ทำไม่ได้: เพราะไม่ได้ทำ
มีอะไรหลายอย่างที่เราคิดว่าทำไม่ได้ แต่ไม่ได้คิดต่อไปว่าทำไมจึงทำไม่ได้
ตัวอย่างทางธรรม เช่น ทำใจให้เห็นคุณค่าของคนขอบคุณ
เมื่อเราทำประโยชน์อะไรสักอย่างให้ใครสักคน แล้วเขาหรือเธอคนนั้นเอ่ยปาก “ขอบคุณ” เรา เรารู้สึกอย่างไร
ส่วนมากก็รู้สึกเพียงแค่-รับรู้
ถอดเป็นคำพูดที่อยู่ลึกๆ ก็คือ-ก็เป็นหน้าที่ที่มึงจะต้องขอบคุณกูนี่หว่า ไม่เห็นจะมีอะไรมากกว่านี้ แค่รับรู้ก็ดีเท่าไรแล้ว
คนส่วนมากจะไม่ได้มองไปถึงคุณความดีของคนขอบคุณ คือไม่ได้มองว่าที่เขาขอบคุณนั้นเป็นคุณธรรมความดีที่ออกมาจากใจของเขา
เพราะความรู้สึกของเรากำลังลำพองใจว่า-เรานี่ต่างหากที่เป็นฝ่ายมีคุณธรรมความดีเพราะได้ช่วยเหลือเขา เราก็จึงมองไม่เห็นคุณธรรมความดีของเขาที่ขอบคุณเรา
เป็นมุมมองมุมคิดเล็กๆ ที่คนส่วนมากไม่มอง และแม้กระทั่งไม่เห็นความจำเป็นอะไรที่จะต้องมองแบบนั้น
แต่โปรดอย่าลืมว่า-การมองเห็นความดีของผู้อื่นนั้น เนื้อแท้ก็คือ-เป็นความดีของผู้มองนั่นเอง
ความดีของผู้มอง ก็คือ การมองเห็นความดีของผู้อื่น ซึ่งหลายคนมองไม่เป็นเห็นไม่ได้
มองเห็นความดีของผู้อื่น-ลองหัดทำดู ก่อนที่จะบอกว่าทำไม่ได้ หรือปล่อยให้ด้านชาไปถึงจนขั้นเห็นว่า-ไม่เห็นจำเป็นจะต้องทำ
……………….
อีกตัวอย่างหนึ่ง
เวลานึกอยากจะปฏิบัติบำเพ็ญธรรมะอะไรสักอย่าง ที่เห็นใครๆ เขาทำกัน เราก็มักจะบอกตัวเองว่า-เราทำแบบเขาไม่ได้ (หรืออย่างฟังดูดีขึ้นมานิดก็-ยังทำไม่ได้ ซึ่งมีนัยว่าตอนนี้ยังทำไม่ได้ แต่ต่อไปอาจจะทำได้)
ถ้าลองตรวจสอบดูให้รอบคอบ จะเห็นความจริงว่า ที่เราคิดว่าทำไม่ได้นั้น ไม่ใช่เพราะทำไม่ได้จริงๆ หากแต่ที่จริงแล้วเป็นเพราะ-ไม่ได้ทำ
คือถ้าได้ลงมือทำ หรือพยายามหาวิธีหาช่องทางที่จะทำ แล้วลองทำดู ก็จะพบว่า เราก็ทำได้นี่นะ
แรกๆ อาจจะดูไม่ดีนัก แต่น้อยคนนักที่ทำครั้งแรกก็ดีพร้อม เพราะฉะนั้น ก็จงลองทำดูอีก ค่อยๆ ปรับปรุงแก้ไขพัฒนาไปทีละน้อย
สุดท้ายแล้ว ที่เคยคิดว่าทำไม่ได้นั้น กลายเป็นว่า เราทำได้ และทำได้ดีทีเดียว
นาวาเอก ทองย้อย แสงสินชัย
๒๓ พฤษภาคม ๒๕๖๔
๑๑:๓๙