บทความเกี่ยวกับศาสนา-ภาษา-สังคม

อุปเทสอาจารย์แย้ม

อุปเทสอาจารย์แย้ม

———————–

อุปเทส” แปลว่า คำแนะนำ, การแนะอุบายวิธีเมื่อจะลงมือทำการ 

คำนี้ ภาษาไทยเอามาใช้เป็น “อุปเทห์

………

ผมสอบเข้ารับราชการในกองทัพเรือในสายงานอนุศาสนาจารย์

“อนุศาสนาจารย์” หมายถึงอาจารย์ผู้อบรมศีลธรรมของหน่วยราชการ 

มีระเบียบกระทรวงกลาโหมกำหนดไว้ว่า นายทหารที่เป็นอนุศาสนาจารย์จะต้องสวมปลอกแขนสีเหลืองเหนือข้อศอกซ้ายเมื่อทำหน้าที่อนุศาสนาจารย์

ที่กำหนดให้ปลอกแขนเป็นสีเหลืองก็เพื่อเป็นเครื่องระลึกถึงผ้ากาสาวพัสตร์นั่นเอง

อนุศาสนาจารย์จึงมีสถานะที่เรียกรู้กันในหมู่ทหารว่า “พระของทหาร

มีจรรยาบรรณกำหนดการวางตัวของอนุศาสนาจารย์ไว้หลายข้อ 

หนึ่งในนั้นคือต้องรักษาศีล ๕ อย่างเคร่งครัด

แต่ก็เป็นที่รู้กันว่า ในสังคมทหารนั้นสุรานารีเป็นเรื่องธรรมดา

อนุศาสนาจารย์อยู่ในสังคมทหาร ต้องเข้าสังคมกับทหารให้ได้ และต้องรักษาจรรยาบรรณของตนไว้ให้ได้ด้วย 

จึงต้องระวังภัยในเรื่องนี้กันมาก

————–

ผมไปกราบท่านอาจารย์ นาวาอากาศเอก แย้ม ประพัฒน์ทอง ยอดอนุศาสนาจารย์ของกองทัพอากาศ ซึ่งเป็นอาจารย์สอนบาลีให้ผมด้วย

เรียนท่านว่า บัดนี้ผมเป็นอนุศาสนาจารย์ทหารเรือแล้ว มาขอรับแนวปฏิบัติว่า ควรยึดหลักในการวางตัวเช่นไร

อย่างเช่นถูกชวนให้ไปเที่ยวเตร่เฮฮา เมื่อต้องลงเรือลำเดียวกันแล้ว จะมีหลักในการรักษาตัวอย่างไรจึงจะไม่เสียตัว แล้วก็ไม่เสียสังคมด้วย 

คุณก็ไปกับเขา แต่ไม่ต้องทำเหมือนเขา

ท่านอาจารย์แย้มตอบทันทีราวกับท่านเตรียมคำตอบไว้พร้อมแล้ว

อันที่จริงท่านไม่ต้องเตรียมคำตอบ เพราะมันอยู่ในชีวิตจริงของท่านตลอดเวลา

————–

สมัยที่ท่านอาจารย์แย้มไปสอนบาลีที่วัดสามพระยา วันหนึ่งท่านเล่าให้พระนักเรียนฟังเป็นการส่วนตัวว่า คราวหนึ่งท่านได้รับเชิญให้ร่วมคณะเจ้าหน้าที่ของทางราชการไทยไปเยื่อนญี่ปุ่นในฐานะทูตสันถวไมตรีทางศาสนา-อะไรประมาณนี้

เมื่อถึงญี่ปุ่น เข้าที่พักเรียบร้อยแล้ว หัวค่ำคืนหนึ่งก็มีเจ้าหน้าที่ฝ่ายดูแลต้อนรับมาเคาะประตูห้อง พลางกระซิบบอกว่า เป็นธรรมเนียมที่จะต้องให้แขกไปเลือกหาความสำราญแบบที่ว่า “ไปญี่ปุ่นก็ต้องให้ถึงญี่ปุ่น” บัดนี้ได้เตรียมทุกอย่างไว้พร้อมแล้ว ขอเรียนเชิญ

ท่านอาจารย์แย้มขอบคุณเป็นอันดีในน้ำใจ แล้วตอบว่าไม่ขอรับอภินันทนาการนี้

เจ้าหน้าที่ฝ่ายญี่ปุ่นพยายามอธิบายว่าไม่ควรปฏิเสธ เนื่องจากเป็นมิตรจิตมิตรใจ อีกประการหนึ่งในประวัติของการเยือน ก็ไม่เคยมีใครปฏิเสธมาก่อน ตรงข้ามกลับมีแต่ความยินดี 

ผู้ร่วมคณะคนอื่นๆ ที่ตั้งท่ารับคำเชิญอยู่แล้ว พอเห็นท่านอาจารย์แย้มปฏิเสธ ก็พยายามหว่านล้อมให้ท่านอาจารย์เปลี่ยนใจ 

ท่านเหล่านั้นให้เหตุผลเป็นทำนองว่า ผู้ชายเราก็- ชอบแบบนี้กันทั้งนั้นแหละ พวกที่มากันคราวก่อนก็ “ขี้เ…..กันทุกคน”

ตรงจุดๆ ที่ละไว้นั้น เขียนเต็มคำไม่ได้ครับ 

เห็นแต่สระตัวเดียวก็คงพอเดาได้

แต่ท่านอาจารย์แย้มไม่ได้ละเป็นจุดๆ ไว้หรอกครับ ท่านพูดคำนั้นชัดเจนตามบุคลิกตรงไปตรงมาของท่าน

ท่านตอบผู้ร่วมคณะด้วยคำเดียวกันว่า

“ก็เว้นไอ้แย้ม ที่ไม่ใช่คนขี้เ…ไว้สักคนไม่ได้เรอะ”

ท่านเล่นสัมผัสอักษร แย้ม – เ…อย่างชัดๆ

พวกเราพระนักเรียนฟังแล้วก็หัวเรากึกๆ ไปตามๆ กัน

คุณก็ไปกับเขา แต่ไม่ต้องทำเหมือนเขา

ท่านอาจารย์แย้มท่านวางตัวเช่นนี้มาแล้วนี่เอง

————–

เมื่อผมเป็นนายทหารสังเกตการฝึกกับหมู่เรือฝึกนักเรียนจ่า เรือลำที่ผมถูกสั่งให้ลงไปปฏิบัติหน้าที่ไปจอดที่แหลมงอบ 

ผู้การชวนขึ้นบกไปผ่อนคลายอิริยาบถตั้งแต่เวลาธงลง 

“ธงลง” เป็นภาษาทหารเรือ หมายถึงตอนเย็น 

ปกติตอนเช้า ธงขึ้นเวลา ๐๘๐๐ ทุกวัน แต่ตอนเย็นเวลาธงลงจะแตกต่างกันไปในแต่ละวันตามเวลาที่กรมอุทกศาสตร์คำนวณ แต่ก็ตกอยู่ในช่วงเวลาเย็น

ผมเมาไวตามิลค์ เมาโค้ก เมาเปปซี่ และนั่งเฝ้าหน้าห้องให้ญาติพี่น้องขึ้นสวรรค์ได้ตลอด จนกลับถึงเรือตอนตีสอง

เมื่อผมไปอยู่ค่ายจุฬาภรณ์ของนาวิกโยธินที่จังหวัดนราธิวาส ผมร่วมวงก๊งเหล้ากับนาวิกโยธินไทยได้เสมอ โดยใช้วิธีเมาโค้กอย่างครึกครื้น

คุณก็ไปกับเขา แต่ไม่ต้องทำเหมือนเขา

ผมใช้ “อุปเทส” ที่ท่านอาจารย์แย้มมอบให้นี้ รักษาตัวรอดปลอดภัยมาตลอดจนถึงทุกวันนี้

อยู่กับสังคม 

ไม่จำเป็นต้องจมไปกับสังคม

๕ เมษายน ๒๕๕๗

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

น้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นอันหาที่สุดมิได้