ธัมมัสสวนมัย (บาลีวันละคำ 3,353)
ธัมมัสสวนมัย (บุญกิริยาวัตถุข้อ 8 )
“ทำบุญฟังธรรม”
…………..
วิธีทำบุญตามแนวพระพุทธศาสนา เรียกว่า “บุญกิริยาวัตถุ” แปลว่า “ที่ตั้งแห่งการทำบุญ” มี 2 ชุด:
ชุดมาตรฐาน หรือชุดเล็ก มี 3 วิธี คือ –
1. ทานมัย ทำบุญด้วยการให้ปันสิ่งของ
2. สีลมัย ทำบุญด้วยการรักษาศีลหรือประพฤติดี
3. ภาวนามัย ทำบุญด้วยการเจริญภาวนา คือฝึกอบรมจิตใจเจริญปัญญา
ชุดใหญ่มี 10 วิธี คือขยายต่อจากชุดเล็กไปอีก 7 วิธี คือ
4. อปจายนมัย ทำบุญด้วยการประพฤติอ่อนน้อม
5. เวยยาวัจจมัย ทำบุญด้วยการช่วยขวนขวายรับใช้
6. ปัตติทานมัย ทำบุญด้วยการเฉลี่ยส่วนแห่งความดีให้แก่ผู้อื่น
7. ปัตตานุโมทนามัย ทำบุญด้วยการยินดีในความดีของผู้อื่น
8. ธัมมัสสวนมัย ทำบุญด้วยการฟังธรรมศึกษาหาความรู้
9. ธัมมเทสนามัย ทำบุญด้วยการสั่งสอนธรรมให้ความรู้
10. ทิฏฐุชุกัมม์ ทำบุญด้วยการทำความเห็นให้ตรง
…………..
ทำบุญวิธีที่ 8 “ธัมมัสสวนมัย”
อ่านว่า ทำ-มัด-สะ-วะ-นะ-ไม
ประกอบด้วยคำว่า ธัมมัสสวน + มัย
(๑) “ธัมมัสสวน”
เขียนแบบบาลีเป็น “ธมฺมสฺสวน” อ่านว่า ทำ-มัด-สะ-วะ-นะ แยกศัพท์เป็น ธมฺม + สวน
(ก) “ธมฺม” อ่านว่า ทำ-มะ รากศัพท์มาจาก ธรฺ (ธาตุ = ทรงไว้) + รมฺม (ปัจจัย) ลบ รฺ ที่สุดธาตุ (ธรฺ > ธ) และ ร ต้นปัจจัย (รมฺม > มฺม)
: ธรฺ > ธ + รมฺม > มฺม : ธ + มฺม = ธมฺม แปลตามศัพท์ว่า “สภาพที่ทรงไว้”
บาลี “ธมฺม” สันสกฤตเป็น “ธรฺม” เราเขียนอิงสันสกฤตเป็น “ธรรม”
“ธมฺม – ธรรม” มีความหมายหลายหลาก ดังต่อไปนี้ –
สภาพที่ทรงไว้, ธรรมดา, ธรรมชาติ, สภาวธรรม, สัจธรรม, ความจริง; เหตุ, ต้นเหตุ; สิ่ง, ปรากฏการณ์, ธรรมารมณ์, สิ่งที่ใจคิด; คุณธรรม, ความดี, ความถูกต้อง, ความประพฤติชอบ; หลักการ, แบบแผน, ธรรมเนียม, หน้าที่; ความชอบ, ความยุติธรรม; พระธรรม, คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าซึ่งแสดงธรรมให้เปิดเผยปรากฏขึ้น
บาลี “ธมฺม” สันสกฤตเป็น “ธรฺม” เราเขียนอิงสันสกฤตเป็น “ธรรม”
ในภาษาไทย พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกความหมายของ “ธรรม” ไว้ดังนี้ –
(1) คุณความดี เช่น เป็นคนมีธรรมะ เป็นคนมีศีลมีธรรม
(2) คําสั่งสอนในศาสนา เช่น แสดงธรรม ฟังธรรม ธรรมะของพระพุทธเจ้า
(3) หลักประพฤติปฏิบัติในศาสนา เช่น ปฏิบัติธรรม ประพฤติธรรม
(4) ความจริง เช่น ได้ดวงตาเห็นธรรม
(5) ความยุติธรรม, ความถูกต้อง, เช่น ความเป็นธรรมในสังคม
(6) กฎ, กฎเกณฑ์, เช่น ธรรมะแห่งหมู่คณะ
(7) กฎหมาย เช่น ธรรมะระหว่างประเทศ
(8 ) สิ่งของ เช่น เครื่องไทยธรรม
ในที่นี้ใช้ตามรูปบาลีเป็น “ธัมม” ความหมายเน้นหนักตามข้อ (1) ถึง (6)
(ข) “สวน” อ่านว่า สะ-วะ-นะ รากศัพท์มาจาก สุ (ธาตุ = ฟัง) + ยุ ปัจจัย แปลง ยุ เป็น อน (อะ-นะ), แผลง อุ ที่ สุ เป็น โอ แล้วแผลง โอ เป็น อว (สุ > โส > สว)
: สุ > โส > สว + ยุ > อน = สวน แปลตามศัพท์ว่า “การฟัง”
“สวน” ในภาษาบาลีใช้ในความหมายดังนี้ –
(1) หู (the ear)
(2) การฟัง (hearing)
ธมฺม + สวน ซ้อน สฺ ระหว่างบทหน้ากับบทหลัง
: ธมฺม + สฺ + สวน = ธมฺมสฺสวน แปลว่า “การฟังธรรม”
โดยถ้อยคำ “ธมฺมสฺสวน” หมายถึงฟังพระธรรมคำสอนอันมีในพระพุทธศาสนา แต่โดยความหมาย “ธมฺมสฺสวน” หมายถึงการศึกษาหาความรู้ความเข้าใจในหลักปฏิบัติอันดีงามทั่วไป
พจนานุกรมบาลี-อังกฤษ แปล “ธมฺมสฺสวน” ว่า hearing the preaching of the Dhamma, “going to church” (การฟังธรรม, “การไปวัด”)
“ธมฺมสฺสวน” ในที่นี้เขียนแบบไทยเป็น “ธัมมัสสวน-” มีคำอื่นมาสมาสข้างท้าย อ่านว่า ทำ-มัด-สะ-วะ-นะ-
พจนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับประมวลศัพท์ ของท่าน ป.อ. ปยุตฺโต มีคำว่า “ธรรมสวนะ” บอกไว้ดังนี้ –
…………..
“ธรรมสวนะ : การฟังธรรม, การหาความรู้ความเข้าใจในหลักความจริงความถูกต้องดีงาม ด้วยการเล่าเรียน อ่านและสดับฟัง, การศึกษาหาความรู้ที่ปราศจากโทษ; ธัมมัสสวนะ ก็เขียน.”
และที่คำว่า “ธัมมัสสวนะ” บอกไว้ว่า –
“ธัมมัสสวนะ : การฟังธรรม, การสดับคำแนะนำสั่งสอน; ดู ธรรมสวนะ.”
…………..
ข้อสังเกต : มีปัญหาว่า “ธมฺมสฺสวน” คำเดียว ในภาษาไทยควรสะกดอย่างไร “ธัมมัสสวนะ” หรือ “ธรรมสวนะ” ทั้งนี้เพราะพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 ไม่ได้เก็บคำนี้ไว้
คำว่า “ธัมมัสสวนะ” หรือ “ธรรมสวนะ” นี้ คนไทยพูดกันมาช้านาน แต่พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถานยังไม่เคยเก็บคำนี้ไว้
พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถานได้มีการพัฒนามาเป็นลำดับ จากฉบับ พ.ศ.2493 เป็นฉบับ พ.ศ.2525, ฉบับ พ.ศ.2542 และล่าสุดเป็นฉบับ พ.ศ.2554 ก็ไม่มีคำว่า “ธัมมัสสวนะ” หรือ “ธรรมสวนะ” อยู่นั่นเอง
ราชบัณฑิตยสภาควรมีโครงการเก็บรวบรวม “คำที่ตกสำรวจ” (คือคำที่ควรมีใน พจน. แต่ยังไม่มี) กรรมวิธีในการเก็บรวบรวมและตรวจสอบนั้นควรทำในเชิงรุก หมายความว่าไม่ควรทำเพียงนั่งรอให้มีผู้แจ้งเข้ามาอย่างเดียว แต่ควรออกไปตระเวนสืบหาในที่ต่างๆ ด้วย ระบบการสื่อสารในสมัยปัจจุบันเปิดกว้างมากแล้ว มีข้อเสนอจากใครอยู่ที่ไหน ราชบัณฑิตยสภาควรอยู่ในฐานะที่จะรับรู้ได้อย่างง่ายดาย โดยไม่ต้องรอให้ต้องทำเป็นหนังสือไปถึงโดยตรงตามระบบราชการแบบโบราณ
(๒) “มัย”
บาลีเป็น “มย” อ่านว่า มะ-ยะ นักภาษาวิเคราะห์ความหมายของศัพท์ไว้ดังนี้ –
(1) มีความหมายว่า “มยํ” (มะ-ยัง) = ข้าพเจ้าเอง (“myself”)
(2) มีความหมายว่า “ปญฺญตฺติ” (บัญญัติ) = รับรู้กันว่าเป็นสิ่งนั้นสิ่งนี้ (“regulation”)
(3) มีความหมายว่า “นิพฺพตฺติ” = บังเกิด (“origin”, arising from)
(4) มีความหมายว่า “มโนมย” = ทางใจ (“spiritually”)
(5) มีความหมายว่า “วิการ” = ทำให้แปลกไปจากสภาพเดิมของสิ่งนั้น (“alteration”) เช่น เอาทองมาทำเป็นสร้อยคอ (ทอง = สภาพเดิม, สร้อยคอ = สิ่งที่ถูกทำให้แปลกจากเดิม)
(6) มีความหมายว่า “ปทปูรณ” (บทบูรณ์) = ทำบทให้เต็ม เช่น ทานมัย ก็คือทานนั่นเอง สีลมัย ก็คือศีลนั่นเอง เติม “มัย” เข้ามาก็มีความหมายเท่าเดิม (to make up a foot of the verse)
กฎของการใช้คำว่า “มย” ก็คือ ไม่ใช้เดี่ยวๆ แต่จะเป็นส่วนท้ายของคำอื่นเสมอ
ธมฺมสฺสวน + มย = ธมฺมสฺสวนมย (ทำ-มัด-สะ-วะ-นะ-มะ-ยะ) แปลตามศัพท์ว่า “บุญที่สำเร็จด้วยการฟังธรรม” หรือ “บุญที่สำเร็จด้วยธัมมัสสวนะ” อาจเรียกสั้นๆ ว่า “ทำบุญฟังธรรม” หมายถึง บุญที่ทำด้วยวิธีสดับตรับฟังพระธรรมเทศนา หรือการแสดงธรรมในรูปแบบอื่นๆ ตลอดจนการศึกษาหาความรู้ในทางพระศาสนาและในเรื่องอันเป็นความดีงามทั่วไป
“ธมฺมสฺสวนมย” ในภาษาไทยใช้เป็น “ธัมมัสสวนมัย” (ทำ-มัด-สะ-วะ-นะ-ไม)
ขยายความ :
พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า –
“ธัมมัสสวนมัย : (คำวิเศษณ์) สำเร็จด้วยการฟังธรรมศึกษาหาความรู้, เป็นธรรมข้อ ๑ ในบุญกิริยาวัตถุ ๑๐. (ป.).”
พจนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับประมวลศัพท์ ของท่าน ป.อ. ปยุตฺโต บอกไว้ว่า –
…………..
ธัมมัสสวนมัย บุญสำเร็จด้วยการฟังธรรม (ข้อ ๘ ใน บุญกิริยาวัตถุ ๑๐)
…………..
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลธรรม ของท่าน ป.อ. ปยุตฺโต ข้อ [89] บุญกิริยาวัตถุ 10 บอกไว้ดังนี้ –
…………..
8. ธัมมัสสวนมัย (ทำบุญด้วยการฟังธรรมศึกษาหาความรู้ — Dhammassavanamaya: by listening to the Doctrine or right teaching)
…………..
กิเลสหรือ “บาป” ที่เป็นข้าศึกแก่ “ธัมมัสสวนมัย” คือ มิจฉาทิฏฐิ (การเห็นผิดจากทำนองคลองธรรม, การเห็นผิดเป็นชอบ)
…………..
ดูก่อนภราดา!
: ถ้าการฟังธรรมเป็นความคร่ำครึ
: การไม่ฟังธรรมก็ยิ่งทำให้คร่ำครึหนักเข้าไปอีก
#บาลีวันละคำ (3,353)
17-8-64