คนงี่เง่า
คนงี่เง่า
——–
เมื่อวันก่อน ผมเดินออกกำลังไปทางตลาดศรีเมือง เลี้ยวซ้ายผ่านทางเข้าตลาดไปทางวิทยาลัยเทคนิคราชบุรี ถึงหน้าวิทยาลัยก็พอดีเวลาเชิญธงขึ้นยอดเสา นักเรียนนักศึกษาซึ่งรวมพลชุมนุมกิจกรรมหน้าเสาธงตรงบริเวณประตูทางเข้าออกร้องเพลงชาติ
ผมหยุดเดิน ยืนตรงเคารพเพลงชาติ
บริเวณนั้นมีนักเรียนนักศึกษาที่ยังไม่ได้เข้าไปในวิทยาลัย ยืนเดินเกะกะอีกหลายคน
ต้องใช้คำว่า “ยืนเดินเกะกะ” เพราะตามความเข้าใจของผม เวลาที่เชิญธงขึ้นสู่ยอดเสานั้น นักเรียนนักศึกษาทุกคนต้องไปถึงโรงเรียนและเข้าร่วมกิจกรรมหน้าเสาธงโดยพร้อมเพรียงกัน ใครมาช้าจะต้องถูกกักตัวเพื่อลงโทษ
ผมเข้าใจว่าเวลานี้โรงเรียนต่างๆ ในประเทศไทย-โดยเฉพาะโรงเรียนสังกัดหน่วยราชการ-คงจะเลิกใช้ระบบที่ว่านี้กันหมดแล้ว
ผ่านไปทางโรงเรียนไหนๆ เห็นภาพที่หดหู่ใจอย่างยิ่ง คือนักเรียนส่วนหนึ่งที่ไปเข้าแถวเคารพธงชาติก็เข้าแถวกันไป
ส่วนที่นั่งกินข้าวกันอยู่ข้างโรงเรียนก็นั่งกินกันไป
ส่วนที่กำลังมาก็มากันไป
เหมือนกับไม่ได้มีระเบียบกฎเกณฑ์ใดๆ ทั้งสิ้น อิสระ เสรีเหนืออื่นใด
การไม่ได้ฝึกความมีระเบียบวินัยไปตั้งแต่วัยต้น
ก็คือการช่วยกันสร้างโจรเอาไว้ปล้นประเทศชาติในอนาคตนั่นแล้ว
……………
แม่หนูระดับ ปวช. ที่เดินอยู่ข้างหน้าผม พอเสียงร้องเพลงชาติดังขึ้นก็ยังเดินส่ายสะโพกไปอีกหลายก้าว แล้วและคงจะเกรงใจอะไรสักอย่างก็เลยหยุดเดิน
ไม่ได้ยืนเคารพเพลงชาติ
แต่ยืนอย่างเสียไม่ได้
ขยับตัวไปมาตลอดเวลา
และพอเสียงเพลงขึ้นวรรคสุดท้าย .. เถลิงประเทศชาติไทย … ก็แล่นถลาออกไปอย่างรวดเร็ว
เราฝากอนาคตของชาติไว้กับลูกหลานชนิดเช่นนี้
——————-
ถัดวิทยาลัยเทคนิคราชบุรีไปเป็นศูนย์อนามัย
ถัดศูนย์อนามัยเป็นโรงเรียนอนุบาลราชบุรี
ผมเดินไปถึงโรงเรียนอนุบาลก็ได้ยินประกาศดังออกมาจากโรงเรียนให้นักเรียนเตรียมตัวเคารพธงชาติ
พอเสียงเพลงชาติดังขึ้น-เป็นเสียงร้องสดของนักเรียน ไม่ใช่เครื่องบันทึกเสียง-ผมก็หยุดเดิน ยืนตรงฟังเพลงชาติและร้องตามเบาๆ ตามที่เคยทำ
เช้าวันนั้นโชคดี ได้ยืนเคารพเพลงชาติ ฟังเพลงชาติ และร้องเพลงชาติ ๒ ครั้ง
พอเพลงชาติจบผมก็ออกเดินต่อไป ถึงทางแยก ถ้าเลี้ยวขวาก็จะเห็นห้างโรบินสันอยู่ซ้ายมือ และถ้าเดินเลี้ยวตามถนนนั้นเข้าไปก็จะถึงโรงเรียนราชโบริกานุเคราะห์
แต่ผมไม่ได้เลี้ยว ผมเดินตรงต่อไป ถึงสำนักงานเทศบาลเมืองราชบุรีในขณะที่เสียงตามสายของเทศบาลเริ่มส่งสัญญาณเตรียมตัวเคารพธงชาติในเวลา ๐๘:๐๐ (ถ้าผมเลี้ยวไปทางโรงเรียนราชโบริกานุเคราะห์ ก็คงได้ยืนเคารพธงชาติที่หน้าโรงเรียนเป็นครั้งที่ ๓ ในวันเดียวกัน!)
คงเดากันได้นะครับว่า เมื่อผมยืนตรงเคารพเพลงชาติอยู่บนถนนหน้าสำนักงานเทศบาลเมืองราชบุรีในเช้าวันนั้น มีผมคนเดียวที่ยืนตรงเคารพเพลงชาติ
รถทุกคัน คนทุกคน (ถ้ามี) ที่อยู่ในบริเวณนั้นคงปฏิบัติภารกิจในชีวิตประจำวันของตนไปตามปกติเหมือนกับไม่ได้มีเสียงเพลงชาติดังกังวานอยู่ในเวลานั้น
——————-
ตัดกลับมาที่เช้าวันนี้ (๘ สิงหาคม ๒๕๕๙)
ผมเดินออกกำลังไปทางเจดีย์หัก ผ่านสะพานข้ามถนนที่กำลังก่อสร้างใกล้จะเสร็จ ไปจนถึงองค์พระเจดีย์ ไหว้พระที่นั่น เดินดูอะไรแถวนั้นอยู่พักหนึ่งก็เดินกลับ
ขากลับผมซอกแซกเข้าไปในซอยคนละฟากถนนกับห้าง makro ผมเดินซอยนี้ตั้งแต่ยังเป็นป่ารกจนกระทั่งป่าถูกไถจนจะราบเรียบหมดแล้ว น่าเสียดาย ในซอยนี้มีพม่าเช่าบ้านอยู่กันหนาแน่น
เดินทะลุซอยมาออกถนนต้นสำโรง-เจดีย์หักที่เดินเมื่อขาไป พอใกล้ถึงแยกต้นสำโรง ตรงนั้นมีร้าน CJ ที่กำลังจะเป็นคู่แข่งของเซเว่นอยู่ร้านหนึ่ง เสียงสัญญาณเคารพเพลงชาติจากเสียงตามสายก็ดังขึ้น
……………
“ธงชาติและเพลงชาติไทย เป็นสัญลักษณ์ของความเป็นไทย
เราจงร่วมใจยืนตรงเคารพธงชาติ ด้วยความภาคภูมิใจในเอกราช
และความเสียสละของบรรพบุรุษไทย”
……………
พอเพลงชาติดังขึ้น ผมก็หยุดเดิน ยืนตรง
ห่างจากผมออกไปราว ๕ เมตร หนุ่มหล่อนายหนึ่ง แต่งตัวดี นั่งโดดเด่นเป็นสง่า สูบบุหรี่อย่างสบายใจอยู่หน้า CJ
เขาไม่ได้มีท่าทีว่าจะได้ยินเสียงเพลงชาติ และไม่ได้แสดงอาการว่าจะทำอะไรนอกจากนั่งหล่ออยู่ในที่เดิม ท่าเดิม
จากตรงนั้น เราประจันสายตากันด้วยมาดที่มุ่งมัน
เขา มั่นอยู่ในจุดนั่งของเขา
ผม มั่นอยู่ในจุดยืนของผม
จากจุดนั่งของเขา ผมได้ยินเสียงอึงคะนึงในห้วงนึกของเขา
“รักชาตินี่ต้องยืนเคารพเพลงชาติเท่านั้นหรือ ทำอย่างอื่นไม่รักชาติงั้นหรือ งี่เง่าชะมัด”
จากจุดยืนของผม ผมก็ได้ยินเสียงอึงคะนึงในห้วงนึกของผม
“รักชาติทำได้หลายวิธี ยืนตรงเคารพเพลงชาตินี่ก็เป็นวิธีหนึ่ง ถือว่าเป็นมารยาททางสังคมชนิดหนึ่งด้วย
คุณจะให้ผมเชื่อหรือว่าคุณมีวิธีรักชาติแบบอื่นอีก ในเมื่อโอกาสที่จะแสดงความรักชาติ แสดงความเป็นไทย มาอยู่ตรงหน้าคุณเดี๋ยวนี้นี่แล้วคุณยังไม่ทำเลย
ผมไม่พูดว่างี่เง่าชะมัดหรอก เพราะนั่นมันก็ยังเบาเกินไป”
นาวาเอก ทองย้อย แสงสินชัย
๘ สิงหาคม ๒๕๕๙
๑๔:๔๓