ไถยจิต (บาลีวันละคำ 1,701)
ไถยจิต
ใช่จะแปลกแต่รูปคำ การกระทำก็แปลก
อ่านว่า ไถ-ยะ-จิด
ประกอบด้วย ไถย + จิต
(๑) “ไถย-” (ไถ-ยะ-)
บาลีเป็น “เถยฺย” (เถย-ยะ) รากศัพท์มาจาก เถน + ณฺย ปัจจัย
1) “เถน” อ่านว่า เถ-นะ รากศัพท์มาจาก เถนฺ (ธาตุ = ลัก, ขโมย) + อ ปัจจัย
: เถนฺ + อ = เถน (ปุงลิงค์) แปลตามศัพท์ว่า “ผู้ลักขโมย”
“เถน” เป็นคำนาม หมายถึง คนขโมย (a thief) เป็นคำคุณศัพท์ หมายถึง ขโมย (stealing)
2) เถน (คนขโมย) + ณฺย ปัจจัย, ลบ น ที่สุดศัพท์ (เถน > เถ) และลบ ณ ที่ ณฺย (ณฺย > ย), ซ้อน ยฺ (ย > ยฺย)
: เถนฺ > เถ + ณฺย > ย = เถย > เถยฺย (นปุงสกลิงค์) แปลตามศัพท์ว่า “การกระทำของขโมย” “ภาวะแห่งขโมย” หมายถึง การขโมย (theft)
“เถยฺย” ในภาษาไทยใช้เป็น “ไถย-” (ไถ-ยะ-) (มีคำอื่นมาสมาสข้างท้าย)
พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า –
“ไถย– : (คำนาม) ความเป็นขโมย เช่น ไถยจิต. (ป. เถยฺย).”
(๒) “จิต”
บาลีเป็น “จิตฺต” (จิด-ตะ) รากศัพท์มาจาก จินฺต (ธาตุ = คิด) + ต ปัจจัย, ลบ นฺ ที่ จินฺตฺ (จินฺต > จิต)
: จินฺต + ต = จินฺตต > จิตฺต แปลตามศัพท์ว่า (1) “สิ่งที่ทำหน้าที่คิด” (2) “สิ่งที่ทำหน้าที่รู้อารมณ์” หมายถึง จิต, ใจ, ความคิด (the heart, mind, thought)
พจนานุกรมบาลี-อังกฤษ แปล “จิตฺต” ไว้ดังนี้ –
the heart (psychologically), i. e. the centre & focus of man’s emotional nature as well as that intellectual element which inheres in & accompanies its manifestations; i. e. thought (หัวใจ [ทางจิตวิทยา] คือศูนย์และจุดรวมของธรรมชาติที่เกี่ยวกับความรู้สึกของมนุษย์ กับส่วนของสติปัญญาซึ่งอยู่ในการแสดงออกเหล่านั้น; กล่าวคือ ความคิด)
“จิตฺต” ในภาษาไทยตัดตัวสะกดออกตัวหนึ่ง ใช้เป็น “จิต”
พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า –
“จิต, จิต– : (คำนาม) ใจ, สิ่งที่มีหน้าที่รู้ คิดและนึก, (โบ เขียนว่า จิตร), ลักษณนามว่า ดวง. (ป. จิตฺต).”
เถยฺย + จิตฺต = เถยฺยจิตฺต แปลตามศัพท์ว่า “การคิดในอันที่จะขโมย” หมายถึง จิตคิดขโมย, มีเจตนาจะขโมย (intending to steal)
“เถยฺยจิตฺต” ในภาษาไทยใช้เป็น “ไถยจิต” (และเป็น “เถยจิตฺ” ก็มี)
พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า –
“ไถยจิต : (คำนาม) จิตประกอบด้วยความเป็นขโมย, จิตคิดขโมย. (ป. เถยฺยจิตฺต).”
…………..
ในทางธรรม เถยฺยจิตฺต > ไถยจิต เป็นองค์ประกอบข้อหนึ่งใน 5 ข้อ ที่จะวินิจฉัยว่าเป็นการลักทรัพย์ (อทินนาทาน) หรือมิใช่ กล่าวคือ :
(1) ปรปริคฺคหิตํ ทรัพย์นั้นเป็นของผู้อื่น และเจ้าของยังทรงสิทธิ์ครอบครองหวงแหนอยู่
(2) ปรปริคฺคหิตสญฺญิตา ผู้กระทำผิดรู้ข้อเท็จจริงตามข้อต้นนั้น
(3) เถยฺยจิตฺตํ มีเจตนาที่จะได้ทรัพย์นั้นมาครอบครองโดยที่เจ้าของมิได้ยินยอมพร้อมใจ
(4) อุปกฺกโม ลงมือกระทำการ
(5) เตน หรณํ ได้ทรัพย์นั้นมาครอบครองโดยผลแห่งการกระทำนั้น
ถ้าครบองค์ประกอบทั้ง 5 นี้ การลักทรัพย์นั้นเป็นอันสำเร็จ
…………..
: จิตคิดจะให้ เบาสบายกว่าจิตคิดจะเอา
: จิตคิดจะลัก มันสุดแสนจะหนักยิ่งกว่าภูเขา
: ผู้ใหญ่ระดับนี้ ไยจึงยังมีไถยจิต อกเอ๋ยสุดจะคิดให้เห็นเค้า
: ดอกเอ๋ย เจ้าดอกสะเดา
: จะขมจะช้ำทุกค่ำเช้า เสียแล้วพ่อเถา-ตำลึงเอย
30-1-60