ไวยาวัจมัย (บาลีวันละคำ 3,348)
ไวยาวัจมัย (บุญกิริยาวัตถุข้อ 5)
“ทำบุญช่วยงาน”
…………..
วิธีทำบุญตามแนวพระพุทธศาสนา เรียกว่า “บุญกิริยาวัตถุ” แปลว่า “ที่ตั้งแห่งการทำบุญ” มี 2 ชุด:
ชุดมาตรฐาน หรือชุดเล็ก มี 3 วิธี คือ –
1. ทานมัย ทำบุญด้วยการให้ปันสิ่งของ
2. สีลมัย ทำบุญด้วยการรักษาศีลหรือประพฤติดี
3. ภาวนามัย ทำบุญด้วยการเจริญภาวนา คือฝึกอบรมจิตใจเจริญปัญญา
ชุดใหญ่มี 10 วิธี คือขยายต่อจากชุดเล็กไปอีก 7 วิธี คือ
4. อปจายนมัย ทำบุญด้วยการประพฤติอ่อนน้อม
5. เวยยาวัจจมัย ทำบุญด้วยการช่วยขวนขวายรับใช้
6. ปัตติทานมัย ทำบุญด้วยการเฉลี่ยส่วนแห่งความดีให้แก่ผู้อื่น
7. ปัตตานุโมทนามัย ทำบุญด้วยการยินดีในความดีของผู้อื่น
8. ธัมมัสสวนมัย ทำบุญด้วยการฟังธรรมศึกษาหาความรู้
9. ธัมมเทสนามัย ทำบุญด้วยการสั่งสอนธรรมให้ความรู้
10. ทิฏฐุชุกัมม์ ทำบุญด้วยการทำความเห็นให้ตรง
…………..
ทำบุญวิธีที่ 5 “ไวยาวัจมัย”
อ่านว่า ไว-ยา-วัด-จะ-ไม
ประกอบด้วยคำว่า ไวยาวัจ + มัย
(๑) “ไวยาวัจ”
บาลีเป็น “เวยฺยาวจฺจ” อ่านว่า เวย-ยา-วัด-จะ รากศัพท์มาจาก วิ (คำอุปสรรค = วิเศษ, พิเศษ, แจ้ง, ต่าง) + อา (คำอุปสรรค = ทั่ว, ยิ่ง) + วฏฺ (ธาตุ = หมุน, แจก) + ณฺย ปัจจัย, ลบ ณฺ (ณฺย > ย), แปลง อิ ที่ วิ เป็น ย (วิ > วฺย) แล้วแปลง วยฺ เป็น เวยฺย, แปลง ฏ ที่สุดธาตุกับ ย (ณฺย ปัจจัย) เป็น จฺจ
: วิ > วฺย + อา + วฏฺ = วฺยาวฏฺ + ณฺย = วฺยาวฏณฺย > วฺยาวฏฺย > วฺยาวจฺจ > เวยฺยาวจฺจ แปลตามศัพท์ว่า “การหมุนไปรอบด้านอย่างวิเศษ” หมายถึง การบริการ, การเอาใจใส่, การรับใช้, การงาน, งาน, หน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย, หน้าที่การงาน (service, attention, rendering a service; work, labour, commission, duty)
บาลี “เวยฺยาวจฺจ” ในภาษาไทยใช้เป็น “ไวยาวัจ” (เวยฺยา เป็น ไวยา, วจฺจ ตัดตัวสะกดออกตัวหนึ่งเป็น วัจ)
พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 ไม่ได้เก็บรูปคำ “ไวยาวัจ” แต่เก็บเป็นรูปคำว่า “ไวยาวัจกร” และ “ไวยาวัจมัย”
คำว่า “ไวยาวัจกร” พจนานุกรมฯ บอกไว้ว่า –
“ไวยาวัจกร : (คำนาม) คฤหัสถ์ผู้ได้รับแต่งตั้งให้มีหน้าที่เบิกจ่ายนิตยภัตและมีอํานาจหน้าที่ดูแลรักษาจัดการทรัพย์สินของวัดตามที่เจ้าอาวาสมอบหมายเป็นหนังสือ. (ป. เวยฺยาวจฺจกร).”
(๒) “มัย”
บาลีเป็น “มย” อ่านว่า มะ-ยะ นักภาษาวิเคราะห์ความหมายของศัพท์ไว้ดังนี้ –
(1) มีความหมายว่า “มยํ” (มะ-ยัง) = ข้าพเจ้าเอง (“myself”)
(2) มีความหมายว่า “ปญฺญตฺติ” (บัญญัติ) = รับรู้กันว่าเป็นสิ่งนั้นสิ่งนี้ (“regulation”)
(3) มีความหมายว่า “นิพฺพตฺติ” = บังเกิด (“origin”, arising from)
(4) มีความหมายว่า “มโนมย” = ทางใจ (“spiritually”)
(5) มีความหมายว่า “วิการ” = ทำให้แปลกไปจากสภาพเดิมของสิ่งนั้น (“alteration”) เช่น เอาทองมาทำเป็นสร้อยคอ (ทอง = สภาพเดิม, สร้อยคอ = สิ่งที่ถูกทำให้แปลกจากเดิม)
(6) มีความหมายว่า “ปทปูรณ” (บทบูรณ์) = ทำบทให้เต็ม เช่น ทานมัย ก็คือทานนั่นเอง สีลมัย ก็คือศีลนั่นเอง เติม “มัย” เข้ามาก็มีความหมายเท่าเดิม (to make up a foot of the verse)
กฎของการใช้คำว่า “มย” ก็คือ ไม่ใช้เดี่ยวๆ แต่จะเป็นส่วนท้ายของคำอื่นเสมอ
เวยฺยาวจฺจ + มย = เวยฺยาวจฺจมย (เวย-ยา-วัด-จะ-มะ-ยะ) แปลตามศัพท์ว่า “บุญที่สำเร็จด้วยการช่วยขวนขวาย” หรือ “บุญที่สำเร็จด้วยไวยาวัจ” อาจเรียกสั้นๆ ว่า “ทำบุญช่วยงาน” หมายถึง บุญที่ทำด้วยวิธีช่วยขวนขวายทำกิจที่ควรทำของบุคคลก็ดี ของส่วนรวมก็ดี
“เวยฺยาวจฺจมย” ในภาษาไทยใช้เป็น “ไวยาวัจมัย”
ขยายความ :
พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า –
“ไวยาวัจมัย : (คำวิเศษณ์) ที่สําเร็จด้วยการขวนขวายช่วยเหลือ (ใช้แก่บุญ). (ป. เวยฺยาวจฺจมย).
ข้อสังเกต :
คำในชุดนี้บางคำเก็บไว้ในพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2542 แต่บางคำก็ไม่ได้เก็บไว้
ต่อมา พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 ได้เก็บคำในชุดนี้ไว้ครบทุกคำ และได้ปรับปรุงคำนิยามในพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2542 ให้สมบูรณ์ขึ้น เท่าที่สังเกตพบก็คือเพิ่มข้อความว่า “เป็นธรรมข้อ ๑ ในบุญกิริยาวัตถุ ๑๐. (ป.).”
เช่นคำว่า “ทานมัย” พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2542 บอกไว้ว่า –
“ทานมัย : (คำวิเศษณ์) สําเร็จด้วยทาน, แล้วไปด้วยทาน. (ป., ส.).”
พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 ปรับแก้เป็น –
“ทานมัย : (คำวิเศษณ์) สำเร็จด้วยทาน, แล้วไปด้วยทาน, เป็นธรรมข้อ ๑ ในบุญกิริยาวัตถุ. (ป., ส.).”
นั่นคือเพิ่มข้อความ “เป็นธรรมข้อ ๑ ในบุญกิริยาวัตถุ ๑๐.”
แต่ที่คำว่า “ไวยาวัจมัย” นี้ พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 คงใช้ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2542 คือไม่ได้เพิ่มข้อความ “เป็นธรรมข้อ ๑ ในบุญกิริยาวัตถุ ๑๐.”
พจนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับประมวลศัพท์ ของท่าน ป.อ. ปยุตฺโต บอกไว้ว่า –
…………..
เวยยาวัจจมัย บุญสำเร็จด้วยการช่วยขวนขวายในกิจที่ชอบ, ทำดีด้วยการช่วยเหลือรับใช้ผู้อื่น (ข้อ ๕ ในบุญกิริยาวัตถุ ๑๐); ไวยาวัจมัย ก็เขียน
…………..
โปรดสังเกต: พจนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับประมวลศัพท์ ของท่าน ป.อ. ปยุตฺโต สะกดคำนี้เป็น “เวยยาวัจจมัย” แต่ก็บอกไว้ว่า “ไวยาวัจมัย ก็เขียน”
พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 สะกดคำนี้เป็น “ไวยาวัจมัย”
ในที่นี้สะกด “ไวยาวัจมัย” ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554
พจนานุกรมบาลี-อังกฤษ มีคำว่า “เวยฺยาวจฺจ” แปลไว้ว่า service, attention, rendering a service; work, labour, commission, duty (การบริการ, การเอาใจใส่, การรับใช้, การงาน, งาน, หน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย, หน้าที่การงาน-อ้างแล้วข้างต้น) แต่ไม่มีคำที่สมาสกับ “มย” เป็น “เวยฺยาวจฺจมย”
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลธรรม ของท่าน ป.อ. ปยุตฺโต ข้อ [89] บุญกิริยาวัตถุ 10 บอกไว้ดังนี้ –
…………..
5. เวยยาวัจจมัย (ทำบุญด้วยการช่วยขวนขวายรับใช้ — Veyyāvaccamaya: by rendering services)
…………..
กิเลสหรือ “บาป” ที่เป็นข้าศึกแก่ “ไวยาวัจมัย” คือ โกสัชชะ (ความเกียจคร้าน) ประสมด้วยมักขะ (ความหลู่ความดีของผู้อื่น)
…………..
ดูก่อนภราดา!
: แม้แต่คนที่เห็นแก่ตัว
: ก็ยังไม่ชอบความเห็นแก่ตัว
#บาลีวันละคำ (3,348)
12-8-64