บาลีวันละคำ

ชลนัยน์ (บาลีวันละคำ 4,885)

ชลนัยน์

น้ำตาไหลก็เรียนบาลีได้

อ่านว่า ชน-ละ-ไน

ประกอบด้วยคำว่า ชล + นัยน์ 

(๑) “ชล” 

บาลีอ่านว่า ชะ-ละ รากศัพท์มาจาก ชลฺ (ธาตุ = ผูกรัด; ไหลไป; รุ่งเรือง) + (อะ) ปัจจัย 

: ชลฺ + = ชล (นปุงสกลิงค์) แปลตามศัพท์ว่า (1) “สิ่งที่ผูกรัด” (คือบีบทำให้เรือแตกได้) (2) “สิ่งที่ไหลไป” (3) “สิ่งที่รุ่งเรือง” (คือระยิบระยับยามค่ำคืน) หมายถึง น้ำ (water) 

บาลี “ชล” สันสกฤตก็เป็น “ชล” 

สํสกฤต-ไท-อังกฤษ อภิธาน บอกความหมายของ “ชล” ในสันสกฤตไว้ดังนี้ – 

(สะกดตามต้นฉบับ) 

ชล : (คำวิเศษณ์) เยือกเย็นหรืออนภิลาษ; สถุล; เฉื่อยชา, ไม่มีอุตสาหะ; เกียจคร้าน; cold; stupid; apathetic; idiotic; – (คำนาม) น้ำ; วิราค, เสนหาภาพ, ความเฉื่อยชาหรือความไม่มีเสนหา; water; frigidity; coldness, want of animation or coldness of affection.”

ในภาษาไทย พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า –

ชล, ชล– : (คำนาม) น้ำ. (ป., ส.).”

(๒) “นัยน์

บาลีเป็น “นยน” อ่านว่า นะ-ยะ-ยะ รากศัพท์มาจาก นี (ธาตุ = นำไป) + ยุ ปัจจัย, แผลง อี ที่ นี เป็น เอ แล้วแปลง เอ เป็น อย (นี > เน > นย), แปลง ยุ เป็น อน (อะ-นะ)

: นี > เน > นย + ยุ > อน = นยน แปลตามศัพท์ว่า “อวัยวะที่นำบุคคลที่ตนอาศัยไป” หมายถึง ดวงตา, นัยน์ตา (the eye)

บาลี “นยน” ภาษาไทยใช้เป็น “นัยน์” พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า –

นัยน์ : (คำนาม) ดวงตา. (ป., ส. นยน).”

ชล + นยน = ชลนยนว่า(ชะ-ละ-นะ-ยะ-นะ) > ชลนัยน์ (ชน-ละ-ไน) เป็นคำบาลี แต่ใช้ในภาษาไทยเป็นคำประสมแบบไทย แปลจากหน้าไปหลัง

ชล = น้ำ

นัยน์ = ตา

ชลนัยน์ = น้ำตา

พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า –

ชลนัยน์, ชลนา, ชลเนตร : (คำที่ใช้ในบทร้อยกรอง) (คำนาม) น้ำตา.”

ขยายความ :

ชลนัยน์” กับ “ชลเนตร” หมายถึง “น้ำตา” มีคำว่า “นัยน์” กับ “เนตร” ซึ่งแปลว่า ตา (the eye) เห็นศัพท์อยู่

แต่ “ชลนา” หมายถึง “น้ำตา”??

“น้ำ” มาจากคำว่า “ชล

“ตา” ก็ต้องมาจากคำว่า “นา

คำว่า “นา” แปลว่า “ตา” หรือ?

คำว่า “นา” ไม่ได้แปลว่า “ตา” จะรู้ที่มาของคำว่า “ชลนา” ต้องระลึกไว้ว่า คำว่า “ชลนา” ที่หมายถึง “น้ำตา” เป็นคำที่ใช้ในบทร้อยกรองเท่านั้น ไม่ใช่คำพูดธรรมดาทั่วไป

ข้อบังคับของบทร้อยกรองภาษาไทยก็คือ ต้องการเสียงสัมผัส โดยเฉพาะสัมผัสสระ ในที่นี้กวีเลือกใช้คำที่หมายถึง “น้ำตา” คือ “ชลนัยน์” กับ “ชลเนตร” ซึ่งคุ้นกันอยู่ในกระบวนร้อยกรอง แต่เสียงสัมผัสที่ต้องการไม่ใช่ ชล + ไอ (ชลนัยน์) หรือ ชล + เอ้ด (ชลเนตร) แต่ต้องการเสียง ชล + อา

ชล + เป็น “ชลนัยน์” ไม่ใช่ ชล + อา

ชล + เป็น “ชลเนตร” ก็ไม่ใช่ ชล + อา

ชล + เป็น “ชลนา” จึงจะเป็น ชล + อา

พูดกันตรง ๆ “ชลนา” แปลงรูปแปลงเสียงมาจาก “ชลนัยน์ชลเนตร” นั่นเอง

ชล +

ต้องการเสียง ไอ เป็น “ชลนัยน์” 

ต้องการเสียง เอ้ด เป็น “ชลเนตร” 

ต้องการเสียง อา เป็น “ชลนา” 

ชลนา” หมายถึง “น้ำตา” จึงมีที่มาอย่างนี้

…………..

ดูก่อนภราดา!

: คุณมีสิทธิ์ที่จะร้องไห้

ในขณะที่คนอื่น ๆ เขาหัวเราะ

: คุณมีสิทธิ์ที่จะหัวเราะ

ในขณะที่คนอื่น ๆ เขาร้องไห้

: และคนอื่น ๆ ก็มีสิทธิ์ที่จะบอกว่า –

คุณเป็นคนที่ไม่รู้จักกาลเทศะ

#บาลีวันละคำ (4,885)

27-10-68

…………………………….

ดูโพสต์ในเฟซบุ๊กของครูทองย้อย

…………………………….

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

น้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นอันหาที่สุดมิได้