สหาย (บาลีวันละคำ 2,724)
สหาย
คำง่ายๆ แต่เป็นยาก
ภาษาไทยอ่านว่า สะ-หาย
ภาษาบาลีอ่านว่า สะ-หา-ยะ
“สหาย” รากศัพท์มาจาก –
(1) สห + อยฺ ธาตุ
(ก) “สห” (สะ-หะ) เป็นคำบุรพบทและคำอุปสรรค แปลว่า พร้อม, กับ, พร้อมด้วย
พจนานุกรมบาลี-อังกฤษ แปล “สห” ว่า conjunction with, together, accompanied by (ต่อเนื่อง, ด้วยกัน, ติดตามด้วย)
(ข) สห + อยฺ (ธาตุ = ไป, เป็นไป) + อ ปัจจัย, “ลบสระหน้า ทีฆะสระหลัง” คือลบ อะ ที่ (ส)-ห และทีฆะ อะ ที่ อ-(ยฺ) เป็น อา (อย > อาย)
ทบทวนไวยากรณ์ง่ายๆ :
สูตร “ลบสระหน้า ทีฆะสระหลัง” ปกติจะหมายถึง ธาตุ + ปัจจัย : ธาตุอยู่หน้า = สระหน้า ปัจจัยอยู่หลัง = สระหลัง
“ลบสระหน้า” หมายถึง ลบสระที่พยางค์ท้ายของธาตุ
“ทีฆะสระหลัง” หมายถึง ทีฆะ (ยืดเสียง) สระที่พยางค์แรกของปัจจัย (อะ เป็น อา, อิ เป็น อี, อุ เป็น อู)
แต่ในที่นี้ –
“ลบสระหน้า” หมายถึง ลบสระที่พยางค์ท้ายของบทหน้า (ในที่นี้คือ “สห” : ลบ อะ ที่ –ห)
“ทีฆะสระหลัง” หมายถึง ทีฆะ อะ ที่ อ-(ยฺ) ธาตุเป็น อา : อยฺ > อาย
: สห + อย = สหยฺ + อ = สหย > สหาย แปลตามศัพท์ว่า “ผู้ไปร่วมกันในกิจทั้งหลาย”
(2) สห (คำบุรพบทและคำอุปสรรค = พร้อม, กับ, พร้อมด้วย) + อย (ความเสื่อมหรือความเจริญ), “ลบสระหน้า ทีฆะสระหลัง”
: สห + อย = สหย > สหาย แปลตามศัพท์ว่า “ผู้มีความเสื่อมหรือความเจริญร่วมกัน”
“สหาย” (ปุงลิงค์) หมายถึง สหาย, เพื่อน (companion, friend)
บาลี “สหาย” สันสกฤตก็เป็น “สหาย” รูปคำเดียวกัน
สํสกฤต-ไท-อังกฤษ อภิธาน บอกไว้ดังนี้ –
(สะกดตามต้นฉบับ)
“สหาย : (คำนาม) มิตร, อนุจร; ผู้อุปการะ; หงษ์ทองหรือสุวรรณหงษ์, ‘ห่านเทศ’ ก็เรียก; a companion, a follower; a patron or helper; the ruddy goose.”
ในภาษาไทย พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า –
“สหาย : (คำนาม) เพื่อนร่วมทุกข์ร่วมสุข. (ป., ส.).”
อภินันทนาการ :
ในพระไตรปิฎกมีข้อความที่กล่าวถึง “สหาย” ไว้หลายแห่ง ขอยกบางแห่งมาเป็นอภินันทนาการแก่ญาติมิตรเป็นอลังการแห่งความคิดและประดับปัญญา ดังนี้ –
(สำนวนแปลเป็นของผู้เขียนบาลีวันละคำ ซึ่งจะไม่เหมือนกับสำนวนในพระไตรปิฎกแปล)
…………..
มิตฺโต หเว สตฺตปเทน โหติ
สหาโย ปน ทฺวาทสเกน โหติ
มาสฑฺฒมาเสน จ ญาติ โหติ
ตตุตฺตรึ อตฺตสโมปิ โหติ.
เดินทางร่วมกัน 7 ก้าว* ชื่อว่าเป็นมิตร
เดินทางร่วมกัน 12 ก้าว* ชื่อว่าเป็นสหาย
อยู่ร่วมกันเดือนหนึ่งหรือกึ่งเดือน ชื่อว่าเป็นญาติ
นานกว่านั้นขึ้นไป ชื่อว่าร่วมเป็นร่วมตายกัน
ที่มา: กาฬกัณณิชาดก เอกนิบาต พระไตรปิฎกเล่ม 27 ข้อ 83
*อรรถกถาอธิบายว่า 7 ก้าว ทำให้มีเยื่อใยต่อกัน 12 ก้าว ทำให้ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน
…………..
อตฺถมฺหิ ชาตมฺหิ สุขา สหายา.
สหายคือผู้ช่วยแก้ปัญหาเมื่อเกิดความจำเป็น
ที่มา: นาควรรค ธรรมบท พระไตรปิฎกเล่ม 25 ข้อ 33
…………..
สหาโย อตฺถชาตสฺส
โหติ มิตฺตํ ปุนปฺปุนํ
สยํ กตานิ ปุญฺญานิ
ตํ มิตฺตํ สมฺปรายิกํ.
เมื่อเกิดความจำเป็น
สหายเป็นเพื่อนได้เสมอ (ในชาตินี้)
บุญที่ทำไว้เอง
เป็นเพื่อนได้ในชาติหน้า
ที่มา: มิตตสูตร สังยุตนิกาย สคาถวรรค พระไตรปิฎกเล่ม 15 ข้อ 163
…………..
นตฺถิ พาเล สหายตา.
คนพาลเป็นเพื่อนกับใครไม่ได้
ที่มา:
– โกสัมพีขันธกะ วินัยปิฎก มหาวรรค ภาค 2 พระไตรปิฎกเล่ม 5 ข้อ 247
– อุปกิเลสสูตร มัชฌิมนิกาย อุปริปัณณาสก์ พระไตรปิฎกเล่ม 14 ข้อ 443
– พาลวรรค ธรรมบท พระไตรปิฎกเล่ม 25 ข้อ 15
…………..
คัมภีร์สารัตถปกาสินี ภาค 1 อรรถกถาสังยุตนิกาย อธิบายความในชราวรรค เทวตาสังยุต กล่าวถึง “มิตร-สหาย” ไว้ตอนหนึ่งน่าฟัง ท่านว่าดังนี้ —
…………..
อุปฺปนฺนกิจฺจสฺส โย ตํ กิจฺจํ วหติ นิตฺถรติ โส กิจฺเจสุ สห อยนภาเวน สหาโย มิตฺตํ สุราปานาทิสหายา ปน น มิตฺตา.
เมื่อมีกิจธุระเกิดขึ้น ผู้ใดช่วยนำพากิจนั้น คือช่วยทำให้สำเร็จ ผู้นั้นชื่อว่า “สหาย” เพราะร่วมด้วยช่วยกันไปในกิจการงาน สหายเช่นนั้นแหละชื่อว่า “มิตร” ส่วนสหายในเรื่องอื่น เช่นสหายในวงเหล้าเป็นต้น หาใช่มิตรไม่
ที่มา: สารัตถปกาสินี ภาค 1 หน้า 128-129
…………..
ดูก่อนภราดา!
: เป็นเพื่อนที่ดีก่อน
: แล้วท่านจะได้เพื่อนที่ดี
#บาลีวันละคำ (2,724)
27-11-62