บาลีวันละคำ

ปฏิกัสสนา (บาลีวันละคำ 4,792)

ปฏิกัสสนา

แก้ปัญหาการทำผิดซ้ำซอน

อ่านว่า ปะ-ติ-กัด-สะ-นา

ปฏิกัสสนา” เขียนแบบบาลีเป็น “ปฏิกสฺสนา” อ่านว่า ปะ-ติ-กัด-สะ-นา รากศัพท์มาจาก ปฏิ + กสฺสนา 

(๑) “ปฏิ” 

เป็นศัพท์จำพวกที่ภาษาไวยากรณ์เรียกว่า “อุปสรรค” 

คำว่า “ปฏิ-” ถ้าเขียนอย่างนี้ ขีด – ข้างหลังหมายความว่า คำจำพวกนี้ไม่ใช้ตามลำพัง แต่ใช้นำหน้าคำอื่นเสมอ 

นักเรียนบาลีท่องจำคำแปลกันมาว่า “ปฏิ : เฉพาะ ตอบ ทวน กลับ

พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า –

ปฏิ– : คําอุปสรรคในภาษาบาลีใช้นำหน้าศัพท์อื่น แปลว่า เฉพาะ เช่น ปฏิทิน, ตอบ เช่น ปฏิพากย์, ทวน เช่น ปฏิโลม, กลับ เช่น ปฏิวัติ. (ป.; ส. ปฺรติ).”

พจนานุกรมบาลี-อังกฤษ บอกความหมายของ “ปฏิ-” ว่า back (to), against, towards, in opposition to, opposite (กลับ, ตอบ, เฉพาะ, มุ่งไปยัง, ตรงกันข้าม, กลับกัน)

(๒) “กสฺสนา

อ่านว่า กัด-สะ-นา รากศัพท์มาจาก กสฺสฺ (ธาตุ = ลาก, ชักมา, ฉุดมา) + ยุ ปัจจัย, แปลง ยุ เป็น อน (อะ-นะ) + อา ปัจจัยเครื่องหมายอิตถีลิงค์

: กสฺส + ยุ > อน = กสฺสน + อา = กสฺสนา แปลตามศัพท์ว่า “การชักมา

ปฏิ + กสฺสนา = ปฏิกสฺสนา แปลตามศัพท์ว่า “การชักกลับมา” หมายถึง การถอยกลับ (drawing back) 

…………..

หมายเหตุ

๑ “กสฺสนา” ที่ใช้ตามลำพังยังไม่พบในคัมภีร์ พบแต่ที่มี คำอุปสรรค “ปฏิ” นำหน้าเป็น “ปฏิกสฺสนา” 

๒ “ปฏิกสฺสนา” พจนานุกรมบาลี-อังกฤษว่าเป็นนปุงสกลิงค์ คือเป็น “ปฏิกสฺสน” ตรวจดูในพระวินัยปิฎกพบรูปศัพท์ที่เป็น “ปฏิกสฺสนา” คือเป็นอิตถีลิงค์

…………..

ปฏิกสฺสนา” เขียนแบบไทยเป็น “ปฏิกัสสนา

ขยายความ :

พจนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับประมวลศัพท์ ของท่าน ป.อ. ปยุตฺโต อธิบายคำว่า “ปฏิกัสสนา” ไว้ดังนี้ –

…………..

ปฏิกัสสนา : กิริยาชักเข้าหาอาบัติเดิม, เป็นชื่อวุฏฐานวิธีสำหรับอันตราบัติคือระเบียบปฏิบัติในการออกจากอาบัติสังฆาทิเสสสำหรับภิกษุผู้ต้องอาบัติสังฆาทิเสสขึ้นใหม่อีก ในเวลาใดเวลาหนึ่งตั้งแต่เริ่มอยู่ปริวาสไปจนถึงก่อนอัพภาน ทำให้เธอต้องกลับอยู่ปริวาสหรือประพฤติมานัตตั้งแต่เริ่มต้นไปใหม่; สงฆ์จตุรวรรคให้ปฏิกัสสนาได้; ดู อันตราบัติ 

…………..

ที่คำว่า “อันตราบัติ” พจนานุกรมพุทธศาสน์ฯ บอกไว้ดังนี้ –

…………..

อันตราบัติ : อาบัติสังฆาทิเสส ที่ต้องใหม่อีกในระหว่างประพฤติวุฏฐานวิธี คือตั้งแต่เริ่มอยู่ปริวาสไปจนถึงก่อนอัพภาน

…………..

นอกจากนี้ยังมีคำที่เกี่ยวกับ “ปฏิกัสสนา” อีกคำหนึ่ง คือ “มูลายปฏิกัสสนา” (มู-ลา-ยะ-ปะ-ติ-กัด-สะ-นา) พจนานุกรมพุทธศาสน์ฯ บอกไว้ดังนี้ –

…………..

มูลายปฏิกัสสนา : การชักเข้าหาอาบัติเดิม เป็นชื่อวุฏฐานวิธีอย่างหนึ่ง; ดู ปฏิกัสสนา 

…………..

มูลายปฏิกัสสนา” ในบาลีแยกเป็น 2 คำ คือเป็น “มูลาย  ปฏิกสฺสนา” พจนานุกรมบาลี-อังกฤษ บอกความหมายของคำว่า “มูลาย  ปฏิกสฺสนา” ไว้ว่า “throwing back to the beginning, causing to begin over & over again” (“การย้อนกลับมาที่ตอนต้น, ทำให้เริ่มต้นใหม่ครั้งแล้วครั้งเล่า”) 

หมายเหตุ :

มีคำที่ท่านกล่าวว่า “ปริวาส มานัต ปฏิกัสสนา และอัพภาน รวมเรียกว่าวุฏฐานวิธี” หมายความว่า กระบวนการออกจากอาบัติสังฆาทิเสสเรียกว่า “วุฏฐานวิธี” ประกอบด้วย “ปริวาส มานัต ปฏิกัสสนา และอัพภาน” 

โปรดทราบว่า ขั้นตอนที่ต้องทำแน่นอนมีเฉพาะ “มานัต” และ “อัพภาน” เท่านั้น 

ปริวาส” จะทำในกรณีที่ต้องอาบัติสังฆาทิเสสแล้วปกปิดไว้ ถ้าต้องเข้าแล้วบอกกล่าวเปิดเผยทันทีไม่ได้ปกปิดไว้ ก็ไม่ต้องอยู่ปริวาส

ปฏิกัสสนา” จะทำในกรณีที่ระหว่างอยู่ปริวาสหรือประพฤติมานัต ไปต้องอาบัติสังฆาทิเสสซ้ำเข้าอีก จะเป็นข้อเดิมหรือข้ออื่นก็ตาม ต้องยกเลิกปริวาสและมานัตที่ทำมาทั้งหมด กลับไปเริ่มต้นใหม่ แต่ถ้าระหว่างอยู่ปริวาสหรือประพฤติมานัต ไม่ได้ต้องอาบัติสังฆาทิเสสอีก ขั้นตอนปฏิกัสสนาก็ไม่ต้องมี

ที่ต้องย้ำเรื่องนี้ เพราะคำว่า “ปริวาส มานัต ปฏิกัสสนา และอัพภาน รวมเรียกว่าวุฏฐานวิธี” อาจจะมีผู้เข้าใจไปว่า ภิกษุต้องอาบัติสังฆาทิเสสจะต้องผ่านวุฏฐานวิธีทุกขั้นตอน คือ ต้องผ่านปริวาส ต้องผ่านมานัต ต้องผ่านปฏิกัสสนา ต้องผ่านอัพภาน ต้องผ่านครบทั้ง 4 ขั้นตอนจึงจะสำเร็จสมบูรณ์ 

ย้ำว่า ขั้นตอนที่เป็นหลักของ “วุฏฐานวิธี” คือ มานัตและอัพภานเท่านั้น ปริวาสและปฏิกัสสนาเป็นขั้นตอนที่แทรกเข้ามา มีเหตุจึงทำ ไม่มีเหตุก็ไม่ต้องทำ

…………..

ดูก่อนภราดา!

: คนพาล ผิดแล้วไม่ยอมรับผิด

: บัณฑิต ไม่ทำผิดซ้ำซ้อน

#บาลีวันละคำ (4,792)

26-7-68

…………………………….

ดูโพสต์ในเฟซบุ๊กของครูทองย้อย

…………………………….

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

น้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นอันหาที่สุดมิได้