มงคลตื่นข่าว (บาลีวันละคำ 1,583)
มงคลตื่นข่าว
บาลีว่าอย่างไร
ในหนังสือ นวโกวาท ภาคคิหิปฏิบัติ แสดงสมบัติของอุบาสก 5 ประการ ไว้ดังนี้ –
1. ประกอบด้วยศรัทธา
2. มีศีลบริสุทธิ์
3. ไม่ถือมงคลตื่นข่าว คือเชื่อกรรม ไม่เชื่อมงคล
4. ไม่แสวงหาเขตบุญนอกพุทธศาสนา
5. บำเพ็ญบุญแต่ในพุทธศาสนา
มีคำถามว่า “มงคลตื่นข่าว” หมายความว่าอย่างไร?
“มงคลตื่นข่าว” แปลมาจากคำบาลีว่า “โกตูหลมงฺคลิก” (โก-ตุ-หะ-ละ-มัง-คะ-ลิ-กะ) แยกศัพท์เป็น โกตูหล + มงฺคล + อิก ปัจจัย
(๑) “โกตูหล” (โก-ตู-หะ-ละ)
รากศัพท์มาจาก กุ (บาป, ความชั่ว) + ตุลฺ (ธาตุ = เบาบาง) + อ ปัจจัย, ลง ห อาคมกลางธาตุ (ตุลฺ > ตุหลฺ), แผลง อุ ที่ กุ เป็น โอ (กุ > โก), ทีฆะ อุ ที่ ตุ เป็น อู
: กุ + ตุลฺ = กุตุลฺ + อ = กุตุล > กุตุหล > โกตุหล > โกตูหล (นปุงสกลิงค์) แปลตามศัพท์ว่า “ภาวะที่ยังบาปให้เบาบาง” มีคำไขความว่า เพราะแตกตื่นทำความดีกันมาก บาปจึงเบาบางลงไป
“โกตูหล” หมายถึง ความตื่นเต้น, ความยุ่งเหยิง, ความโกลาหล, งานรื่นเริง, มหกรรม, (excitement, tumult, festival, fair)
(๒) “มงฺคล” (มัง-คะ-ละ) รากศัพท์มาจาก –
(1) มคิ (ธาตุ = ถึง, ไป, เป็นไป) + อล ปัจจัย, ลงนิคหิตอาคมที่ ม-(คิ) แล้วแปลงนิคหิตเป็น งฺ (มคิ > มํคิ > มงฺคิ), ลบสระที่สุดธาตุ (มคิ > มค)
: มคิ > มํคิ > มงฺคิ > มงฺค + อล = มงฺคล แปลตามศัพท์ว่า (1) “เหตุให้ถึงความเจริญ” (2) “เหตุเป็นเครื่องถึงความบริสุทธิ์แห่งเหล่าสัตว์”
(2) มงฺค (บาป) + ลุ (ธาตุ = ตัด) + อ ปัจจัย, ลบสระหน้า (คือ อุ ที่ ลุ ที่อยู่หน้า อ ปัจจัย : ลุ > ล)
: มงฺค + ลุ = มงฺคลุ > มงฺคล + อ = มงฺคล แปลตามศัพท์ว่า “เหตุที่ตัดความชั่ว”
ความหมายที่เข้าใจกันของ “มงฺคล” (นปุงสกลิงค์) คือ –
(1) มีฤกษ์งามยามดี, รุ่งเรือง, มีโชคดี, มีมหกรรมหรืองานฉลอง (auspicious, prosperous, lucky, festive)
(2) ลางดี, ศุภมงคล, งานรื่นเริง (good omen, auspices, festivity)
“มงฺคล” ตามหลักพระพุทธศาสนาหมายถึง ธรรมที่นำมาซึ่งความสุขความเจริญ
การประกอบคำ :
1) โกตูหล + มงฺคล = โกตูหลมงฺคล แปลว่า “ความแตกตื่นว่า (สิ่งใดสิ่งหนึ่ง) เป็นมงคล”
2) โกตูหลมงฺคล + อิก = โกตูหลมงฺคลิก แปลว่า “ผู้ตั้งอยู่ในความแตกตื่นว่า (สิ่งใดสิ่งหนึ่ง) เป็นมงคล”
อภิปราย :
“มงคลตื่นข่าว” ไม่ใช่แค่ “ตื่นข่าว”
คำว่า “ตื่นข่าว” ในภาษาไทย พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2542 บอกไว้ว่า –
“ตื่นข่าว : (คำกริยา) เชื่อข่าวหรือคําเล่าลือโดยไม่มีเหตุผล.”
พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 แก้ไขบทนิยามใหม่เป็นดังนี้ –
“ตื่นข่าว : (คำกริยา) ตระหนกตกใจไปกับข่าวหรือคำเล่าลือ.”
ตัวอย่างของ “ตื่นข่าว” ตาม พจน.42 เช่น มีคำเล่าลือว่าบุคคลผู้นั้นผู้นี้ตายแล้ว ก็เชื่อตามไปทั้งๆ ที่ไม่มีหลักฐานยืนยัน
ตัวอย่างของ “ตื่นข่าว” ตาม พจน.54 เช่น มีคนบอกว่ารถชนกันที่ปากซอยหน้าบ้าน ก็ตกใจรีบวิ่งออกไปดู
แต่ “มงคลตื่นข่าว” ไม่ใช่แบบนี้ “มงคลตื่นข่าว” หมายถึง เมื่อมีคำเล่าลือหรือเชื่อถือกันว่าสิ่งนั้นสิ่งนี้ศักดิ์สิทธิ์ หรือบอกกันว่าทำอย่างนั้นอย่างนี้จึงจะพ้นจากเคราะห์ร้าย ก็เชื่อตามหรือทำตามเขาไป เช่นกรณีลือกันว่าคนเกิดปีมะจะมีอันเป็นไป ต้องแก้เคล็ดอย่างนั้นอย่างนี้ หรือกรณีเล่าลือให้บูชาพระราหูด้วยของดำ 9 อย่าง ถ้าไม่ทำจะเกิดอาเพศ อย่างนี้จึงจะเรียกได้ว่า “มงคลตื่นข่าว”
หรือจากตัวอย่างข่าวรถชนกันที่ปากซอยหน้าบ้าน
ถ้าตกใจรีบวิ่งออกไปดู นี่คือ “ตื่นข่าว”
ไปดูแล้ว ปรากฏว่ามีคนในรถตายหลายคน แต่มีคนหนึ่งรอดตายมาได้ เขาบอกว่าที่รอดตายเพราะแขวนพระขลัง คนฟังแล้วก็เชื่อว่าเป็นความจริง อย่างนี้คือ “มงคลตื่นข่าว”
สรุปว่า : ฟังข่าว ดูข่าว อ่านข่าว แล้วเชื่อตามข่าว เป็นเพียงแค่ “ตื่นข่าว”
ต่อเมื่อปักใจเชื่อตามคำเล่าลือ หรือตามความเชื่อถือว่า สิ่งนั้นศักดิ์สิทธิ์ มีสิ่งนี้ไว้แล้วจะเกิดสิริมงคล ทำอย่างนั้นอย่างนี้แล้วจะมีอำนาจลึกลับช่วยบันดาลให้ประสบความสำเร็จ เป็นต้น อย่างนี้จึงจะเรียกว่า “มงคลตื่นข่าว”
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลธรรม ของท่าน ป.อ.ปยุตฺโต ข้อ [259] อุบาสกธรรม 5 อุบาสกธรรมข้อ 3 บอกไว้ว่า –
3. ไม่ถือมงคลตื่นข่าว เชื่อกรรม ไม่เชื่อมงคล คือ มุ่งหวังผลจากการกระทำและการงาน มิใช่จากโชคลางและสิ่งที่ตื่นกันว่าขลังศักดิ์สิทธิ์ (not to be superstitious, believing in deeds, not luck)
……….
ในเรื่องที่เป็นเพียง “ตื่นข่าว” สังเกตเห็นว่ามีผู้ใช้คำว่า “มงคลตื่นข่าว” กันมากขึ้น ถ้าไม่ช่วยกันรั้งไว้ ความหมายของคำว่า “มงคลตื่นข่าว” จะแปรไป แล้วผิดก็จะกลายเป็นถูกไปอีกคำหนึ่ง
………….
: คนเขลา ฝากอนาคตไว้กับสิ่งศักดิ์สิทธิ์
: บัณฑิต ฝากไว้กับความพากเพียรของตนเอง
4-10-59