บาลีวันละคำ

โฆษณาการ (บาลีวันละคำ 4,788)

โฆษณาการ

“ทำความจริงให้ปรากฏ” – เคยเป็นอุดมการณ์ของสื่อสารมวลชน

อ่านว่า โคด-สะ-นา-กาน

แยกศัพท์เป็น โฆษณา + อาการ

(๑) “โฆษณา” 

บาลีเป็น “โฆสนา” อ่านว่า โค-สะ-นา รากศัพท์มาจาก ฆุสฺ (ธาตุ = ส่งเสียง) + ยุ ปัจจัย, แปลง ยุ เป็น อน (อะ-นะ), แผลง อุ ที่ ฆุ-(สฺ) เป็น โอ (ฆุสฺ > โฆส) + อา ปัจจัยเครื่องหมายอิตถีลิงค์

: ฆุส + ยุ > อน = ฆุสน > โฆสน + อา = โฆสนา แปลตามศัพท์ว่า “การส่งเสียง” 

พจนานุกรมบาลี-อังกฤษ แปล “โฆสนา” ว่า fame, renown, praise (ชื่อเสียง, ความโด่งดัง, การสรรเสริญ) 

บาลี “โฆสนา” สันสกฤตเป็น “โฆษณ” (บาลี เสือ, หนู สันสกฤต ฤๅษี, เณร)

สํสกฤต-ไท-อังกฤษ อภิธาน บอกไว้ดังนี้ –

(สะกดตามต้นฉบับ)

โฆษณ : (คำนาม) การพูดดัง, การเอดตะโร; การป่าวร้องหรือประกาศ; speaking loudly, making a great noise; crying or proclaiming.”

ภาษาไทยใช้ตามสันสกฤตเป็น “โฆษณา” พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า – 

โฆษณา : (คำกริยา) เผยแพร่ข้อความออกไปยังสาธารณชน; ป่าวร้อง, ป่าวประกาศ, เช่น โฆษณาสินค้า; (คำที่ใช้ในกฎหมาย) กระทำการไม่ว่าโดยวิธีใด ๆ ให้ประชาชนเห็นหรือทราบข้อความเพื่อประโยชน์ในทางการค้า. (ส.; ป. โฆสนา).”

(๒) “อาการ” 

ภาษาไทยอ่านว่า อา-กาน บาลีอ่านว่า อา-กา-ระ รากศัพท์มาจาก อา (คำอุปสรรค = ทั่วไป, ยิ่ง) + กรฺ (ธาตุ = ทำ) + ปัจจัย, ลบ , ทีฆะ อะ ที่ -(รฺ) เป็น อา (กร > การ)

: อา + กรฺ = อากรฺ + = อากรณ > อากร > อาการ แปลตามศัพท์ว่า “การทำทั่วไป” “ผู้ทำทั่วไป

อาการ” ในบาลีใช้ในความหมายดังนี้ –

(1) ภาวะ, สภาพ (state, condition)

(2) คุณสมบัติ, คุณภาพ, ลักษณะประจำตัว (property, quality, attribute)

(3) ลักษณะ, รูปร่างหน้าตา, รูป (sign, appearance, form)

(4) วิธี, รูปลักษณะ, อาการ (way, mode, manner)

(5) เหตุผล, หลักฐาน, เรื่องราว (reason, ground, account)

สํสกฤต-ไท-อังกฤษ อภิธาน บอกความหมายของ “อาการ” ในภาษาสันสกฤตไว้ว่า –

อาการ : (คำนาม) การกล่าวท้วง; ลักษณะ; รูป; a hint; a sign or token; form.”

ในภาษาไทย พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกความหมายของคำว่า “อาการ” ไว้ว่า –

(1) สภาพที่เป็นอยู่หรือที่เป็นไป เช่น อาการซึมเศร้า

(2) กิริยาท่าทาง เช่น อาการตื่นเต้น.

(3) ความรู้สึก สิ่งที่ปรากฏ หรือภาวะผิดปรกติในร่างกายที่บ่งบอกความมีโรค เช่น อาการเจ็บคอ อาการเจ็บหน้าอก อาการชักกระตุก.

(4) ลักษณะเดียวกัน เช่น โดยอาการนั้น.

(5) ส่วนของร่างกายรวมทั้งอวัยวะภายนอก อวัยวะภายใน และสิ่งที่เกี่ยวเนื่องภายในร่างกายซึ่งทางพระพุทธศาสนานิยมว่ามี ๓๒ อย่าง เรียกว่า อาการ ๓๒ เช่น ผม เล็บ ฟัน หนัง เนื้อ เอ็น กระดูก จนถึงน้ำมูตร (น้ำปัสสาวะ) และเยื่อในสมอง. (ป., ส.).

โฆษณา + อาการ = โฆษณาการ แปลตามศัพท์ว่า “อาการคือการป่าวร้อง

ในภาษาไทย พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า –

โฆษณาการ : (คำนาม) การป่าวร้องให้ทราบ, การแจ้งความให้ทราบ. (ส. โฆษณา + อาการ).”

ขยายความ :

คำว่า “โฆษณาการ” ตามความหมายที่พจนานุกรมฯ บอกไว้ว่า “การป่าวร้องให้ทราบ” จะเห็นได้ว่าเป็นความหมายของคำว่า “โฆษณา” นั่นเอง นั่นคือ แม้จะไม่มีคำว่า “อาการ” มาสมาสข้างท้าย คำว่า “โฆษณา” คำเดียวก็แปลว่า “การป่าวร้องให้ทราบ” อยู่แล้วในตัว ดังนั้น คำว่า “อาการ” ในคำว่า “โฆษณาการ” จึงเข้าลักษณะคำที่ภาษาไวยากรณ์บาลีเรียกว่า “ศัพท์สกรรถ” หรือ “คำสกรรถ” (-สะ-กัด)

สกรรถ” หมายถึง อักษรหรือคำที่ลงข้างท้ายศัพท์ เมื่อลงแล้วศัพท์นั้นมีความหมายเท่าเดิม การสร้างคำโดยใช้อักษรหรือคำอื่นมาลงข้างท้าย แต่แปลได้ความเท่าเดิมเช่นนี้แหละ เรียกว่า “ศัพท์สกรรถ

ในภาษาบาลี อักษรหรือคำที่นิยมใช้ลงท้ายเป็น “สกรรถ” คือ (กะ) ชาต (ชา-ตะ) ภูต (พู-ตะ) เป็นต้น และนิยมเรียกควบกับอักษรหรือคำนั้น ๆ เช่น –

ลงท้าย เรียกว่า ก-สกรรถ (กะ-สะ-กัด)

ชาต ลงท้าย เรียกว่า ชาต-สกรรถ (ชา-ตะ-สะ-กัด)

ภูต ลงท้าย เรียกว่า ภูต-สกรรถ (พู-ตะ-สะ-กัด)

พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 เก็บคำว่า “สกรรถ” ไว้ด้วย บอกไว้ว่า – 

สกรรถ : (คำนาม) เรียกคำที่เพิ่มเข้าข้างหลังคำเดิม เมื่อเพิ่มแล้ว มีความหมายคงเดิม หรือหมายถึงพวกหรือหมู่ ว่า คำสกรรถ เช่น อากร (ในคำเช่น นรากร ประชากร) อาการ (ในคำเช่น คมนาการ ทัศนาการ) ชาติ (ในคำเช่น มนุษยชาติ ติณชาติ) ประเทศ (ในคำเช่น อุรประเทศ หทัยประเทศ).”

ขยายความช่วยพจนานุกรมฯ :

นร” คำเดียวก็แปลว่า “คน” อยู่แล้ว มีคำว่า “อากร” มาต่อท้ายเป็น “นรากร” ก็คงแปลว่า “คน” เท่าเดิม

ประชา” คำเดียวก็แปลว่า “หมู่คน” อยู่แล้ว มีคำว่า “อากร” มาต่อท้ายเป็น “ประชากร” ก็คงแปลว่า “หมู่คน” เท่าเดิม

คมน” คำเดียวก็แปลว่า “การไป” อยู่แล้ว มีคำว่า “อาการ” มาต่อท้ายเป็น “คมนาการ” ก็คงแปลว่า “การไป” เท่าเดิม

ทัศน” หรือ “ทัศนา” คำเดียวก็แปลว่า “การเห็น” อยู่แล้ว มีคำว่า “อาการ” มาต่อท้ายเป็น “ทัศนาการ” ก็คงแปลว่า “การเห็น” เท่าเดิม

มนุษย” คำเดียวก็แปลว่า “คน” อยู่แล้ว มีคำว่า “ชาติ” มาต่อท้ายเป็น “มนุษยชาติ” ก็คงแปลว่า “คน” เท่าเดิม

ติณ” คำเดียวก็แปลว่า “หญ้า” อยู่แล้ว มีคำว่า “ชาติ” มาต่อท้ายเป็น “ติณชาติ” ก็คงแปลว่า “หญ้า” เท่าเดิม

อุร” คำเดียวก็แปลว่า “อก” อยู่แล้ว มีคำว่า “ประเทศ” มาต่อท้ายเป็น “อุรประเทศ” ก็คงแปลว่า “อก” เท่าเดิม

หทัย” คำเดียวก็แปลว่า “หัวใจ” อยู่แล้ว มีคำว่า “ประเทศ” มาต่อท้ายเป็น “หทัยประเทศ” ก็คงแปลว่า “หัวใจ” เท่าเดิม

ดังนี้แหละ คำว่า “อากร” “อาการ” “ชาติ” “ประเทศ” ที่เอามาต่อท้ายจึงเรียกว่า “คำสกรรถ

จะเห็นได้ว่า “โฆษณาการ” ก็มีลักษณะอย่างเดียวกับ “ทัศนาการ” ในตัวอย่างของพจนานุกรมฯ นั่นเอง

แถม :

หน่วยราชการที่ชื่อ กรมประชาสัมพันธ์ ในปัจจุบันนี้ ในอดีตเคยมีชื่อว่า กรมโฆษณาการ (ใช้ชื่อ “กรมโฆษณาการ” ตั้งแต่วันที่ 5 กรกฎาคม 2483 เปลี่ยนชื่อเป็น “กรมประชาสัมพันธ์” เมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2495)

…………..

ดูก่อนภราดา!

: คำโฆษณาแม้จะไพเราะเพราะพริ้ง

: ก็ไม่สามารถทำเรื่องเท็จให้เป็นเรื่องจริงขึ้นมาได้

#บาลีวันละคำ (4,788)

22-7-68

…………………………….

ดูโพสต์ในเฟซบุ๊กของครูทองย้อย

…………………………….

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

น้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นอันหาที่สุดมิได้