมจรรย์แต่ปฏิญาณว่าประพฤติพรหมจรรย์ 

อนฺโตปูติ = เน่าใน 

อวสฺสุโต = มีความกำหนัดกล้า 

กสมฺพุชาโต = เป็นดังเศษขยะ 

ที่มา: อัคคิขันโธปมสูตร สัตตกนิบาต อังคุตรนิกาย

พระไตรปิฎกเล่ม 23 ข้อ 69

…………..

หมายเหตุ: คำแปลภาษาไทยในที่นี้แปลตามสำนวนของผู้เขียนบาลีวันละคำ นักเรียนบาลีท่านอื่น ๆ อาจแปลด้วยสำนวนอื่นได้อีก

…………..

ดูก่อนภราดา!

: ผิดแล้วยอมรับผิด

เป็นบัณฑิตทันที

: ผิดแล้วช่วยกันปกปิด

เป็นมิตรกันในอเวจี

#บาลีวันละคำ (4,787)

21-7-68

…………………………….

ดูโพสต์ในเฟซบุ๊กของครูทองย้อย

…………………………….

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

น้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นอันหาที่สุดมิได้