กังขา (บาลีวันละคำ 963)
กังขา
อ่านว่า กัง-ขา
บาลีเขียนเป็น “กงฺขา”
“กงฺขา” รากศัพท์มาจาก กงฺข (ธาตุ = สงสัย) + อ ปัจจัย, อา ปัจจัยอิตถีลิงค์
: กงฺข + อ = กงฺข + อา = กงฺขา แปลตามศัพท์ว่า “อาการที่สงสัย”
“กงฺขา” ในบาลีใช้ในความหมายดังนี้ :
(1) ความสงสัย, ความไม่แน่ใจ (doubt, uncertainty)
(2) มีความสงสัย, มีความข้องใจ (doubting, doubtful)
(3) ความคาดหวัง (expectation)
ในทางรูปศัพท์ “กงฺขา” บาลีตรงกับ “กางฺกฺษา” ในสันสกฤต
สํสกฤต-ไท-อังกฤษ อภิธาน บอกไว้ว่า –
“กางฺกฺษา : (คำนาม) ความปรารถนา, ความลำเอียง, ความใคร่; wish, inclination, desire.”
ในภาษาไทย เรารู้จัก “กงฺขา-กังขา” ในความหมายว่า สงสัย ข้องใจ แต่เมื่อเทียบกับสันสกฤตจะเห็นได้ว่า “กังขา-กางฺกฺษา” ไม่ใช่สงสัยแบบไม่แน่ใจ ลังเล หรือเคลือบแคลงเฉยๆ แต่เป็นความสงสัยแบบใคร่รู้ คือมีความคาดหวัง แต่ไม่แน่ใจว่าจะสมหวังหรือไม่ ระคนอยู่ในเรื่องนั้นด้วย
โปรดสังเกตคำแปลภาษาอังกฤษ expectation, wish, desire จะเห็นความหมายของ “กังขา” ในด้านที่เราไม่ได้นึกถึงและไม่ได้นำมาใช้
คำไทยสำนวนเก่านิยมพูดว่า “วิมัติกังขา” (วิ-มัด-ติ-กัง-ขา) เช่น ขออย่าได้มีวิมัติกังขาในเรื่องนี้เลย
“วิมัติ” บาลีเป็น “วิมติ” (วิ-มะ-ติ) แปลตามศัพท์ว่า “ภาวะเป็นเหตุให้สำคัญไปโดยอาการต่างๆ” คือเห็น ได้ยิน หรือรู้เรื่องราวใดๆ ก็คิดสงสัยไปต่างๆ ไม่สามารถวินิจฉัยแน่นอนลงไปได้ว่าอะไรเป็นอะไร
พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า –
(1) กังขา : (คำนาม) ความเคลือบแคลง, ความสงสัย. (ป.).
(2) วิมัติ : (คำนาม) ความเคลือบแคลง, ความสงสัย. (ป., ส. วิมติ).
ความมหัศจรรย์ของกังขา:
: เกิดขึ้นแก่คนฉลาด ยิ่งเพิ่มความฉลาด
: เกิดขึ้นแก่คนเขลา ก็ยิ่งเพิ่มความเขลา
#บาลีวันละคำ (963)
6-1-58