หัตถศึกษา (บาลีวันละคำ 3,159)
หัตถศึกษา
ไม่ใช่ศึกษาเรื่องมือ?
อ่านว่า หัด-ถะ-สึก-สา
ประกอบด้วยคำว่า หัตถ + ศึกษา
(๑) “หัตถ”
บาลีเป็น “หตฺถ” (หัด-ถะ) รากศัพท์มาจาก –
(1) หสฺ (ธาตุ = ร่าเริง) + ถ ปัจจัย, แปลง สฺ ที่สุดธาตุเป็น ตฺ (หสฺ > หตฺ)
: หสฺ + ถ = หสฺถ > หตฺถ แปลตามศัพท์ว่า “อวัยวะเป็นเครื่องเล่นสนุก” (เช่นใช้ปรบ ฟ้อนรำ) = มือ “อวัยวะเป็นที่เล่นสนุก” = ศอก
(2) หนฺ (ธาตุ = เบียดเบียน) + ถ ปัจจัย, แปลง นฺ ที่สุดธาตุเป็น ตฺ (หนฺ > หตฺ)
: หนฺ + ถ = หนฺถ > หตฺถ แปลตามศัพท์ว่า (1) “อวัยวะเป็นเครื่องเบียดเบียนอวัยวะอื่น” (เช่นเกา ตบตี) = มือ (2) “เป็นที่ไปถึงแห่งอวัยวะทั้งหลาย” (หมายถึงมือเอื้อมถึง) = มวยผม
(3) หรฺ (ธาตุ = นำไป) + ถ ปัจจัย, แปลง รฺ ที่สุดธาตุเป็น ตฺ (หรฺ > หตฺ)
: หรฺ + ถ = หรฺถ > หตฺถ แปลตามศัพท์ว่า “อวัยวะเป็นเครื่องนำของไป” = มือ
(4) หตฺถ (มือ) + ณ ปัจจัย, ลบ ณ
: หตฺถ + ณ = หตฺถณ > หตฺถ แปลตามศัพท์ว่า “อวัยวะที่เหมือนมือเพราะทำหน้าที่มือให้สำเร็จประโยชน์ได้” = งวงช้าง
พจนานุกรมบาลี-อังกฤษ แปล “หตฺถ” (ปุงลิงค์) ดังนี้ –
(1) hand (มือ)
(2) the hand as measure, a cubit (มือในฐานเป็นเครื่องวัด, ระยะหนึ่งศอก)
(3) a handful, a tuft of hair (เต็มมือ, ปอยผม)
ในภาษาไทย พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า –
“หัตถ-, หัตถ์ : (คำนาม) มือ; ศอกหนึ่ง; งวงช้าง. (ป.; ส. หสฺต).”
(๒) “ศึกษา”
บาลีเป็น “สิกฺขา” (สิก-ขา) รากศัพท์มาจาก สิกฺขฺ (ธาตุ = ศึกษา, เรียนรู้) + อ (อะ) ปัจจัย + อา ปัจจัยเครื่องหมายอิตถีลิงค์
: สิกฺข + อ = สิกฺข + อา = สิกฺขา แปลตามศัพท์ว่า “ข้อปฏิบัติอันบุคคลพึงศึกษา”
พจนานุกรมบาลี-อังกฤษ แปล “สิกฺขา” ไว้ดังนี้ –
(1) study, training, discipline (การศึกษา, การฝึก, สิกขาหรือวินัย)
(2) [as one of the 6 Vedāngas] phonology or phonetics, combd with nirutti [interpretation, etymology] ([เป็นหนึ่ีงในเวทางค์ 6] วิชาว่าด้วยเสียง หรือการอ่านออกเสียงของคำต่าง ๆ, รวมกับ นิรุตฺติ [การแปลความหมาย, นิรุกติ])
ความหมายของ “สิกขา” ในภาษาไทย พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า –
“สิกขา : (คำนาม) ข้อที่จะต้องศึกษา, ข้อที่จะต้องปฏิบัติ ได้แก่ ศีล เรียกว่า ศีลสิกขา สมาธิ เรียกว่า จิตสิกขา และปัญญา เรียกว่า ปัญญาสิกขา รวมเรียกว่า ไตรสิกขา; การศึกษา, การเล่าเรียน, เช่น ปริยัติสิกขา ปฏิบัติสิกขา. (ป.; ส. ศิกฺษา).”
บาลี “สิกฺขา” สันสกฤตเป็น “ศิกฺษา”
สํสกฤต-ไท-อังกฤษ อภิธาน บอกความหมายของ “ศิกฺษ” อันเป็นรากศัพท์ (ธาตุ) ของ “ศิกฺษา” ไว้ดังนี้ –
“ศิกฺษ : (ธาตุ) เรียน, ศึกษาศาสตร์หรือความรู้; to learn, to acquire science or knowledge.”
และบอกความหมายของ “ศิกฺษา” ไว้ดังนี้ –
“ศิกฺษา : (คำนาม) ‘ศึกษา,’ หนึ่งในจำนวนหกแห่งเวทางค์ หรือ ศาสตร์อันติดต่อกับพระเวท; การศึกษา, การเล่าเรียน; ความเสงี่ยมในมรรยาท, อนหังการ; one of the six Vedāngas or sciences attached to the Vadas; learning, study; modesty, humility.”
ในภาษาไทย “สิกฺขา” นิยมใช้อิงรูปสันสกฤต คือ “ศิกฺษา” แล้วเสียงกลายเป็น “ศึกษา” และพูดทับศัพท์ว่า “ศึกษา” จนเข้าใจกันทั่วไป
พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า –
“ศึกษา : (คำนาม) การเล่าเรียน ฝึกฝน และอบรม. (ส. ศิกฺษา; ป. สิกฺขา).”
หัตถ + ศึกษา = หัตถศึกษา แปลว่าอะไร หมายถึงอะไร?
ถ้าเอาคำว่า “หัตถกรรม” มาเทียบ พจนานุกรมฯ บอกว่า “หัตถกรรม” คือ “งานช่างที่ทำด้วยมือ โดยถือประโยชน์ใช้สอยเป็นหลัก”
ถ้าเอาคำว่า “หัตถศิลป์” มาเทียบ พจนานุกรมฯ บอกว่า “หัตถศิลป์” คือ “ศิลปะในการผลิตสิ่งต่าง ๆ ด้วยมือ โดยถือความงามเป็นหลัก”
ถ้าเอาคำว่า “หัตถศาสตร์” มาเทียบ พจนานุกรมฯ บอกว่า “หัตถศาสตร์” คือ “วิชาเกี่ยวกับการทำนายจากเส้นลายมือ”
พอมาถึง “หัตถศึกษา” พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า –
“หัตถศึกษา : (คำนาม) การศึกษาที่เน้นในเรื่องการประดิษฐ์สิ่งต่าง ๆ ด้วยมือ.”
“หัตถศึกษา” เป็นคำที่อยู่ในชุดของ “-ศึกษา” อีก 3 อย่าง คือ –
“พลศึกษา” : การศึกษาที่จะนำไปสู่ความเจริญงอกงามและพัฒนาการทางร่างกาย
“พุทธิศึกษา” : การศึกษาที่เน้นในเรื่องการสอนให้เกิดความรู้ความคิดอย่างมีเหตุผล
“จริยศึกษา” : การศึกษาเกี่ยวกับความเจริญงอกงามในทางความประพฤติและการปฏิบัติตน เพื่อให้อยู่ในแนวทางของศีลธรรมและวัฒนธรรม (อ. moral education)
อภิปรายขยายความ :
จะเห็นได้ว่า ความหมายของคำที่ขึ้นต้นด้วย “หัตถ-” ในภาษาไทยผิดแปลกแตกต่างกันไปในแต่ละคำ คือ “หัตถ-” ไม่ได้แปลตรงตัวว่า “มือ” ล้วนๆ อย่างเดียว แต่บางคำหมายถึง สิ่งที่ทำด้วยมือ บางคำหมายถึง สิ่งที่ปรากฏอยู่ที่มือ
เฉพาะคำว่า “หัตถศึกษา” คำว่า “หัตถ-” ไม่ได้หมายถึง “สิ่งที่ทำด้วยมือ” หรือ “สิ่งที่ปรากฏอยู่ที่มือ” หากแต่หมายถึง “การประดิษฐ์สิ่งต่าง ๆ ด้วยมือ” คือเน้นไปที่ “การประดิษฐ์ด้วยมือ” หรือ “การใช้มือประดิษฐ์”
พจนานุกรมทั่วไปบอกว่า “หัตถศึกษา” แปลมาจากคำอังกฤษว่า handicraft education
ศัพท์บัญญัติของราชบัณฑิตยสถาน (ราชบัณฑิตยสภา) บอกว่า handicraft บัญญัติเป็นคำไทยว่า “หัตถกรรม”
พจนานุกรมอังกฤษ-บาลี แปล handicraft เป็นบาลีดังนี้:
(1) hatthakamma หตฺถกมฺม (หัด-ถะ-กำ-มะ) = งานที่ต้องใช้มือทำ, งานที่ต้องใช้แรงงาน
(2) sippa สิปฺป (สิบ-ปะ) = งานฝีมือ, ความสามารถทำกิจอย่างใดอย่างหนึ่งได้โดยใช้ฝีมือ
เมื่อประมวลความหมายของศัพท์ดูแล้ว handicraft education ก็น่าจะบัญญัติเป็นคำไทยว่า “หัตถกรรมศึกษา” “หัตถศิลปศึกษา” หรือ “หัตถประดิษฐศึกษา” มากกว่าที่จะเป็น “หัตถศึกษา”
เพราะคำว่า “หัตถศึกษา” อาจถูกคนพาซื่อแปลความหมายซื่อๆ ว่า “ศึกษาเรื่องมือ” เช่น ศึกษาว่า –
มือของคนมีบุญมีลักษณะอย่างนี้
มือของเศรษฐีมีลักษณะอย่างนี้
มือของคนสุขภาพดีมีลักษณะอย่างนี้
มือของคนขยันมีลักษณะอย่างนี้
มือของคนเกียจคร้านมีลักษณะอย่างนี้
มือของคนจะได้เป็นใหญ่เป็นโตมีลักษณะอย่างนี้
ฯลฯ
และหลักวิชาเช่นนี้อาจจัดเข้าเป็น “ศาสตร์” สำคัญศาสตร์หนึ่งในบรรดาศาสตร์ต่างๆ ในโลก
นี่เป็นเพียงข้ออภิปรายเพื่อให้เกิดความร่าเริงทางภาษาเท่านั้น โปรดอย่าถือเป็นเรื่องจริงจัง
…………..
ดูก่อนภราดา!
: มือที่ขยันทำชั่ว
: น่ากลัวกว่ามือที่ขี้เกียจทำดี
#บาลีวันละคำ (3,159)
4-2-64