เถรานุเถระ (บาลีวันละคำ 1,114)
เถรานุเถระ
อ่านว่า เถ-รา-นุ-เถ-ระ
ประกอบด้วย เถร + อนุเถระ
(๑) “เถร” (เถ-ระ) รากศัพท์มาจาก –
(1) ฐา (ธาตุ = ยืน, ตั้งอยู่) + อิร ปัจจัย, ลบ อา ที่ ฐา ( ฐา > ฐ), แปลง ฐ เป็น ถ, แผลง อิ ที่ อิ-(ร) เป็น เอ
: ฐา > ฐ + อิร = ฐิร > ถิร > เถร แปลตามศัพท์ว่า “ผู้ยังคงอยู่” (ถ้าเป็นพระก็คือยังไม่มรณภาพ หรือยังไม่ลาสิกขา)
(2) ถิร (ธาตุ = มั่นคง) + ณ ปัจจัย, ลบ ณ, แผลง อิ ที่ ถิ-(ร) เป็น เอ
: ถิร + ณ = ถิรณ > ถิร > เถร แปลตามศัพท์ว่า “ผู้มั่นคง” (ดำรงเพศภิกษุอยู่อย่างมั่นคง, มีจิตใจมั่นคง)
(3) ถุ (ธาตุ = สรรเสริญ, ชมเชย) + อิร ปัจจัย, ลบ อุ ที่ ถุ, แผลง อิ ที่ อิ-(ร) เป็น เอ
: ถุ > ถ + อิร = ถิร > เถร แปลตามศัพท์ว่า “ผู้น่าสรรเสริญยกย่อง”
“เถร” (เป็นคำนาม) หมายถึง พระเถระ, พระผู้ใหญ่, พระภิกษุผู้มีพรรษาตั้งแต่ 10 ขึ้นไป; (เป็นคำคุณศัพท์) หมายถึง ผู้เป็นพระเถระ, ผู้แก่, ผู้เฒ่า, ผู้ใหญ่
(๒) “อนุเถร” (อะ-นุ-เถ-ระ) มาจาก อนุ (น้อย, ภายหลัง, ตาม) + เถร = อนุเถร แปลตามศัพท์ว่า “พระเถระชั้นรอง” หมายถึง เป็นพระเถระตามเกณฑ์ เช่นมีพรรษา 10 แล้ว แต่เมื่ออยู่ในหมู่พระเถระด้วยกันยังมีพระเถระที่อาวุโสมากกว่า
เถร + อนุเถร = เถรานุเถร แปลทับศัพท์ว่า “พระเถระและพระอนุเถระ”
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ไทย-อังกฤษ ของท่าน ป.อ.ปยุตฺโต แปล “เถรานุเถร” เป็นอังกฤษว่า senior monks in general
พจนานุกรมบาลี-อังกฤษ ขยายความ “เถรานุเถร” ว่า seniors & those next to them in age dating not from birth, but from admission to the Order (ภิกษุชั้นพระเถระและอนุเถระ โดยนับพรรษาที่บวชมา มิใช่นับอายุ)
เถรานุเถร เขียนแบบไทยเป็น “เถรานุเถระ”
พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า –
“เถรานุเถระ : (คำนาม) พระเถระผู้ใหญ่ผู้น้อย. (ป.).”
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลธรรม ของท่าน ป.อ.ปยุตฺโต ข้อ [322] แสดง เถรธรรม – คุณสมบัติที่ทำให้เป็นพระเถระ 10 ประการ ดังนี้ :
1. เถโร รตฺตญฺญู (เป็นผู้ใหญ่ บวชนาน รู้เห็นกิจการ ทรงจำเรื่องราวไว้ได้มาก — Thero rattaññū: to be an elder monk of long experience)
2. สีลวา (มีศีล เคร่งครัดในสิกขาบททั้งหลาย — Sīlavā: to be virtuous; to have good conduct)
3. พหุสฺสุโต (เป็นพหูสูตทรงความรู้ — Bahussuto: to be much learned)
4. สฺวาคตปาฏิโมกฺโข (ทรงปาฏิโมกข์ รู้หลักแห่งวินัย แคล่วคล่อง ชำนิชำนาญ สามารถวินิจฉัยได้ด้วยดี — Svāgatapāṭimokkho: to be well versed in the codes of discipline)
5. อธิกรณสมุปฺปาทวูปสมกุสโล (ฉลาดในการระงับอธิกรณ์ที่เกิดขึ้น — Adhikaraṇasamuppādavūpasamakusalo: to be skilled in settling a legal question that has arisen)
6. ธมฺมกาโม (เป็นผู้ใคร่ธรรม รักความรู้ รักความจริง รู้จักรับฟังและรู้จักพูด ทำให้เป็นที่ชื่นชมสนิทสนมสบายใจ น่าเข้าไปปรึกษาสนทนา และชอบศึกษา ยินดีปรีดาในหลักธรรมหลักวินัยที่ยิ่งๆ ขึ้นไป — Dhammakāmo: to love the Dhamma, be pleasant to consult and converse with, and find joy in the advanced teaching of both the Doctrine and the Discipline)
7. สนฺตุฏฺโฐ (เป็นผู้สันโดษด้วยปัจจัยสี่ตามมีตามได้ — Santuṭṭho: to be content with whatsoever supply of the four requisites he may get)
8. ปาสาทิโก (จะไปจะมา มีอาการกิริยาน่าเลื่อมใส แม้เข้าไปในละแวกบ้าน ก็สำรวมเป็นอันดี — Pāsādiko: to be charming and perfectly composed in his goings out and comings in and in sitting in the house)
9. ฌานลาภี (ได้แคล่วคล่องในฌาน 4 ที่เป็นเครื่องอยู่สุขสบายในปัจจุบัน — Jhānalābhī: to be able to gain pleasure of the Four Absorptions)
10. วิมุตฺโต (บรรลุเจโตวิมุตติปัญญาวิมุตติ สิ้นอาสวะ — Vimutto: to have gained the Deliverance)
———
ในงานที่มีพระสงฆ์ไปชุมนุมกันอยู่ด้วย ผู้ประกาศในพิธีมักเอ่ยคำ เช่น “นมัสการพระเถรานุเถระที่เคารพ” เป็นต้น ในคำเช่นนี้มิได้หมายความว่าในสถานที่นั้นมีแต่พระภิกษุที่มีพรรษาตั้งแต่ 10 ขึ้นไปเท่านั้น ที่มีพรรษาต่ำกว่านั้นไม่มี หรือผู้พูดตั้งใจนมัสการเฉพาะพระภิกษุที่มีพรรษา 10 ขึ้นไปเท่านั้น ที่ต่ำกว่านั้นไม่นมัสการก็หาไม่
คำว่า “พระเถรานุเถระ” ในที่เช่นนั้นย่อมหมายถึง “พระภิกษุทั้งปวง” โดยเอ่ยถึงพระภิกษุระดับพระเถระเป็นประธาน ละพระภิกษุระดับต่ำกว่าไว้ในฐานเข้าใจ
คือเถระ :
อายุเป็นเพียงตัวเลข
ชั้นโทชั้นเอกเป็นหัวโขน
คุณธรรมประจำใจไม่เอนโอน
ตรงตลอดยอดถึงโคน-คือเถระ
————–
(ตามข้อสงสัยของ Paspong Samranrom)
12-6-58