ฤษี – ฤๅษี (บาลีวันละคำ 2,912)
ฤษี – ฤๅษี ภาษาบาลีว่าอย่างไร
“ฤษี” อ่านว่า รึ-สี
“ฤๅษี” อ่านว่า รือ-สี
ใครที่เรียนบาลีหรือพอรู้บาลีสันสกฤตอยู่บ้างย่อมจะตอบได้ว่า “ฤษี – ฤๅษี” ภาษาบาลีว่าอย่างไร
แต่ถ้ายังไม่รู้อะไรเลย วิธีที่ง่ายที่สุดที่จะหาคำตอบก็คือ เปิดพจนานุกรม
พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ดังนี้ –
(1) ฤษี : (คำนาม) ฤๅษี, นักบวชพวกหนึ่ง มีมาก่อนพุทธกาล สละบ้านเรือนออกไปบําเพ็ญพรตแสวงหาความสงบ. (ส. ฤษี ว่า ผู้เห็น, ผู้แต่งพระเวท; ป. อิสิ).
(2) ฤๅษี : (คำนาม) ฤษี, นักบวชพวกหนึ่ง มีมาก่อนพุทธกาล สละบ้านเรือนออกไปบําเพ็ญพรตแสวงหาความสงบ.
ที่คำว่า “ฤษี” พจนานุกรมฯ บอกไว้ในวงเล็บตอนท้ายว่า “ป. อิสิ”
“ป.” ย่อมาจาก “ปาลิ” คือ ภาษาบาลี
เป็นอันได้คำตอบว่า “ฤษี – ฤๅษี” ภาษาบาลีว่า “อิสิ”
“ฤษี” พจนานุกรมฯ บอกว่าคือ “ฤๅษี”
“ฤๅษี” พจนานุกรมฯ บอกว่าคือ “ฤษี”
คำนิยามความหมายก็ตรงกันทุกคำ
ถ้า “ฤษี” บาลีเป็น “อิสิ” (ตามที่พจนานุกรมฯ บอก)
“ฤๅษี” บาลีก็ต้องเป็น “อิสิ” ด้วยเช่นกัน
“อิสิ” แปลว่าอะไร คราวนี้ต้องใช้ความรู้ทางภาษาบาลี
“อิสิ” อ่านเท่าตัวว่า อิ-สิ รากศัพท์มาจาก อิสฺ (ธาตุ = แสวงหา; ปรารถนา; ไป) + อิ ปัจจัย
: อิสฺ + อิ = อิสิ (ปุงลิงค์) แปลตามศัพท์ว่า (1) “ผู้แสวงหาคุณธรรม” (2) “ผู้ปรารถนาสิวะคือพระนิพพาน” (3) “ผู้ไปสู่สุคติ”
พจนานุกรมบาลี-อังกฤษ แปล “อิสิ” ว่า a holy man, one gifted with special powers of insight & inspiration, an anchoret, a Seer, Sage, Saint (คนศักดิ์สิทธิ์, ผู้มีพรสวรรค์เกี่ยวกับกำลังภายใน และผู้มีตาทิพย์, โยคี, ฤๅษี, มุนี, นักบุญ)
ในการพูดกันทั่วไปในภาษาไทย แทบจะไม่มีใครรู้จักคำว่า “อิสิ” แต่พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 ก็ยังอุตส่าห์เก็บคำว่า “อิสิ” และ “อิสี” ไว้ด้วย บอกไว้ว่า –
“อิสิ, อิสี : (คำนาม) ผู้แสวงคุณความดี, ฤษี, ผู้ถือบวช. (ป.; ส. ฤษิ).”
บาลี “อิสิ” สันสกฤตเป็น “ฤษิ”
สํสกฤต-ไท-อังกฤษ อภิธาน บอกไว้ดังนี้ –
(สะกดตามต้นฉบับ)
“ฤษิ : (คำนาม) พระฤษี [พระฤษีมีอยู่ ๗ จำพวก คือ สฺรุตรฺษิ, กานฺทรฺษิ, ปรมรฺษิ, มหรฺษิ, ราชรฺษิ, พฺรหฺมรฺษิ, เทวรฺษิ]; พระเวท; แสง; a sanctified personage [there are seven orders of these saints, as Srutarshi, Kāntarshi, Paramrshi, Maharshi, Rājarshi, Brahmarshi, and Devarshi]; a Veda; a ray of light.”
ระวัง! อย่าเขียนผิด :
“ฤษี – ฤๅษี” ภาษาบาลีว่าอย่างไร แก้ปัญหาได้ไม่ยาก แต่ที่แก้ยากมากก็คือ คนไทยเราเวลาเขียนคำว่า “ฤๅษี” (รือ-สี) มักเขียนเป็น “ฤาษี”
โปรดดูให้ดี “ฤาษี” กับ “ฤๅษี” ต่างกันตรงไหน
เครื่องหมายหลังตัว “ฤ” เรามักเข้าใจกันว่าเป็นสระ อา (-า) ดังนั้น พอเขียนคำว่า “ฤๅษี” เราก็เลยเขียนเป็น “ฤาษี”
รวมไปถึงคำว่า “ฤๅ” (รือ) เราก็มักเขียนเป็น “ฤา” ไปด้วย
เปิดพจนานุกรมหาความรู้กันก่อน
พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ดังนี้ –
(1) ฤๅ ๑ : เป็นรูปสระในภาษาสันสกฤต ซึ่งเป็นเสียงยาวของ ฤ เมื่อไทยนำมาใช้ออกเสียงเป็น รือ รี เช่น ฤๅษี [รือสี] ตฤๅ [ตฺรี].
(2) ฤๅ ๒ : (คำวิเศษณ์) หรือ, อะไร, ไม่ใช่; โดยมากใช้ในบทร้อยกรอง เช่น กวีฤๅแล้งแหล่งสยาม.
เป็นอันได้ความรู้ว่า “ฤๅ” เป็นรูปสระในภาษาสันสกฤต ออกเสียงเป็น รือ
คำไทยที่มีความหมายว่า หรือ, อะไร, ไม่ใช่ ในภาษาไทยเก่าหรือในบทร้อยกรอง เราก็เขียนเป็น “ฤๅ” ด้วย
ข้อที่ต้องทราบก็คือ “ฤๅ” (รือ) ตัวนี้ ไม่ใช่ ฤ + สระ า
เครื่องหมาย –ๅ เช่นนี้ไม่ใช่สระ อา หางยาว อย่างที่บางคนชอบเรียก แต่เป็นส่วนควบหรือตัวเต็มๆ ของตัว “ฤๅ”
เหมือนเราเขียน ญ หญิง ต้องมีเชิง หรือ ฐ ฐาน ก็ต้องมีเชิง
เชิงนั้นคือส่วนควบหรือตัวเต็มๆ ของ ญ และ ฐ ฉันใด
เครื่องหมาย –ๅ ก็เป็นส่วนควบหรือตัวเต็มๆ ของ “ฤๅ” ฉันนั้น
เพราะฉะนั้น คำว่า “ฤๅ” ต้องเขียนอย่างนี้
ถ้าเขียน “ฤาษี” หรือ “ฤา” (ฤ + สระ า) แบบนี้คือเขียนผิด
เคยได้ยินคำแก้ตัวว่า เครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ เช่น คอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์บางรุ่นบางยี่ห้อไม่สามารถพิมพ์เครื่องหมาย “-ๅ” (สระ อา หางยาว) ได้เพราะผู้ผลิตไม่ได้ตั้งโปรแกรมให้มีเครื่องหมายชนิดนี้
คำแก้ตัวนี้ฟังขึ้น เพราะเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ที่บกพร่อง-หรือเรียกให้สุภาพว่ามีข้อจำกัด-เช่นนี้มีอยู่จริง
แต่การแก้ตัวที่ฟังขึ้นเช่นนี้ก็ไม่เป็นเหตุให้การเขียน “ฤๅ” เป็น “ฤา” กลายเป็นสิ่งที่ถูกต้องขึ้นมาได้เลย
วิธีแก้ไขที่ถาวรก็คือ เปลี่ยนเครื่องมือใหม่ หรือติดตั้งโปรแกรมหรือใช้วิธีพิเศษให้สามารถพิมพ์เครื่องหมาย “-ๅ” ได้
แต่ถ้าสุดวิสัยจริงๆ ยังจำเป็นจะต้องพิมพ์ “ฤๅ” เป็น “ฤา” ทั้งที่รู้ว่าผิด ก็ควรบอกกล่าวกำกับไว้กับที่จำต้องผิดนั้น เพื่อให้ผู้อ่านทราบ เป็นการสกัดกั้นความเข้าใจผิดไว้ตั้งแต่ต้นทาง ทั้งเป็นการแสดงความรับผิดชอบต่อการใช้ภาษาตามควรแก่วิสัยที่สาธุชนจะพึงกระทำได้
…………..
ดูก่อนภราดา!
: คนฉลาด อ้างความจำเป็นเพื่อหาวิธีแก้ไข
: คนจัญไร อ้างความจำเป็นเพื่อจะได้ทำผิดต่อไปอีก
#บาลีวันละคำ (2,912)
2-6-63