เรื่องสั้นของทองย้อย

ความน่านับถือของคุณดุสิต


คนเก่าว่ากันมาว่า วัดไหนไม่มี หมา ๑ ไก่ ๑ คนบ้า ๑ วัดนั้นไม่ใช่วัดแท้

วัดมหาธาตุ ราชบุรี สำนักเดิมของผมมีครบตามสูตรของวัดที่เป็นวัดแท้

โดยเฉพาะคนบ้า มีสืบทอดกันมาไม่ค่อยขาดสาย

“คนบ้า” ในที่นี้หมายความว่า คนไม่ปกติ และหมายรวมถึงคนที่ไม่มีหลักฐานว่าเป็นใครมาจากไหน หรือเคยมีหลักฐานแต่ปัจจุบันไม่มีแล้ว และไม่มีอาชีพหรือหน้าที่การงานเป็นหลักแหล่ง แต่ดำรงชีพอยู่ได้ด้วยความเอื้อเฟื้อเกื้อกูลของเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน

ที่วัดมหาธาตุ ตอนนี้มีคนชนิดดังกล่าวนี้อยู่ ๒ คน เรียกกันว่า “ไอ้ชิด” คนหนึ่ง กับ “ไอ้เป้” อีกคนหนึ่ง 

ทั้งสองคนไม่ใช่คนบ้าชนิดที่พูดจาไม่รู้เรื่อง 

เพียงแต่ว่าสติปัญญาค่อนไปข้างต่ำ 

มาจากไหนไม่รู้ แต่กินอยู่หลับนอนอยู่ในบริเวณวัดหรือบ้านที่อยู่ข้างวัด 

ช่วยงานวัดประเภทเก็บ กวาด แบก ขนได้ดี 

ไหว้วานขอร้องขอแรงได้ตามควรแก่เหตุ 

ปรากฏตัวอยู่ในวัดเสมอเมื่อมีกิจกรรมพิเศษในโอกาสต่างๆ จนเป็นที่รู้กันว่า “อยู่วัดมหาธาตุ”

สิ่งหนึ่งที่น่าสังเกตคือ ทั้ง “ไอ้ชิด” และ “ไอ้เป้” ไม่เคยมีพฤติการณ์มือไวและเสพสิ่งมึนเมาให้ปรากฏ

————

เฉพาะ “ไอ้ชิด” ตัวใหญ่ ผิวดำ ปากหนา หน้าตาอัปลักษณ์ กะโหลกยุบไปแถบหนึ่งด้วยสาเหตุอะไรตั้งแต่เมื่อไรยังไม่เคยได้สอบถาม 

ผมจำได้ว่าเขาเคยถีบสามล้อมาก่อนเหมือนคนปกติทั่วไป ต่อมาก็หยุดบ้าง ถีบบ้าง แล้วก็หยุดยาว และในที่สุดก็หยุดถาวร 

แรกๆ ที่หยุดก็ยังรักษารถสามล้อไว้ได้ อาศัยนอนบนสามล้อบ้าง ต่อมาสามล้อก็ค่อยๆ พังไป จนในที่สุดก็อันตรธาน เหลือแต่ตัว

ผมเคยคุยกับเขาถึงความเป็นมา เขาบอกว่า เขาชื่อ “ดุสิต” (บอกนามสกุลด้วย) ไม่รู้ว่าคนเรียกเขาว่า “ไอ้ชิด” มาตั้งแต่เมื่อไรและด้วยเหตุใด ญาติๆ เขาก็ยังมีอยู่แถวๆ นี้

ตั้งแต่นั้นมา ผมก็เรียกเขาว่า “คุณดุสิต” เสมอ ดูเหมือนจะมีผมคนเดียวที่เรียกเขาเช่นนั้น

————-

เมื่อหมดรถสามล้อแล้ว “คุณดุสิต” ก็รับทำงานออกแรงประเภทขุด ยก แบก เข็นทั่วไป ตามแต่จะมีคนว่าจ้าง และป้วนเปี้ยนอยู่แถวๆ วัด บางวันก็ทำหน้าที่จราจรหน้าประตูโรงเรียนเทศบาลที่อยู่ในบริเวณวัด ได้รางวัลเล็กๆ น้อยๆ จากครู

ที่วัดมีงานซ่อมเสนาสนะอยู่เสมอ ดังนั้น เขาจึงมีโอกาสออกแรงช่วยแบกขนไม่ค่อยขาด

เวลาไปวัด ถ้าเจอเขา ผมก็จะให้เงินเขาเป็นประจำ ครั้งละ ๒๐ บาท ไม่มากกว่านี้ แต่อาจน้อยกว่านี้ตามสถานการณ์ แต่ ๒๐ บาทเป็นจำนวนยืนพื้น

ผมเคยให้เขา ๑ บาทเพราะมีติดกระเป๋าแค่นั้น เขาก็ไม่ว่าอะไร กลับพูดน้ำเสียงตลกๆ ว่า 

“บาทเดี๋ยว”

———–

วันหนึ่ง ผมเดินออกกำลังตอนเช้า เข้าไปในวัด ขึ้นไปไหว้พระบนวิหารหลวง เสร็จแล้วก็เดินออกทางประตูกำแพงด้านหน้า พ้นจากนั้นไปก็เป็นบริเวณโรงเรียนเทศบาล 

ผมเห็น “คุณดุสิต” เกร่อยู่แถวนั้นพอดี 

ผมล้วงกระเป๋าควานหาสตางค์ มีเหรียญ ๑๐ บาท สองอัน กับเหรียญ ๕ บาทหนึ่งอันติดมือขึ้นมา ก็เลยตั้งใจว่าวันนี้จะให้เขาทั้งหมด

พอเห็นผม เขาก็เอ่ยทักเหมือนทุกครั้ง

“สวัสดีคุณลุง วันนี้แต่งตัวหล่อ”

ปกติผมไม่ใส่ใจกับคำทักของเขา เพราะรู้ว่าเขาพูดไปอย่างนั้นเอง 

ผมเดินเข้าไปหาเขา แบมือให้เขาเห็น

เขาหยิบเหรียญ ๑๐ บาททีละเหรียญไปจากมือผม แล้วพูดหนักแน่นโดยไม่หยิบเหรียญ ๕ บาท

“ยี่สิบบาท พอ”

ผมนับถือเขาขึ้นมาจับใจ

เขารู้จักพอ ในขณะที่คนปกติอีกมากมายไม่เคยรู้จัก

………………………..

อ่านเพิ่มเติม: กำไรของ “คุณเป้”

https://www.facebook.com/tsangsinchai/posts/923575531069518

………………………..

นาวาเอก ทองย้อย แสงสินชัย

๒๕ สิงหาคม ๒๕๕๗

ดูโพสต์ในเฟซบุ๊กของครูทองย้อย

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *