สัมฤทธิ์ (บาลีวันละคำ 1,463)
สัมฤทธิ์
อ่านว่า สำ-ริด
บาลีเป็น “สมิทฺธิ” อ่านว่า สะ-มิด-ทิ
“สมิทฺธิ” ประกอบด้วย สํ + อิทฺธิ
(๑) “สํ” (สัง)
เป็นคำอุปสรรค ตำราบาลีไทยแปลว่า “พร้อม, กับ, ดี” หมายถึง พร้อมกัน, ร่วมกัน (together)
(๒) “อิทฺธิ” (อิด-ทิ)
รากศัพท์มาจาก อิธฺ (ธาตุ = เจริญ) + อิ ปัจจัย, ซ้อน ทฺ หลัง อิ– ต้นธาตุ
: อิธ > (อิ + ท + ธฺ) > อิทฺธ + อิ = อิทฺธิ แปลตามศัพท์ว่า “เหตุเป็นเครื่องเจริญ”
“อิทฺธิ” ในภาษาบาลี โดยเฉพาะที่สรุปได้จากคัมภีร์ มีความหมายดังนี้ –
(1) ความสมบูรณ์พรั่งพร้อมสมกับตำแหน่งฐานะ
(2) ความสามารถทำสิ่งใดๆ ได้ตามที่ผู้อยู่ในฐานะนั้นๆ จะพึงทำได้
(3) ความสามารถเหนือวิสัยสามัญอันเกิดจากการอบรมจิตถึงระดับ เช่น หูทิพย์ ตาทิพย์ เหาะได้ (โดยไม่ต้องใช้เครื่องช่วยใดๆ)
(4) การฝึกฝนอบรมให้มีคุณธรรมอันจะสามารถทำสิ่งใดๆ ให้สำเร็จได้ตามปรารถนา
ในภาษาไทย พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า –
“อิทธิ : (คำนาม) ฤทธิ์, อํานาจศักดิ์สิทธิ์; ความเจริญ, ความสําเร็จ, ความงอกงาม”
สํ + อิทฺธิ แปลงนิคหิตที่ สํ เป็น ม (สํ > สม)
: สํ > สม + อิทฺธิ = สมิทฺธิ แปลตามศัพท์ว่า “ความสำเร็จพร้อมกัน” หมายถึง ความสำเร็จ, ความรุ่งเรือง (success, prosperity)
บาลี “สมิทฺธิ” สันสกฤตเป็น “สมฺฤทฺธิ”
สํสกฤต-ไท-อังกฤษ อภิธาน บอกไว้ว่า –
(สะกดตามต้นฉบับ)
“สมฺฤทฺธิ : (คำนาม) แผลงเปน – ‘สัมฤทธิ,’ วรรธนะ; บุณโยทัย; อาธิปัตย์; อำนาจ; increase; prosperity; sway; power.”
สมิทฺธิ > สมฺฤทฺธิ ภาษาไทยใช้ตามสันสกฤตเป็น “สัมฤทธิ”
ถ้าต้องการให้อ่านว่า สำ-ริด เขียน “สัมฤทธิ์” (การันต์ที่ -ธิ)
ถ้ามีคำอื่นมาสมาสข้างท้าย เขียน “สัมฤทธิ-” อ่านว่า สำ-ริด-ทิ-
พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า –
“สัมฤทธิ-, สัมฤทธิ์ : (คำนาม) ความสําเร็จ ในคําว่า สัมฤทธิผล; โลหะเจือชนิดหนึ่ง ส่วนใหญ่ประกอบด้วยทองแดงกับดีบุก, ทองสัมฤทธิ์ หรือ ทองบรอนซ์ ก็เรียก, โบราณเขียนว่า สําริด. (ส. สมฺฤทฺธิ; ป. สมิทฺธิ).”
แถม :
“สัมฤทธิ” โบราณเขียนว่า “สําริด” เหมือนเขียนเสียงอ่าน เราใช้คำว่า “สําริด” กันมานาน จนกระทั่งสมัยหนึ่งมีการแยกความหมายว่า –
ถ้าหมายถึงความสำเร็จ ใช้ว่า “สัมฤทธิ์”
ถ้าหมายถึงโลหะเจือชนิดหนึ่ง ใช้ว่า “สําริด” เช่น ทองสำริด ขันสำริด
แต่ปัจจุบัน “สำริด” ที่หมายถึงโลหะเจือ พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถานกำหนดให้เขียนเป็น “สัมฤทธิ์” ตามรูปคำเดิม
……….
: ไม่ทำอะไรเลย ดีกว่าทำทุจริต
: ทำกุศล แม้ผลไม่สัมฤทธิ์ ก็ยังดีกว่าไม่คิดทำอะไรเลย
4-6-59