อักษรเลข (บาลีวันละคำ 2,207)
อักษรเลข
อ่านว่า อัก-สอ-ระ-เลก ก็ได้ อัก-สอน-เลก ก็ได้
(ตามพจนานุกรมฯ)
ประกอบด้วยคำว่า อักษร + เลข
(๑) “อักษร”
บาลีเป็น “อกฺขร” (อัก-ขะ-ระ) รากศัพท์มาจาก
(1) น (คำนิบาต = ไม่, ไม่ใช่) + ขร (ของแข็ง), แปลง น เป็น อ, ซ้อน กฺ
: น + กฺ + ขร = นกฺขร > อกฺขร แปลตามศัพท์ว่า “สิ่งที่ไม่เป็นของแข็ง”
(2) น (คำนิบาต = ไม่, ไม่ใช่) + ขรฺ (ธาตุ = พินาศ) + อ ปัจจัย, แปลง น เป็น อ, ซ้อน กฺ
: น + กฺ + ขรฺ = นกฺขรฺ + อ = นกฺขร > อกฺขร แปลตามศัพท์ว่า “สิ่งที่ไม่พินาศไป” (คือไม่ถึงความเสื่อมสิ้นไป)
(3) น (คำนิบาต = ไม่, ไม่ใช่) + ขี (ธาตุ = สิ้นไป) + อร ปัจจัย, ลบสระหน้า คือ อี ที่ ขี (ขี > ข), แปลง น เป็น อ, ซ้อน กฺ
: น + กฺ + ขี = นกฺขี > นกฺข + อร = นกฺขร > อกฺขร แปลตามศัพท์ว่า “สิ่งที่ไม่สิ้นไป” (คือใช้ไม่มีวันหมด)
“อกฺขร” (ปุงลิงค์, นปุงสกลิงค์) ในบาลีใช้ในความหมายดังนี้
– เป็นคำนาม หมายถึง เสียงที่เปล่งออก, เสียงสูงต่ำ, คำ, ถ้อยคำ (sounds, tones, words)
– เป็นคุณศัพท์ หมายถึง มั่นคง, คงเส้นคงวา, ทนทาน, ยั่งยืน (constant, durable, lasting)
“อกฺขร” ในภาษาไทยใช้ตามสันสกฤตเป็น “อักษร”
พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า –
“อักษร, อักษร– : (คำนาม) ตัวหนังสือ, วิชาหนังสือ เช่น ฉลาดรอบรู้ในอักษรสยาม. (ส.; ป. อกฺขร).”
(๒) “เลข
บาลีอ่านว่า เล-ขะ รากศัพท์มาจาก ลิขฺ (ธาตุ = ขีด, เขียน) + ณ ปัจจัย, ลบ ณ, แผลง อิ ที่ ลิ-(ขฺ) เป็น เอ (ลิข > เลข)
: ลิขฺ + ณ = ลิขณ > ลิข > เลข แปลตามศัพท์ว่า “การขีดเขียน” “สิ่งที่เขียน”
“เลข” เมื่อนำมาใช้ในภาษาไทยความหมายเพี้ยนไปเป็น “ตัวเลข” (number, numeral) ดังที่พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า –
“เลข : (คำนาม) สัญลักษณ์ที่ใช้แทนจํานวนจริง; วิชาคํานวณ”
ควรทราบ :
ในภาษาบาลี ตัวเลข วิชาคำนวณ หรือการบวกลบคูณหาร ไม่ได้ใช้คำว่า “เลข” แต่ใช้คำว่า “สงฺขฺยา” หรือ “คณนา” (คะ-นะ-นา)
ส่วน “เลข” (เล-ขะ) และรูปคำอื่นๆ ที่ออกมาจากรากศัพท์เดียวกัน (คือ ลิ หรือ ลิขฺ ธาตุ) เช่น เลขน (เล-ขะ-นะ) เลขณี (เล-ขะ-นี) เลขา (เล-ขา) จะหมายถึง การขีด, การวาด, การเขียน, การจารึก, หนังสือ, สาสน์ (scratching, drawing, writing, inscription, letter, epistle)
ดูเพิ่มเติม: “เลขเป็นโท” บาลีวันละคำ (806) 2-8-57
อกฺขร + เลข = อกฺขรเลข แปลว่า “การเขียนอักษร” คือการเขียนหนังสือ
“อกฺขรเลข” ในภาษาไทยใช้เป็น “อักษรเลข”
พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า –
“อักษรเลข : (คำนาม) วิธีเขียนหนังสือลับโบราณ ใช้ตัวเลขแทนสระ; ตําแหน่งในคณะกรมการปกครองท้องที่มีมาแต่โบราณ, ต่อมาใช้เรียกผู้ทําหน้าที่เลขานุการของผู้ว่าราชการจังหวัด.”
อภิปราย :
“เลข” ในคำว่า “อักษรเลข” หมายถึงอะไร
๑ พจนานุกรมฯ บอกไว้ว่า “อักษรเลข” หมายถึง “วิธีเขียนหนังสือลับโบราณ ใช้ตัวเลขแทนสระ”
คำว่า “ใช้ตัวเลขแทนสระ” ส่อความว่า “เลข” ในคำนี้หมายถึง “ตัวเลข”
“อักษรเลข” จึงแปลว่า “อักษรที่เป็นตัวเลข” หรือ “ตัวเลขที่แทนอักษร” เวลาเขียนก็ต้องตกลงกันไว้ก่อนว่า ใช้ตัวเลขนี้หมายถึงอักษรตัวไหนเพื่อรู้กันเฉพาะในหมู่พวกเดียวกัน
๒ พจนานุกรมฯ บอกไว้ในความท่อนหลังว่า “อักษรเลข” หมายถึง “ผู้ทําหน้าที่เลขานุการของผู้ว่าราชการจังหวัด”
ตำแหน่งตามความหมายนี้ส่อว่า มีหน้าที่เกี่ยวกับการเขียนหนังสือหรือตรวจหนังสือที่ผู้อื่นเขียน รวมความว่าทำงานหนังสือ ตามความหมายนี้ “เลข” แปลว่า “เขียน” อันเป็นความหมายเดิมในบาลี
ในบาลีมีคำว่า “อกฺขรเลขา” (อัก-ขะ-ระ-เล-ขา) แปลว่า “การเขียนหนังสือ” เมื่อเอามาใช้เรียกบุคคลเป็น “อกฺขรเลข” หรือ “อักษรเลข” ก็แปลว่า “ผู้เขียนหนังสือ” คือผู้ทำงานเกี่ยวการเลขานุการ
แถม :
ผู้ทำหน้าที่ “เลขานุการ” คัดกรองงานที่อยู่ใกล้ตัวผู้บังคับบัญชามีชื่อเรียกแตกต่างกันไป
– ของผู้ว่าราชการจังหวัดสมัยเดิมเรียกว่า “อักษรเลข”
– พลเรือนทั่วไปเรียกสั้นๆ ว่า “เลขาฯ” หรือภาษาปากว่า “หน้าห้อง”
– ทหารบกเรียก “ทส.” (ทอ-สอ = นายทหารคนสนิท)
– ทหารเรือเรียก “นายธง” (ภาษาปากมักเรียกตัดสั้นเหลือแค่ “ธง”)
– ทหารอากาศ เรียก “ทส.” เหมือนทหารบก*
– ตำรวจเรียก “นายเวร”
มักรู้สึกกันว่าผู้ที่ทำหน้าที่เช่นนี้เป็นคนสำคัญเพราะอยู่ใกล้นาย ตัวผู้นั้นเองถ้าไม่มีคุณธรรมสำนึกคอยกำกับไว้บางทีก็เลยพลอยทำตัวสูงใหญ่ตามนายไปด้วย พอพ้นหน้าที่หรือไม่มีนาย ก็เลยหมดสง่าราศี นับว่าเป็นตำแหน่งที่มีทั้งคุณและโทษ
วางตัวดี ก็มีคุณ
วางตัวไม่ดี ก็มีโทษ
…………..
ดูก่อนภราดา!
: สูงเพราะบารมีนาย อาจไม่ทันตายก็ตกต่ำ
: สูงเพราะบารมีธรรม ไม่ตกต่ำแม้ตัวจะตาย
—————–
(ได้คำจากความคิดเห็นของ เจตส์ ตรังเฅ-ใหม่ เจตส์)
#บาลีวันละคำ (2,207)
28-6-61