บทความเกี่ยวกับศาสนา-ภาษา-สังคม

ออกกำลังรักษาวิถีชีวิตสงฆ์

การไม่ได้ออกกำลังในกิจวัตรปกตินั้นเวลานี้ลามเข้าไปถึงในวัดด้วย

การออกบิณฑบาตเป็นกิจวัตรที่เป็นการออกกำลังไปในตัว

เดี๋ยวนี้พระภิกษุส่วนหนึ่ง-โดยเฉพาะพระเถระและพระที่เป็นเจ้าคณะพระสังฆาธิการ-ไม่ได้ออกบิณฑบาตกันแล้ว 

มีเหตุผลเยอะแยะไปหมดที่แม้ชาวบ้านเองก็เห็นด้วย โดยเฉพาะวัดเมือง – จะให้พระผู้ใหญ่ไปเดินตามถนนไม่เหมาะ รถราขวักไขว่ไม่ปลอดภัย งานท่านก็มีมาก จะเอาเวลาที่ไหนไปออกบิณฑบาต ญาติโยมศรัทธาถวายภัตตาหารมีบริบูรณ์แล้วจะต้องออกบิณฑบาตทำไม ฯลฯ 

ออกบิณฑบาตนั้นท่านว่าต้องเดินไปตามลำดับบ้าน แต่เวลานี้แม้จะออกบิณฑบาตก็จริง แต่เกิดวิธียืนบิณฑบาตอยู่กับที่ แล้วก็เริ่มจะขยายไปเป็นการนั่งบิณฑบาตด้วยแล้ว พบเห็นได้ตามตลาดทั่วไป

เพี้ยนไปหมด

การกวาดอาวาสวิหารลานพระเจดีย์ เรียกสั้นๆ ว่า กวาดวัด เป็นกิจวัตรที่ท่านกำหนดไว้และทำกันมาแต่โบราณกาล ได้ออกกำลังด้วย ทำให้วัดสะอาดด้วย เป็นกิจวัตรที่วิเศษมากๆ

เชื่อหรือไม่ว่า เดี๋ยวนี้พระเณร-โดยเฉพาะวัดในเมืองหลวง-กวาดวัดไม่เป็นแล้ว ส่วนใหญ่จะไม่รู้และไม่รู้สึกกันแล้วว่าการกวาดวัดเป็นหน้าที่ของพระเณร 

วัดใหญ่ๆ หลายวัด ใช้วิธีจ้างคนกวาด หรือมีคนงานของวัดทำแทน

เพี้ยนไปหมด

บิณฑบาต-กวาดวัด แค่ ๒ อย่างนี้ก็เหลือเฟือแล้วที่จะทำให้ร่างกายของสมณะได้ออกกำลังอย่างเพียงพอในชีวิตประจำวัน

นอกจากนี้ ยังมีการกวาดถูกุฏิ ทำความสะอาดศาลา โบสถ์ วิหาร ขัดถูห้องน้ำ ที่ล้วนเป็นการออกกำลังทั้งสิ้น

แม้แต่การออกกำลังเล็กๆ-ซักสบงจีวรด้วยมือของตัวเอง ผมไม่แน่ใจว่าสมัยที่เครื่องซักผ้าราคาไม่แพงเช่นนี้ พระเณรทำกันหรือเปล่า

แม้ในกระบวนปฏิบัติบำเพ็ญภาวนาก็สามารถออกกำลังได้ ดังที่รู้กันคือ การเดินจงกรม 

จะเห็นได้ว่าวิถีชีวิตของพระ ท่านกำหนดวิธีออกกำลังไว้ให้แล้วอย่างเหมาะสมกลมกลืน

ปัญหาอยู่ที่พระเณรสมัยนี้ทำกันหรือเปล่า และตระหนักสำนึกกันหรือเปล่า

วัดแห่งหนึ่งในกรุง มีบริเวณกว้างขวางมาก ต้องจ้างคนกวาดวัด ครั้งหนึ่ง มีโยมซื้อเครื่องฟิตเนสไปถวายพระเถระผู้ใหญ่ในวัดนั้นด้วยความปรารถนาดีว่าหลวงพ่อท่านจะได้เอาไว้ออกกำลังกายต้านโรค 

พระเถระวัดบ้านนอกรูปหนึ่งท่านเล่าให้ผมฟัง แล้วเปรยขึ้นว่า ชอบกลดี หลวงพ่อมีเวลาเล่นฟิตเนส แต่ไม่มีเวลากวาดวัด!! 

———————-

เช้าๆ ผมเดินผ่านโรงเรียนหลายแห่ง และทุกแห่งได้เห็นเด็ก ทั้งเด็กโตและเด็กเล็กเป็นจำนวนมากกินอาหารเช้าจากร้านที่ขายอยู่ข้างโรงเรียน 

เห็นได้ชัดว่าแต่ละบ้านแต่ละครอบครัวสมัยนี้ไม่ได้หุงข้าวทำกับข้าวกินเองกันแล้ว

เรากำลังเข้าสู่ยุคสมัย-เอาโรงแรมเป็นบ้าน เอาร้านอาหารเป็นครัว

งานบ้านทุกเรื่องมีผู้รับบริการทำให้ เจ้าของบ้านไม่ต้องทำเอง

โลกเปลี่ยนไป วิถีชีวิตของชาวโลกก็เปลี่ยนไป เราไม่สามารถห้ามได้

แต่วิถีชีวิตของชาววัดเป็นชีวิตที่มีแบบแผน มีกิจวัตรที่เป็นเนื้อเป็นตัวของพระศาสนาแทรกอยู่ทุกขั้นตอน

ถ้าชาววัดรักษาวิถีชีวิตของชาววัดที่ถูกต้องไว้ไม่ได้

จะให้ชาวไหนมาช่วยรักษาพระศาสนาที่ถูกต้องไว้ล่ะขอรับ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *