วันเนา ไม่ใช่วันเนาว์ (บาลีวันละคำ 1,061)
วันเนา ไม่ใช่วันเนาว์
ในช่วงเทศกาลสงกรานต์มีวันสำคัญอยู่ 3 วัน ที่ควรทำความเข้าใจ คือ :
(๑) วันมหาสงกรานต์
(๒) วันเนา
(๓) วันเถลิงศก
พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 ซึ่งเป็นฉบับล่าสุด ให้ความหมายของคำทั้งสามนี้แตกต่างจากพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2542 (ซึ่งถูกปรับปรุงแก้ไขมาเป็นฉบับพ.ศ.2554) ขอนำมาเทียบกันเพื่อเป็นการศึกษา ดังนี้ :
(๑) วันมหาสงกรานต์
– พจน.42 : มหาสงกรานต์ : (คำนาม) นักขัตฤกษ์ขึ้นปีใหม่อย่างเก่า เริ่มแต่พระอาทิตย์ย่างขึ้นสู่ราศีเมษ คือ วันที่ ๑๓ เมษายน เรียกว่า วันมหาสงกรานต์.
– พจน.54 : มหาสงกรานต์ : (คำนาม) วันขึ้นปีใหม่อย่างเก่า เริ่มแต่พระอาทิตย์ย่างขึ้นสู่ราศีเมษ เรียกว่า วันมหาสงกรานต์.
(๒) วันเนา
– พจน.42 : เนา ๔ : (คำนาม) วันที่อยู่ถัดจากวันมหาสงกรานต์ หน้าวันเถลิงศก ปรกติตรงกับวันที่ ๑๔ เมษายน เรียกว่า วันเนา.
– พจน.54 : เนา ๔ : (คำนาม) วันที่อยู่ถัดจากวันมหาสงกรานต์ หน้าวันเถลิงศก เรียกว่า วันเนา.
(๓) วันเถลิงศก
– พจน.42 : เถลิงศก : (คำนาม) วันที่ดวงอาทิตย์โคจรขาดจากราศีมีนขึ้นสู่ราศีเมษได้องศาหนึ่งแล้ว เรียกว่า วันเถลิงศกขึ้นจุลศักราชใหม่ อยู่ต่อจากวันเนา ปรกติตรงกับวันที่ ๑๕ เมษายน, ปัจจุบันหมายถึง วันขึ้นปีใหม่.
– พจน.54 : เถลิงศก : (คำกริยา) ขึ้นจุลศักราชใหม่. (คำนาม) เรียกวันขึ้นจุลศักราชใหม่ ซึ่งเป็นวันที่ดวงอาทิตย์โคจรขาดจากราศีมีนขึ้นสู่ราศีเมษได้องศาหนึ่งแล้ว อยู่ต่อจากวันเนา ว่า วันเถลิงศก, ปัจจุบันหมายถึง วันขึ้นปีใหม่.
ข้อสังเกต :
๑ คำอธิบายความหมายวันมหาสงกรานต์ ใช้คำว่า “พระอาทิตย์”
คำอธิบายความหมายวันเถลิงศก ใช้คำว่า “ดวงอาทิตย์”
๒ ในเมื่อแก้ไขคำอธิบายได้ ทำไมจึงไม่แก้คำว่า “พระอาทิตย์” กับ “ดวงอาทิตย์” ให้ตรงกันทั้งสองวัน คือจะใช้ “พระอาทิตย์” หรือ “ดวงอาทิตย์” ก็ควรใช้คำเดียวกันทั้งสองแห่ง
ความเข้าใจอย่างง่ายๆ เพื่อให้เห็นภาพรวมของวันทั้งสาม :
(๑) วันมหาสงกรานต์ คือวันที่ดวงอาทิตย์อยู่ในปีเก่าเป็นวันสุดท้ายแล้วย้ายออก
(๒) วันเนา เป็นวันที่อยู่ตรงกลางระหว่างปีเก่ากับปีใหม่ คือดวงอาทิตย์ย้ายออกจากปีเก่าเรียบร้อยแล้ว แต่ยังไม่ได้ย้ายเข้าไปอยู่ในปีใหม่ พูดให้เห็นภาพว่า ดวงอาทิตย์อยู่เฉยๆ ว่างๆ ยังไม่ได้ไปไหน
(๓) วันเถลิงศก คือวันที่ดวงอาทิตย์ย้ายเข้ามาอยู่ในปีใหม่เป็นวันแรก
คำว่า “เนา” แปลว่า “อยู่”
ตามความหมายนี้จะเห็นได้ว่า “วันเนา” เหมาะที่จะหมายถึง “วันอยู่” คือวันที่ดวงอาทิตย์ไม่ได้ไปไหน
“ไม่ได้ไปไหน” คือ “อยู่”
“อยู่” ก็คือ “เนา”
ดังนั้นคำนี้จึงควรเขียนว่า “วันเนา” ไม่ใช่ “วันเนาว์” ดังที่มักจะเขียนกันผิด
“เนาว์” เป็นคำไทยที่เปลี่ยนรูปมาจากคำบาลีว่า “นว” (นะ-วะ)
“นว” มีความหมาย 2 อย่าง คือ ใหม่ (new) และ จำนวนเก้า (nine) (ดูคำว่า “นว” บาลีวันละคำ (237) 1-1-56)
เมื่อออกเสียง “นะ” แล้วต่อด้วย “วะ” จะต้องห่อริมฝีปาก ทำให้เกิดเสียง “เอา” แทรกกลางเป็น นะ-เอา-วะ หรือ เนา-วะ และเสียง “วะ” จะแผ่วหายไปได้ง่าย เหลือแต่ “เนา” เราจึงใส่การันต์ที่ “ว” เป็น “เนาว์” อ่านว่า “เนา” ตามธรรมชาติของการเปล่งเสียง
สรุปว่า –
“วันเนา” = วันอยู่
ไม่ใช่ “วันเนาว์” = วันใหม่หรือวันเก้า
: ถึงวันต้องไป ยากที่จะรั้งไว้ให้อยู่
: เพราะฉะนั้น จงเตรียมวันอยู่ให้พร้อมที่จะไป
#บาลีวันละคำ (1,061)
14-4-58